xs
xsm
sm
md
lg

ผาขาว เห็ดบาน พลาญสวรรค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระยะเดินเท้าเกือบ 20 กิโลเมตรจากบ้านบะไหถึงบ้านนาบัว เบื้องหน้าชะง่อนหินของน้ำตกถ้ำพวงแม้ไม่มีสายน้ำไหลแต่ก็ยังมีแววมยุราคลี่กลีบม่วงขาว เทียนดอยสีอมชมพูสะพรั่งบนก้านเล็กลู่ลมหวิวไปตามท่วงทำนองของฤดูกาล

...ดงดอกไม้บานบนพลาญหินนี้ คือจุดหมายต้นทางของการแรมจรไปเลยขอบผา

ในวันที่แดดร่มลมดีกว่าทุกวัน แม่ไร แม่ป้อง แม่หนูกับลูกหลานบ้านบะไหอีกหลายคน สะพายกระต่า แบกกระติ๊บข้าวเหนียว พกเกลือถือเสียม เหน็บหน้าไม้ พวกเขาเดินทอดน่องหายลับไปกลางหมู่ลานหิน ขับขานบทเพลงในจิตวิญญาณอันเสรีพัดพลิ้วเคลียคลอไปตามทางธรรมชาติสายโชคชะตาที่มีภูผาขาวโอบกอดไว้

แสงอาทิตย์ลอดไล้ป่าโปร่งตกกระทบบนในหน้าเปื้อนริ้วรอยของหญิงล่วงวัยนัยย์ตาใส แม่หนูก้มลงเก็บดอกเห็ดกลมๆ ที่ซ่อนบังร่างอยู่ใต้ใบไม้แห้ง "เห็ดระโงกกินได้" เธอพูดพร้อมรอยยิ้มน่ารักใคร่

...หรือจะเป็นสายตาและรอยยิ้มบริสุทธิ์เยี่ยงนี้เองที่ละลายใจหนุ่มไทยเมื่อสามสี่สิบปีที่ผ่านมา บนพลาญหินอันชุ่มชื้นที่มีหยาดน้ำค้าง กระดุมเงิน ดุสิตา สร้อยสุวรรณนาครอบครองทุ่ง ...วันเวลาในอดีตคล้ายหวนคืนอีกครั้ง

เหล่าแม่ลูกพากันนั่งพักพลางเก็บเห็ดเก็บหน่อไม้จากไผ่โจด แม่สามนางย้อนเล่าเรื่องราวของสงครามในฝั่งลาวที่ทำให้ต้องโยกย้ายถิ่นฐานมาถึงฝั่งไทยเมื่อยังแรกรุ่น แม่หญิงลาวส่วนใหญ่ได้พบรักกับชายไทยอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา พลังของความรักที่ปราศจากเงื่อนไข ข้ามขอบโขง ข้ามเส้นแดน ก่อเกิดหน่อเนื้อเชื้อไขในดินแดนไทยไว้ให้ชื่นชม

"ชาวบ้านเรียกภูนี้ว่าผาขาว" แม่หนูพูดพร้อมกับเล่ายาวถึงฝั่งลาวที่แม้จะมีของป่า-เห็ด-หน่อไม้มากมายกว่าฝั่งไทย แต่เมื่อข้ามฝากย้ายมาอยู่แล้ว ที่นี่คือบ้านที่สงบสุขตั้งแต่นั้นมา และผาขาวก็เป็นที่ที่ผู้ใหญ่ในตอนนั้นพาหนุ่มสาวชาวบ้านมาพึ่งพาอาศัยเป็นแหล่งอาหารช้านานมาเช่นกัน

บนเส้นทางเก่าแก่สายโชคชะตา แม่หนูยังก้าวเดินต่ออย่างมั่นคง แม่ป้องผู้เขินอายค่อยๆ เหยียบลงบนพลาญหินที่จับตะใคร่ แม่ไรที่ผ่านวัยแรกรุ่นมาหลังกว่าเลือกเส้นทางโลดโผน ขณะที่เด็กๆ เลือกจะจ้ำเดินไปล่วงหน้าด้วยกำลังวังชาของหนุ่มสาว

หลังจากปีนป่ายกันมาไกลพอสมควรความงามยังคงพร่างพรายอยู่รายรอบ บนเนินหินผามองลงมาเบื้องล่างแลเรือนยอดป่าเต็งรัง พุดผาเบียดแทรกเจริญลำอ่อนช้อยอยู่ตามหลืบหิน ทุ่งหญ้าไม้ดอกปกคลุมที่ราบสลับลานหิน ไม้ยืนต้นส่วนใหญ่แคระแกร็นไม่ได้สูงเสียดมากนัก เนื่องจากเติบโตอยู่บนภูหินทรายที่มีหน้าดินน้อย แต่ก็เป็นไม้อายุมากที่ให้ดอกผลรื่นรมย์ร่มเงามาเสมอ

