xs
xsm
sm
md
lg

เมธา จันทร์แจ่มจรัส จากแซลแมนสู่นักบริหารการขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จะมีซักกี่คนในกลุ่มของคนที่จบการศึกษาใหม่ ที่เริ่มทำงานบนสายอาชีพหนึ่ง แต่ฝันจะเดินบนเส้นทางอีกสายหนึ่ง ด้วยความฝันและมือเปล่า จนสามารถก้าวเดินมาถึงฝั่งฝันที่วาดไว้ "เมธา จันทร์แจ่มจรัส" ประธานผู้อำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของงกลุ่มแสนสิริ จำกัด (มหาชน) คือ อีกผู้หนึ่งที่ก้าวเดินบนเส้นทางฝันด้วยความมุ่งมั่น ฝีมือ บวกกับจังหวะชีวิต ที่น้อยคนจะได้รับ และสามารถก้าวเดินขึ้นมาสู่จุดหมายบนเส้นทางฝัน

"บอสใหญ่ พลัสฯ" เล่าถึงชีวิตการทำงาน จังหวะและโอกาส ที่ผลักดันให้ก้าวเดินมาจนถึงวันนี้ ว่า หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2530 ชีวิตการทำงานก็เริ่มต้นด้วยการเป็นพนักงานขายให้แก่บริษัทยักษ์ใหญ่ "เครือซิเมนต์ไทย" อยู่ 3 ปี แต่ด้วยความรู้สึกที่ยังอยากศึกษาต่อ ทำให้ต้องลาออกและเดินทางไปเรียนต่อ ในหลักสูตร การบริหารการจัดการ (MBA) ที่ประเทศสหรัฐฯ

"หลักจากจบหลักสูตร MBAกลับมา ผมเริ่มต้นทำงานในสาขาอาชีพใหม่ บนเส้นทางนักวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านการลงทุน ซึ่งยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน การเข้ามาทำงานในสายอาชีพวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจแต่ละประเภทนั้น ดูเหมือนจะยิ่งช่วยขยายมุมมองและแนวคิดในการบริหารธุรกิจให้กว้างยิ่งขึ้น จากเดิมที่เคยมีความรู้เฉพาะในตำราเรียน หลังจากที่เป็นนักวิเคราะห์ได้สักพักหนึ่งก็มีโอกาส เปลี่ยนงานใหม่โดยได้เข้าไปดูแลในส่วนสินเชื่อของ สถาบันการเงินแบงก์คอค อินเตอร์ แบงก์ฟาสซิลิตี้ (BITF) หรือ สำนักวิเทศธนกิจ ของประเทศเบลเยียม"

การทำงานในสาขาอาชีพต่างๆที่ผ่านมาทำให้รู้เรามีความรู้ ด้านการวิเคราะห์ความเสี่ยงของการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีประสบการณ์ในเรื่องการปล่อยสินเชื่อ ประสบการณ์ด้านการขาย แล้วจุดนี้เองทำให้มีความฝันว่าอยากจะทำงานด้านการบริหารความเสี่ยงเองบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นจังหวะและโอกาสที่ดี ที่กลุ่มแสนสิริ อยู่ในช่วงของการเพิ่มทุน ซึ่งแสนสิริฯ เองกำลังต้องการบุคลากรเข้ามาดูแลในส่วนงาน ด้านการลงทุนอสังหาฯ ซึ่งแสนสิริฯ กำลังตั้งหน่วยงาน อินเวสเตอร์เรชั่น หรือIR เข้ามาดูแลด้านการให้ข้อมูลและชักชวนให้นักลงทุน ทำให้มีโอกาสได้เข้ามาทำงานในส่วนดังกล่าว

" ที่รู้จักคุณเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัทแสนสิริฯ ก็เพราะร่วมเล่นกีฬาฟุตบอล ทำให้มีโอกาสรู้จักผู้บริหาร คุณเศรษฐา ก็ชวนให้เข้ามาดูแลการลงทุนของบริษัท ซึ่งเป็นอะไรที่ตนอยากจะทำงานด้านบริหารความเสี่ยง เป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถดี"

หลังจากที่ทำ IR ให้แสนสิริ ได้ประมาณ 1ปี 8 เดือน ก็ถือว่าได้มีโอกาส และจังหวะที่ดีเมื่อ นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ที่ขณะนั้นยังนั่งตำแหน่งประธานอำนวยการบริษัทฯ ลาออกไปทำธุรกิจของตัว ซึ่งขณะนั้นคุณเศรษฐา ก็ให้โอกาสได้เข้ามานั่งบริษัท บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งตรงนี่ถือว่าเป็นผมได้เข้ามาเดินอยู่บนความฝันที่วางไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม
นายเมธา เล่าว่า ธุรกิจของพลัสฯ จะเกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยง เป็นธุรกิจที่ต้องรู้ภาวะตลาด การตัดสินใจซื้อของลูกค้า การบริหารการก่อสร้างระยะเวลาการก่อสร้าง ทำให้มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเรามองภาวะตลาดผิด บริหารการก่อสร้างผิด นั่นคือความเสี่ยง

" ผมอยากบอกว่า การบริหารธุรกิจนั้น หากเราทำธุรกิจขนาดเล็ก เราเก่งคนเดียวได้ แต่สำหรับการบริหารงานบริษัทขนาดใหญ่แล้ว เราต้องมีทีมที่เก่ง ร่วมมือกัน เราต้องเก่งด้วยกัน ถ้าเก่งเพียงคนเดียวระบบไม่สามารถเดินไปได้ ดังนั้น ผมจึงถือคนติในการทำงานว่า ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมแก้ปัญหา และเข้าใจ ซึ่งนี้คือรากฐานแห่งการบริหารงานแบบเป็นทีม และมาถึงวันนี้ ผมสามารถกล่าวได้ว่า เรามีทีมที่แข็งแกร่ง และสามารถพัฒนาธุรกิจไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้"

หากถามว่า ณ วันนี้ ผมเดินทางมาถึงจุดของความสำเร็จแล้วหรือยังนั้น ต้องบอกว่า ผมเองไม่ใช่คนที่วางเป้าหายไว้ว่า จุดไหนคือความสำเร็จ เพราะการวางเป้าหมายไว้อย่างนั้น เมื่อวันหนึ่งเราถึงซึ่งจุดที่วางไว้จะทำให้เราอิ่มกับชีวิต และจะทำให้การทำงานของเราเริ่มอยู่ตัวหรือไม่กระตือรือร้น งานของเราก็จะไม่พัฒนาไม่สามารถผลักดันหรือสร้างงานให้มีการพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปได้อีก ดังนั้น จุดหมายหรือความสำเร็จในชีวิต จึงไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่ง แต่คือการก้าวไปข้างหน้า และต้องพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

"เมื่อไม่ได้ตั้งเป้าหมายความสำเร็จคือจุดไหน ทำให้ ทุกวันนี้มีแนวคิดในการทำงาน คือ ความสุข สุขกับการทำงาน สุขที่ได้ร่วมงานกับทีมงาน ในทุกๆวัน ทุกเวลา แม้ว่าในบางครั้งบางช่วง ปัญหาจะเข้ามาแต่เราก็พยามมองในแง่ดีมากกว่า แต่ก็ไม่ได้มองในด้านดีทั้ง100% เราจะมองด้านดีไว้ที่ประมาณ 60% ที่เหลือมองไว้เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา"นายเมธากล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น