เรื่องของชุดชั้นในนั้นแสนมีเสน่ห์และมีอะไรให้ค้นหาไม่น้อย
แต่สาวไทยจำนวนมากกลับมองว่า “ใส่เฉพาะแค่ข้างใน ไม่จำเป็นต้องโชว์ให้ใครเห็น”
ทว่า สำหรับเธอแล้วผู้ที่หลงใหลชุดชั้นในแฟชั่นจากต่างประเทศ ในวันว่างที่ดูเหมือนไม่ใช่วันว่าง สำหรับสาวน้อยวัย 22 ปี นัยตาแขกคนนี้ เธอต้องวิ่งไล่ตามเทรนด์แฟชั่นตลอดเวลา
แม้กระทั่งการเดินชอปปิ้ง ย่านสยามสแควร์ หรือกระทั่งไปต่างประเทศ ก็ต้องสอดส่ายสายตาดูเทรนด์ และนี่แหละ คือเธอ “โซเนีย-ศิวรักษ์ ศรีชวาลา” หรือทายาทเจเนอเรชั่นที่ 4 ของตระกูล “ศรีชวาลา” ผู้กล้าฉีกกฎการใส่ชุดชั้นในของสาวไทย
วันนี้นอกจากเป็นผู้บริโภคที่ต้องซื้อชุดชั้นในเองแล้ว ยังทำธุรกิจเกี่ยวกับชุดชั้นในแบรดน์ ไคร่า อีกด้วย
“ศิวรักษ์ ศรีชวาลา” หรือมีชื่อเล่นว่า “โซเนีย” ทายาทเจเนอเรชั่นที่ 4 ของตระกูล “ศรีชวาลา” คือเธอคนนี้
ศิวรักษ์ ได้เล่าถึงที่มาและที่ไปของการทำธุรกิจชุดชั้นในแบรนด์ “ไคร่า” ว่า เพราะตนเองเป็นผู้หลงใหลชุดชั้นในอย่างมาก เวลาไปต่างประเทศก็ซื้อมาหลายตัว และด้วยความมีประสบการณ์โดยตรงไปศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดระหว่างชุดชั้นในประเทศไทย กับชุดชั้นในต่างประเทศว่า มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกันด้วย โดยตลาดชุดชั้นในต่างประเทศผู้หญิงจะสวมใส่ในรูปแบบแฟชั่น คือ สามารถใส่ออกมาโชว์ข้างนอกได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องปกปิดไว้อย่างในอย่างเดียว
จุดแตกต่างตรงนี้เอง ที่ทำให้รู้สึกว่าอยากจะทำธุรกิจนี้ขึ้นมา เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติหญิงไทยกับชุดชั้นใน
จากการร่ำเรียนโดยมีดีกรีจบการศึกษาจากอเมริกาด้านการตลาด จึงอยากลองทำธุรกิจที่ตนเองชื่นชอบ หรือเรียกว่าหลงใหลเอามากๆ จึงได้ตั้งบริษัท ไคร่า โมด จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจชุดชั้นในโดยเฉพาะ โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลงานด้านการตลาดและฝ่ายขาย และมีพี่สาวของตนเองดูแลด้านการผลิต ซึ่งเป็นโรงงานของเราเอง และดูแลด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศ กระทั่งปัจจุบันบริษัทไคร่า โมด ดำเนินธุรกิจมากว่า 4 ปี แล้ว
“จริงๆแล้ว มองว่าชุดชั้นในเป็นอีกหนึ่งชิ้น ที่สามารถนำมาโชว์ได้ไม่มีขีดจำกัดตามแบบฉบับสาวสมัยใหม่ทั่วโลก ซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีจากเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ถือเป็นปราการด่านแรกในการเผชิญสายตาบุคคลทั่วไป เราอยากสร้างตลาดชุดชั้นในลักษณะแฟชั่นให้กับสาวไทย โดยชุดชั้นในของไคร่าส่วนใหญ่จะใช้ผ้าที่มาจากประเทศไทยล้วนๆ มีบ้างที่เราเลือกใช้วัสดุตกแต่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะรุ่นหรูๆ”
โซเนีย เล่าว่า เจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นเรามีพี่น้องหลายคนมาก และมีการทำธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านแฟชัน สิ่งทอ กระทั่งอสังหาริมทรัพย์ เช่น อาคารฟิโก้ เพลซ, เลอฟินิกซ์ และโฮเทล บูติค สำหรับตนเองแล้วอยากทำธุรกิจแฟชัน ซึ่งในอนาคตยังวาดความฝันว่า อยากปั้นแบรนด์ไคร่าให้เป็นแบรนด์ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งเราอาจต่อยอดจากธุรกิจชุดชั้นในไปสู่ธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือกระทั่งเครื่องสำอาง น้ำหอม ซึ่งมองว่าในแง่ของแบรนด์ไคร่าสามารถทำได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
“ในแง่ของแบรนด์ตอนนี้ ถือว่า ไคร่ามีความโดดเด่นด้านคอนเซปต์การเป็นชุดชั้นในแฟชั่นอยู่แล้ว ขณะที่คาแรกเตอร์สำหรับคนรุ่นใหม่ สนุกสนาน มีไลฟ์สไตล์ สะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงที่ใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า”