ผ่านลำห้วย แอ่งน้ำใส สายน้ำน้อย แม่ป้องกับแม่ไรก้าวลงไปในน้ำระดับเข่า เก็บสาหร่ายปล้อง หนวดปลาดุก ผักปราบที่ขึ้นอยู่ในน้ำใสล้างใส่กระต่า แถมด้วยจับกบและปูหินมาได้อย่างละตัว แวะมาอีกหน่อยก็ช่วยกันเก็บผักหญ้าพื้นบ้านอย่างดอกขิงป่า หัวไก่เถื่อน กระเจียวดอกอ่อน บ่าบน ไว้เป็นผักแนมกับข้าวมื้อเที่ยง

ยามที่เห็ดระโงก หน่อไม้โจด และพืชผักสุมนอนอยู่เกือบเต็มกระต่า พอเดินข้ามขอบผาขาวมาถึงพลาญหินจนได้ยินเสียงน้ำตกแซ่ผาขาว ทุกคนก็ค่อยๆ ทยอยมารวมตัววางข้าวของ ก่อนเด็กหนุ่มจะพากันถือหน้าไม้ใส่หน้ากากลงไปดำน้ำหาปลาในลำห้วย เหล่าแม่ๆ เอาเห็ดเอาหญ้าไปล้างในกุมภลักษณ์แอ่งใหญ่ (หลุมหินคล้ายหม้อ) บ้างก็จุดไฟเตรียมหม้อตั้งรอน้ำเดือด หนุ่มๆ ที่เหลือล้อมวงกันร้องเพลงรับบรรยากาศ ท่ามกลางหยาดน้ำค้างที่มีหยดน้ำบนก้านกิ่งแวววาวสะท้อนแสงอาทิตย์

เรื่องเล่าของหนุ่มสาวบ้านบะไหขับขานผ่านเสียงหัวเราะและบทเพลงเรียบง่ายที่สร้างสรรค์กันเองบทแล้วบทเล่า

"ฟ้าฮ้องตึ่งไปจับอึ่งบะไห พวกเราเตรียมตัวไว้ละเหล่นนำเสียงฮ้อง
เสียงมันก้องภูผาห้วยใหญ่ ไปทางได๋กะได้ ทางถ้ำผาขาวบ่
หนาวบ่เย็นหลอกหล่า..." ท่อนหนึ่งของเพลงที่แอเป็นคนแต่ง

แต่บทเพลงบรรเลงผสานประกอบเสียงเคาะไม้นี้ แท้จริงแฝงฝังด้วยความในใจที่อัดแน่นนัก

เรื่องเล่าพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของ "โก้" เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเขาขี่มอเตอร์ไซด์ล้มจากต้นไม้ใหญ่ที่โค่นขวางทาง ฟันซี่หน้าของโก้หลุดไป 4 ซี่ แต่เพราะไม่มีบัตร ไม่มีเงิน โรงพยาบาลไม่รักษา วันนี้บาดแผลหายแล้วโก้ยังไม่กล้ายิ้มเต็มที่ ไม่เพียงแค่อาย เพราะฟันหน้าที่หายไปของโก้ยังคงย้ำเตือนให้พวกเขาคิดถึงฐานะและยถากรรมของคนไร้สัญชาติ

...แต่วันนี้โก้ก็อดยิ้มกว้างไม่ได้เมื่ออวดปลาจาดหลายตัวที่เพิ่งยิงได้จากลำห้วย

ปลาจาด ปลาเพย ปลาปก ปลากด ฝีมือเด็กบะไหเสียบไม้ไผ่ย่างไฟหอม แกงหน่อไม้ใส่เห็ดระโงกก็ส่งกลิ่นกรุ่นไปทั่วป่าตักพร้อมไว้ในถ้วยจานสังกะสีเคลือบ แม่หนูก็เรียกลูกชายคนเล็กที่กำลังเล่นน้ำอย่างเบิกบานด้วยน้ำเสียงสุดสวาทขาดใจ "หล้าน้อย กินข้าวเด้อ"

เมื่อตั้งวงข้าวอาหารรสแซ่บหลายก็พร่องไปอย่างรวดเร็ว แม้เห็ดชิ้นเล็กๆ ในถ้วยก็หนีบลงท้องไปพร้อมกับข้าวเหนียว

