xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดยกทรงนิ่งรอบ10ปี วาโก้มึนสาวไทยซื้อน้อยลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วาโก้ ชี้วิกฤติเศรษฐกิจกระทบตลาดชุดชั้นไม่โตในรอบ 10 ปี กำลังซื้อลดสาวไทยซื้อชุดชั้นในน้อยลง ไตรมาสแรกรายได้โต 2-3% พลาดเป้า  เร่งแก้เกมเพิ่มความถี่ปั้นคอลเลกชั่นใหม่ ชูดีไซน์แฟชั่นยั่วเงินในกระเป๋า แตกไลน์ชุดชั้นในปรับสรีระ ทะลวงผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป หวังสิ้นปีโต 10% กวาด 3,330 ล้านบาท ตามเป้า

นายอำนวย บำรุงวงศ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในวาโก้ เปิดเผยว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง กระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ส่งผลให้ตลาดชุดชั้นในมูลค่า 12,000 – 14,000 ล้านบาทในปีนี้ไม่เติบโตครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยพบว่าอัตราการซื้อต่อชิ้นต่อครั้งลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของบริษัทมีอัตราการเติบโตเพียง 2-3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเติบโต 10% หรือต่ำกว่าเกือบ 7%

“ปีนี้ตลาดชุดชั้นในแง่มูลค่าอาจจะลดลง โดยเฉพาะตลาดระดับกลางลงล่าง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าจากจีนเข้ามาตีตลาดชุดชั้นในดังกล่าว ส่วนในแง่ของปริมาณก็ไม่มีอัตราการเติบโต อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดชุดชั้นในตัวเลขในเชิงปริมาณระดับกลางลงล่างยังมีสัดส่วนมากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับชุดในระดับพรีเมียม”

สำหรับแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มความถี่ในการออกสินค้าคอลเลกชั่นใหม่ จากปกติสินค้าใหม่จะเปิดตัว 30% ต่อปี จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20-30% อีกทั้งยังเน้นในเรื่องอีโมชันเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้ชุดชั้นในเป็นเรื่องของแฟชั่นมากขึ้น แตกต่างจากเดิมมักจะมองในเรื่องของการใช้งาน ล่าสุดแตกไลน์ชุดชั้นในปรับสรีระ Science Hips เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 20 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังเปิดตัวชุดชั้นในคอลเลกชั่นใหม่เกิร์ลลี่ เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น

นายอำนวย กล่าวว่า แนวโน้มการแข่งขันตลาดผู้ประกอบการรายค่ายงัดกลยุทธ์ราคา โดยจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับวาโก้จะไม่เน้นกลยุทธ์ราคา เนื่องจากมั่นใจว่าผู้บริโภคชุดชั้นระดับพรีเมียมมีความภักดีต่อตราสินค้าสูง เมื่อเทียบกับชุดชั้นในระดับกลางล่างซึ่งมีราคาถูกกว่าวาโก้ 20% ผู้บริโภคจะไม่มีความภักดีต่อตราสินค้า และจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% หรือเพิ่มเป็น 3,330 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 3,300 ล้านบาท  ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 60% ตามด้วยไทรอัมพ์ 13% และซาบีนา 8%
กำลังโหลดความคิดเห็น