ผู้จัดการรายวัน – ศึกหนักตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ยังมีผลกับผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อ แอลจีรุกหนักเน้นปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ชูด้านไลฟ์สไตล์และอินโนชั่น ล่าสุดจับมือ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ช่อง3 และ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ผุดรายการ “แอลจี สตารซ์ ทาเลนต์” เฟ้นหาไอดอลกลุ่มใหม่ป้อนวงการบันเทิง หวังเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นด่านแรก มั่นใจขึ้นสู่แบรนด์ระดับ ท็อป3 ในใจผู้บริโภคได้ปีนี้
นายอลงกรณ์ ชูจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แอลจีอีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ยอมรับว่าเรื่องของแบรนด์ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่ลูกค้าให้ความสนใจเพื่อนำไปตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นอันดับต้น ซึ่งที่ผ่านมาแอลจีจะมุ่งในเรื่องของ สินค้าที่มีแวลู ฟอร์ มันนี่ มาโดยตลอด จนทำให้ก้าวขึ้นสู้ในใจผู้บริโภคในระดับท็อป 5 ของการเป็นแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะตัดสินใจซื้อ
แต่ในปีนี้ทางบริษัทฯต้องการที่ก้าวขึ้นสู่ระดับท็อป 3 ดังนั้นปีนี้จึงได้มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์เป็นหลัก ภายใต้งบการตลาดรวมตลอดทั้งปีกว่า 800-1,000 ล้านบาท โดยจะชูสินค้าในภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ความมีไลฟ์สไตล์ และอินโนเวชั่นที่ทันสมัย ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มนำเสนอผ่านสินค้ากลุ่ม มือถือ สำหรับคนรุ่นใหม่ไปบ้างแล้ว โดยได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น
ล่าสุดทางบริษัทฯได้ร่วมกับทาง ช่อง3/บีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเม้นต์ และ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เปิดตัวรายการ แอลจี สตารซ์ ทาเลนต์ “LG Starz Talent” เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถด้านการร้อง เต้น และการแสดง แจ้งเกิดในวงการบันเทิง ซึ่งจะออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นเวลา 6 อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 8 มิ.ย.-13 ก.ค.นี้
สำหรับโปรเจกต์รายการดังกล่าว บริษัทฯได้มีการใช้งบประมาณกว่า 50-60 ล้านบาท เพื่อทำให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการเซ็ท LG House ที่จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ แอลจี ไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้เข้าประกวด ที่จะต้องเข้ามาใช้สถานีที่ดังกล่าวในการฝึกซ้อมระหว่างการแข่งขันด้วย ซึ่งทางบริษัทฯมองว่ารายการดังกล่าว จะทำให้แอลจี ได้รับความสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น หรือสามารถช่วยผลักดันให้แบรนด์แอลจี ขึ้นสู่ระดับ ท็อป 3 ของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อได้ในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตามทางด้าน ช่อง 3 จะดูแลทางด้านของสื่อที่จะเผยแพร่ พร้อมกันนี้ยังเป็นการขยายเพิ่มรายการสำหรับกลุ่มเยาวชนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งกลุ่มเยาวชนที่จะเข้าประกวด อายุตั้งแต่ 14-24 ปีนั้น นอกจากจะได้มีโอกาสเข้ามาเป็นดาราในสังกัดของทางช่อง 3 แล้ว อีกทางหนึ่งยังจะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมเป็นศิลปินหน้าใหม่ของทาง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะดูแลทางด้านโปรดักชั่น รวมถึงการจัดการแสดงคอนเสิร์ตทั้งหมดด้วย
นายอลงกรณ์ ชูจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แอลจีอีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ยอมรับว่าเรื่องของแบรนด์ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่ลูกค้าให้ความสนใจเพื่อนำไปตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นอันดับต้น ซึ่งที่ผ่านมาแอลจีจะมุ่งในเรื่องของ สินค้าที่มีแวลู ฟอร์ มันนี่ มาโดยตลอด จนทำให้ก้าวขึ้นสู้ในใจผู้บริโภคในระดับท็อป 5 ของการเป็นแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะตัดสินใจซื้อ
แต่ในปีนี้ทางบริษัทฯต้องการที่ก้าวขึ้นสู่ระดับท็อป 3 ดังนั้นปีนี้จึงได้มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์เป็นหลัก ภายใต้งบการตลาดรวมตลอดทั้งปีกว่า 800-1,000 ล้านบาท โดยจะชูสินค้าในภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ความมีไลฟ์สไตล์ และอินโนเวชั่นที่ทันสมัย ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มนำเสนอผ่านสินค้ากลุ่ม มือถือ สำหรับคนรุ่นใหม่ไปบ้างแล้ว โดยได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น
ล่าสุดทางบริษัทฯได้ร่วมกับทาง ช่อง3/บีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเม้นต์ และ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เปิดตัวรายการ แอลจี สตารซ์ ทาเลนต์ “LG Starz Talent” เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถด้านการร้อง เต้น และการแสดง แจ้งเกิดในวงการบันเทิง ซึ่งจะออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นเวลา 6 อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 8 มิ.ย.-13 ก.ค.นี้
สำหรับโปรเจกต์รายการดังกล่าว บริษัทฯได้มีการใช้งบประมาณกว่า 50-60 ล้านบาท เพื่อทำให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการเซ็ท LG House ที่จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ แอลจี ไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้เข้าประกวด ที่จะต้องเข้ามาใช้สถานีที่ดังกล่าวในการฝึกซ้อมระหว่างการแข่งขันด้วย ซึ่งทางบริษัทฯมองว่ารายการดังกล่าว จะทำให้แอลจี ได้รับความสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น หรือสามารถช่วยผลักดันให้แบรนด์แอลจี ขึ้นสู่ระดับ ท็อป 3 ของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อได้ในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตามทางด้าน ช่อง 3 จะดูแลทางด้านของสื่อที่จะเผยแพร่ พร้อมกันนี้ยังเป็นการขยายเพิ่มรายการสำหรับกลุ่มเยาวชนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งกลุ่มเยาวชนที่จะเข้าประกวด อายุตั้งแต่ 14-24 ปีนั้น นอกจากจะได้มีโอกาสเข้ามาเป็นดาราในสังกัดของทางช่อง 3 แล้ว อีกทางหนึ่งยังจะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมเป็นศิลปินหน้าใหม่ของทาง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะดูแลทางด้านโปรดักชั่น รวมถึงการจัดการแสดงคอนเสิร์ตทั้งหมดด้วย