"เห็ดระโงกหรือเห็ดไข่อร่อยที่สุด เห็ดอย่างอื่นก็กินได้แต่ไม่อร่อยเท่า เวลาเก็บเห็ดจะเก็บแต่ดอกตูมๆ ดอกบานมันจะยุ่ยไม่เป็นดอกเวลาเอาไปแกง" แม่ไรอธิบายง่ายๆ ขณะที่แม่ๆ ช่วยกันเก็บจานชามไปล้าง

มื้ออาหารป่าของบ้านบะไห บนพลาญหิน เคียงน้ำ ข้างเสาเฉลียงทรงแปลกตา เส้นทางผาขาวของชาวบ้านยังประดับรอยเท้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในฤดูฝนอันอุดมสมบูรณ์

แต่อีกด้านหนึ่งฤดูกาลก็ทดสอบหนุ่มสาวในช่วงฤดูแล้ง

แม่ๆ เล่าวงจรไม่มีวันจบของเรื่องนี้ว่า หนุ่มสาวในหมู่บ้านมักจะออกไปหางานทำในเมืองเพราะไม่มีน้ำทำไร่ทำนา ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปนาน แต่เพราะไม่มีบัตรประชาชน เป็นคนเถื่อน จึงต้องหลบซ่อนอยู่ตามซอกเมืองทำงานกินค่าแรงรายวัน พอจะกลับบ้านก็กลัวโดนจับระหว่างทาง เลยทำให้หลายคนไม่ได้กลับบ้านนานหลายปี

แม่ไรเล่าว่าลูกชายคนโตก็เคยไปขายแรงงานเป็นเด็กเสริฟในร้านอาหารบนเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ กว่าจะหาจังหวะเหมาะได้กลับบ้านก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ปี ถึงจะมีรายได้จริงแต่ลูกก็ไม่มีความสุขกับชีวิตนอกบ้าน ไม่เหมือนกับดินแดนแห่งนี้ที่เขาสามารถทำมาหาหิน ไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผย มีความสุข เบิกบาน และมีศักดิ์ศรี

"มันอัดอั้นอยู่ในใจ...เราเกิดในไทย เป็นคนไทย...ทำไมไม่ใช่คนไทย" แอกับเพื่อนๆ พูดด้วยความปรารถนาที่กลายเป็นวังวนไม่รู้จบ เนื่องจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ยังนิ่งเฉยที่จะดำเนินการให้พวกเขาและคนในหมู่บ้านกว่า 70 คนเป็นคนไทยได้อย่างเต็มขั้น

...เมฆขาวคล้อยเคลื่อนบังแดดบ่าย หนุ่มๆ ชวนกันเดินขึ้นเนินผ่านป่าไปยังน้ำตกเร้นลับใต้หินชะโงกที่พวกเรียกว่า "แซ่ผาขาว" พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกระโดดลงแอ่งน้ำเย็นฉ่ำที่ห้อมล้อมไปด้วยพืชพรรณ มอส เฟินครึ้มเขียว

หล้าน้อยของแม่หนูยังหัดยิงปลาอยู่ในน้ำเอื่อยเฉื่อยแบบไม่อยากจะเดินกลับบ้าน แต่ก็จำใจขึ้นจากน้ำเมื่อได้ยินเสียงแม่ร้องเรียก

บนเส้นทางขากลับเมื่อหันหน้าหาผาขาวก็ได้เห็นแง่มุมอันน่าทึ่งของธรณีวิทยาได้ชัดเจนขึ้น โดยเสาเฉลียงขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายดอกเห็ด หินรูปเต่าชมจันทร์ หรือหินทรงแท่งมากมายในเบื้องหน้า ได้ผ่านร้อนหนาวด้วยอิทธิพลของลมและน้ำมานานแสนนาน ชั้นหินส่วนใดที่อ่อนแอเปราะบางกว่าจะถูกกัด-กร่อน-เซาะจนแตกทะลายออกทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ในที่สุดจะถูกพัดพาทำลายไปเหลือไว้แต่ส่วนที่แข็งแรงทนทานจนได้หินเป็นรูปเป็นทรงสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์

หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่อวดว่าปลายฝนต้นหนาวหรือหน้าหนาวที่นี่จะสวยงามราวกับแดนสวรรค์ ไม้ใหญ่จะออกดอกสีชมพูเหลืองขาว พุดผาตามพลาญหินก็จะออกสีขาวจนเต็มต้น ทั่วทั้งป่าจะมีสีสันจากทุ่งดอกไม้จนลายตา ซึ่งภูมิประเทศและบรรยากาศงดงามทั้งมวลในดินแดนผาขาวของชาวบ้านแถบนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจคุ้นเคยถ้าเคยไปเที่ยวยังอุทยานผาแต้มในฝั่งตำบลห้วยไผ่

