ผู้บริโภคหมดมู้ดชอปปิ้ง หลังปัจจัยลบกระหน่ำรุมเร้า “โรบินสัน” ตั้งการ์ดรับ เน้นทำกลยุทธ์การขายให้มีศักยภาพมากขึ้น ล่าสุด เปิดตัวแคมเปญ “My Lingerie : เสน่ห์ผู้หญิง..ต้องเซ็กซี่จากข้างใน” มั่นใจสิ้นปีปั้มรายได้จากแผนกชุดชั้นใน ทะลุ 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10%
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอมรับว่า สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภคอย่างมาก โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายก็เป็นได้ แต่ในต่างจังหวัดยังมองว่า การเมืองไม่ได้กระทบมากนัก แต่อาจจะเป็นเรื่องของสภาพเศรษฐกิจมากกว่า
อย่างไรก็ตาม รายได้จากลูกค้าต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในแผนกชุดชั้นในถือว่ามีการเติบโตใกล้เคียงกัน หรือสร้างรายได้ให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ปีนี้เชื่อมั่นว่าจะเติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่ใกล้เคียงกับยอดรายได้รวมบริษัทที่วางไว้ในปีนี้
ทั้งนี้ ในภาพรวมบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากโพซิชันนิงของทางห้างที่วางไว้กับความเป็นห้างที่เน้นสินค้าคุณภาพ แบบแวลู ฟอร์ มันนี่ ซึ่งตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคจะมองหาสินค้าในลักษณะดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ภาพรวมรายได้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ทำได้เกินเป้าที่วางไว้ค่อนข้างมาก
ส่วนในครึ่งปีหลังยอมรับว่า มีปัจจัยลบรุมเร้าค่อนข้างมาก จากเดิมอาจจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง ยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน หรือแม้แต่สภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกบ่อยในช่วงนี้ ก็ถือเป็นปัจจัยลบทั้งสิ้น สิ่งที่โรบินสันจะปรับตัวนั้นคงจะไม่การปรับอะไรมากมาย แต่จะมุ่งเน้นเรื่องของการให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นแทน เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้น
ส่วนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่จะเน้นให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น ล่าสุดในส่วนของแผนกชุดชั้นในสตรี บริษัทได้จัดทำแคมเปญ “มายด์ รองเจอเรย์” (My Lingerie : เสน่ห์ผู้หญิง..ต้องเซ็กซี่จากข้างใน) ภายใต้งบการตลาด 6-7 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขายระหว่างวันที่ 18-28 ก.ย.นี้ โดยลูกค้าจะได้รับบริการตรวจวัดสรีระทรวงอก จากผู้เชี่ยวชาญ Bra Advisor จำนวนกว่า 200 คน ในทุกสาขา พร้อมรับส่วนลดในการซื้อสินค้าชุดชั้นในสูงสุดถึง 50% คาดว่า ยอดขายในการจัดแคมเปญจะสูงถึง 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติประมาณ 10-20% หรือทั้งปีแผนกชุดชั้นในสตรีจะมีรายได้ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ในระดับเดียวกับภาพรวม ซึ่งรายได้จากแผนกชุดชั้นในสตรีนี้ คิดเป็น 5% ของรายได้รวมบริษัทฯที่วางไว้ในปีนี้
นางสาวสิรินิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันของสินค้าชุดชั้นในสตรี จะเป็นเรื่องของนวัตกรรม รวมถึงฟังก์ชันการใช้งาน ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภค จะเริ่มให้ความสนใจกับชุดชั้นในในความเป็นแฟชั่นมากขึ้น มีการซื้อแบบเซตมากขึ้น โดยในโรบินสันเอง ลูกค้าจะมีการซื้อต่อครั้งที่ประมาณ 2 ชุด โดยระยะเวลาในการซื้อจะอยู่ที่ 3-4 เดือนครั้ง
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอมรับว่า สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภคอย่างมาก โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายก็เป็นได้ แต่ในต่างจังหวัดยังมองว่า การเมืองไม่ได้กระทบมากนัก แต่อาจจะเป็นเรื่องของสภาพเศรษฐกิจมากกว่า
อย่างไรก็ตาม รายได้จากลูกค้าต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในแผนกชุดชั้นในถือว่ามีการเติบโตใกล้เคียงกัน หรือสร้างรายได้ให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ปีนี้เชื่อมั่นว่าจะเติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่ใกล้เคียงกับยอดรายได้รวมบริษัทที่วางไว้ในปีนี้
ทั้งนี้ ในภาพรวมบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากโพซิชันนิงของทางห้างที่วางไว้กับความเป็นห้างที่เน้นสินค้าคุณภาพ แบบแวลู ฟอร์ มันนี่ ซึ่งตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคจะมองหาสินค้าในลักษณะดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ภาพรวมรายได้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ทำได้เกินเป้าที่วางไว้ค่อนข้างมาก
ส่วนในครึ่งปีหลังยอมรับว่า มีปัจจัยลบรุมเร้าค่อนข้างมาก จากเดิมอาจจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง ยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน หรือแม้แต่สภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกบ่อยในช่วงนี้ ก็ถือเป็นปัจจัยลบทั้งสิ้น สิ่งที่โรบินสันจะปรับตัวนั้นคงจะไม่การปรับอะไรมากมาย แต่จะมุ่งเน้นเรื่องของการให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นแทน เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้น
ส่วนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่จะเน้นให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น ล่าสุดในส่วนของแผนกชุดชั้นในสตรี บริษัทได้จัดทำแคมเปญ “มายด์ รองเจอเรย์” (My Lingerie : เสน่ห์ผู้หญิง..ต้องเซ็กซี่จากข้างใน) ภายใต้งบการตลาด 6-7 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขายระหว่างวันที่ 18-28 ก.ย.นี้ โดยลูกค้าจะได้รับบริการตรวจวัดสรีระทรวงอก จากผู้เชี่ยวชาญ Bra Advisor จำนวนกว่า 200 คน ในทุกสาขา พร้อมรับส่วนลดในการซื้อสินค้าชุดชั้นในสูงสุดถึง 50% คาดว่า ยอดขายในการจัดแคมเปญจะสูงถึง 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติประมาณ 10-20% หรือทั้งปีแผนกชุดชั้นในสตรีจะมีรายได้ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ในระดับเดียวกับภาพรวม ซึ่งรายได้จากแผนกชุดชั้นในสตรีนี้ คิดเป็น 5% ของรายได้รวมบริษัทฯที่วางไว้ในปีนี้
นางสาวสิรินิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันของสินค้าชุดชั้นในสตรี จะเป็นเรื่องของนวัตกรรม รวมถึงฟังก์ชันการใช้งาน ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภค จะเริ่มให้ความสนใจกับชุดชั้นในในความเป็นแฟชั่นมากขึ้น มีการซื้อแบบเซตมากขึ้น โดยในโรบินสันเอง ลูกค้าจะมีการซื้อต่อครั้งที่ประมาณ 2 ชุด โดยระยะเวลาในการซื้อจะอยู่ที่ 3-4 เดือนครั้ง