ประสบการณ์การดำเนินธุรกิจชุดชั้นในไคร่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สอนให้เราหลายแง่หลายมุม ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่เรียนเก่ง แต่ระหว่างทฤษฎีกับการทำจริงไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราเรียนรู้จากการทำธุรกิจมันเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากตำราเรียน โซเนีย มองว่ามีเรื่องนอกกรอบให้เราต้องคิด ต้องทำเยอะแยะมากมาย ซึ่งปัจจุบันธุรกิจมาได้ถึงขนาดนี้ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีกูรูและทีมงานคอยช่วยคิดด้วย ว่าชุดชั้นในจะออกเป็นสไตล์ไหน ใช้ผ้าอะไร เทรนด์ไหนที่มาแรง
“ระบบการทำงานของที่นี่ อยากให้เป็นที่ทุกคนเปิดใจ ร่วมแรงร่วมใจกันคิดหรือทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงาน ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะต้องมาจากเราทั้งหมด โดยยึดว่าหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวแน่ๆ ส่วนในเรื่องของการสร้างแบรนด์ไคร่า ในขณะนี้คงต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งโซเนียจะเน้นคอนเซปต์ฉีกแนวการทำตลาด ด้วยคอลเลกชันใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง”
ด้วยวัยอันน้อยนิดทำให้การตัดสินใจบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญหรือต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างสูง ทางบ้านหรือคุณพ่อก็จะคอยช่วยตัดสินใจด้วย เช่น การนำศรีริต้า เจนเซ่น มาเป็นดีไซเนอร์ชุดชั้นในแบรนด์ไคร่า เพราะต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างๆ สูง ทำให้ต้องให้คุณพ่อช่วยชี้แนะว่า เมื่อลงทุนขนาดนี้แล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ หรือให้อะไรกลับมาบ้างในแง่ของแบรนด์
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีกูรูและทีมงานที่ช่วยกันทำธุรกิจแล้ว ในวันว่างๆ ของโซเนีย ก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไป แม้ว่าได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยก็ตาม คือ ออกกำลังกาย ชื่นชอบการชอปปิ้งขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะศึกษาเทรนด์แฟชั่นไปในตัวด้วย เพราะด้วยความที่เราขายชุดชั้นในที่เป็นแฟชั่น สามารถมิกแอนด์แมทซ์ได้ในหลากหลายโอกาส ทำให้เราต้องทำการบ้านค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเทรนด์แฟชั่น มีบ้างที่ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อดูเทรนด์ หรือบางทีก็ดูผ่านทางเว็บไซต์
โซเนีย กล่าวว่า สาวๆ หลายคนมองว่าชุดชั้นในใส่เฉพาะแค่อยู่ข้างใน แต่ที่จริงชุดชั้นในก็มีแฟชั่นตามฤดูกาลเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ฤดูร้อน ฝนหรือว่าหนาว โทนสีหรือตัวผ้า ก็มีคอลเลกชันที่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่าไม่ค่อยมีใครคิดถึงกันสักเท่าไร อย่างช่วงหน้าหนาวนี้ คอลเลกชันส่วนใหญ่ของชุดชั้นในจะโทนสีขรึมๆ เป็นต้น
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชุดชั้นในที่ขายความเป็นแฟชัน ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับสาวไทย แต่ขณะนี้
ผู้ประกอบการหลายเริ่มหันมาทำชุดชั้นในแฟชั่นกันมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น แต่เนื่องจากไคร่าเป็นแบรนด์ชุดชั้นในแรกที่ชูคาแรกเตอร์ดังกล่าว ทำให้ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรมากนัก เพราะสาวๆ ก็ยังจำชุดชั้นในแบรนด์ไคร่าได้
ในวงการตลาดชุดชั้นใน คงต้องจับตาดูสาวน้อยคนนี้ “ศิวรักษ์ ศรีชวาลา” ว่าจะสามารถพลิกตลาดชุดชั้นในเมืองไทยให้กลายเป็นแฟชั่นมากน้อยแค่ไหน และจะสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติความคิดของผู้หญิงไทยที่ยังคงเป็นรูปแบบค่อนข้างปิดที่คิดว่า ชุดชั้นในเป็นแค่สิ่งที่ใส่อยู่ภายในเท่านั้นได้หรือไม่
ถึงวันนั้นเราคงได้เห็น เมเจอร์เชนจ์ (Major Change/การเปลี่ยนแปลงใหม่หมด) ทัศนคติของสาวไทยในวงการชุดชั้นในแน่นอน