ที่น่าเศร้าใจคือแม่ๆ และลูกหลานบ้านบะไหยังไม่ชัดเจนว่าพื้นที่ป่าในตำบลห้วยยางแห่งนี้อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่ประกาศเนื้อที่ประมาณ 12,500 ไร่เป็นอุทยานเมื่อปี พ.ศ.2534 หรือไม่ เพราะอยู่ในด้านแดนที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ยังไม่มีด่าน ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามายึดครองปลูกสิ่งก่อสร้าง ยังไม่เคยคับข้องใจในการกวดขันเรื่องการเก็บหน่อไม้ป่าจากเจ้าหน้าที่ ความรู้สึกในความเป็นเจ้าของป่าเป็นเจ้าบ้านจึงยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

พอใกล้ทางออกจากป่าทุกคนก็ใช้เวลาแวะพักเล่นน้ำตกใกล้ถ้ำผาขาวอีกเล็กน้อย หนุ่มๆ มองเห็นรังต่อที่ไม้ใหญ่ริมน้ำตกน้อยจึงจัดแจงเอาไม้ไผ่ด้ามยาวผู้ใบไม้แห้งตรงปลายเพื่อรมควันตัวต่อให้หนีออกจากรังก่อนจะสอยรังมันลงมา

ครั้นเมื่อสาวๆ เดินไปรอในระยะที่คิดว่าต่อจะบินตามไม่ถึง น้อยและเพื่อนๆ ก็สอยรังต่อลงมาได้สำเร็จ
ตัวอ่อนของต่อเป็นอาหารหายากรสแซ่บที่บ้านบะไหแบ่งฝากไปให้ญาติๆ ที่บ้านตามุยริมน้ำโขง เพื่อเป็นกำลังให้กับบ้านทางโน้นที่กำลังวิตกกังวลกับเขื่อนบ้านกุ่ม ซึ่งถ้าสร้างได้สำเร็จจะกระทบกับวิถีชีวิตของพี่น้องอย่างมิอาจประเมินค่า รวมทั้งพื้นที่ 500 กว่าไร่ในอุทยานแห่งชาติผาแต้มก็จะจมน้ำตามไปด้วย

เพียงวันหนึ่ง ณ ผาขาว เห็ดบาน พลาญสวรรค์ หากมิได้ขบคิดถึงหัวใจอันเปราะบางของกลุ่มคนเปลี่ยวร้างไร้สัญชาติ ชีวิตของพวกเขาช่างดูเปี่ยมล้นด้วยความสุขที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ เพราะดินแดนแห่งนี้ได้หลอมรวมคุณค่าของความรัก คุณค่าของคน คุณค่าของป่า เป็นหนึ่งเดียวไร้การแบ่งแยก

เยาวชนบ้านบะไห ได้รวมกันภายใต้ชื่อกลุ่ม "เด็กไทยริมโขง" หวังจะสานสร้างเครือข่ายเยาวชนในแถบริมน้ำโขง เพื่อทำงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยกันพัฒนาทักษะความรู้ให้เยาวชนสามารถเอาตัวรอดในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีโครงการจะสร้างห้องสมุดเยาวชนขึ้นที่บ้านบะไห เพื่อเปิดโลกทัศน์และสอนเพื่อนอ่านเขียนภาษาไทยให้คล่องแคล่วขึ้น การตั้งวงดนตรีเยาวชน รวมทั้งการทำศูนย์กีฬา และจัดกิจกรรมค่ายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเยาวชนในพื้นที่

***************************
ท่านสามารถสนับสนุนหนังสือ อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี หรืองบประมาณตามจิตศรัทธา
ที่อยู่ทางไปรษณีย์ 375 หมู่ 12 ซ.ราชวิถี ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลฯ 3400
ชื่อบัญชี น.ส.คำปิ่น อักษร น.ส.กิติกาญจน์ หาญกุล นายศิระศักดิ์ คชสวัสดิ์
ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านดู่ เลขบัญชี 322-0-23412-7
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม คุณคำปิ่น อักษร โทร. 089-627-7205
*ขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจาก แม้นวาด กุญชร ณ อยุธยา และสำนักพิมพ์ทางช้างเผือก



ปลาจาดจากฝีมือยิงหน้าไม้
แม่ป้องกำลังเก็บผักปราบ
แม่ไรกับเห็ดระโงกบานดอกโต
รังต่อ
วงสังสรรค์บนพลาญหินของเด็กไทยฮิมโขง
เส้นทางสายผาขาวของชาวบ้าน
เสาเฉลียงใหญ่ที่พักหลบแดด
หยาดน้ำค้าง
แอ่งน้ำใสในบริเวณผาขาว
กำลังโหลดความคิดเห็น