นับเป็นผลงานอันน่าประทับใจของ "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่ประเดิม 4 สนามแรกในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์รุ่น 250 ซีซี ด้วยการเก็บแต้มได้ทุกสนาม มี 18 คะแนนรั้งอันดับ 13 ในตารางสะสมโลก ซึ่งก่อนที่ “เจ้าฟีม”จะบินลัดฟ้าไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อลงบิดในสนามที่ 5 ของปี ที่เลอ มังส์ ในวันอาทิตย์นี้ ทีมข่าวกีฬาผู้จัดการมีโอกาสได้พูดคุยแบบหมดเปลือกกับนักบิดเจ้าของฉายาเจ้าลิงน้อย ที่ชั่วโมงนี้คือนักกีฬาอาชีพหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย
MGR : ก่อนอื่นพูดถึงฉายาเจ้าลิงน้อยซักหน่อย อยากรู้จริงๆว่ามีที่มาอย่างไร ?
ฟีม : คือมีคนเรียกเยอะครับ จากเพื่อนๆที่เมืองไทยนี่แหละ อาจจะเป็นเพราะจากหน้าตา (หัวเพราะ) ผมเลยอยากที่จะมีสัญลักษณ์อะไรที่เป็นตัวของตัวเองบ้าง เหมือนกับนักแข่งในระดับโลกหลายๆคน เราก็เลยเอาซะหน่อย
MGR : มาที่เรื่องของผลงาน แม้จะเก็บแต้มได้ทุกสนามที่ผ่านมา แต่หลายคนหวังที่จะเห็นฟีมไปได้ไกลกว่านี้หลังได้ใช้รถโรงงาน ส่วนตัวฟีมเองคิดอย่างไร ?
ฟีม : เรื่องของผลการแข่งขันคือในปีนี้มีนักแข่งขยับขึ้นมา ขณะที่รถทุกคนในปีนี้เป็นจากโรงงานทุกคัน ฉะนั้นเรื่องรถปีนี้เหมือนกับฟีมทุกคน ทำให้เวลาแต่ละคนค่อนข้างจะสูสี หากใครออกสตาร์ทดีเกาะกลุ่มเอาไว้ได้ก็จะทำให้มีผลการแข่งขันที่ดี การที่ฟีมจะขยับขึ้นไปถือว่ายาก เพราะรถแต่ละคนสูสีกันมาก
MGR : แสดงว่าฟีมพอใจกับผลงานของตัวเองใน 4 สนามที่ผ่านมา ?
ฟีม : ก็พอใจนะครับ ทุกอย่างตอนนี้มันกำลังค่อยๆเป็นค่อยๆไป เราจะไม่พยายามกดดันตัวเอง เพราะตอนนี้เราก็กำลังไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างสนามที่จีนเราจบที่ 8 ได้ ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีของฤดูกาลนี้ที่จะทำให้เราติดอันดับ 1 ใน 10 ที่ตั้งเป้าไว้
MGR : ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เพราะปีที่แล้วฟีมสามารถจบที่ 8 ได้ในสนามที่ฝนตกหนัก อย่างดาร์ลิงตัน พาร์ค ที่อังกฤษ และล่าสุด ที่เซี่ยงไฮ้ ไปเป็นจ้าวแห่งสายฝนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ฟีม : คงไม่เป็นถึงจ้าวอะไรขนาดนั้นหรอกครับ แต่ก่อนที่จะเข้าแข่งระดับนี้ ฟีมมีโอกาสได้ไปแข่งในรายการออลแจแปนที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ แล้วญี่ปุ่นก็ฝนตกค่อนข้างบ่อย ทำให้เราได้ประสบการณ์ตรงนี้เยอะมาก จึงทำให้ทำผลงานออกมาดี
MGR : ถ้าเป็นเช่นนั้น ฟีมคงอยากให้ฝนเทลงมาอีกครั้ง ในการแข่งขันที่สนามเลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส วันอาทิตย์นี้ ?
ฟีม : ปกติแล้วสนามในยุโรปจะมีฝนชุกอยู่แล้วครับ ผมก็หวังฝนฟ้าฝนคงจะเป็นใจให้เราอีกครั้งในสนามนี้
MGR : ปีกว่าๆในเวิลด์จีพี มีเพื่อนนักแข่งคนไหนที่สนิทกันเป็นพิเศษหรือยัง ?
ฟีม : ก็คงเป็น ยูกิ ทากาฮาชิ ที่ค่อนข้างจะสนิทที่สุดครับ เพราะเป็นคนแถบเอเชียเหมือนกัน คุยกันง่ายหน่อย รวมถึงนิสัยเราก็คล้ายๆกัน ส่วนนอกนั้นฟีมก็ไม่ค่อยได้คุยกับใคร เพราะคนอื่นๆก็เป็นยุโรป แต่ที่แปลกคือนักขับพวกนี้พูดอังกฤษกันไม่ค่อยจะได้
MGR : ยูกิ ทากาฮาชิ ? ตอนนี้รั้งอันดับ 4 ในรุ่น 250 ซีซี รู้สึกจะใช้รถฮอนด้ารุ่นเดียวกับฟีมด้วย แต่ทำไมผลงานที่ออกมาดีกว่าเราเยอะพอสมควร ?
ฟีม : ใช่ครับ ใช้รุ่นเดียวกัน มีความแรงเท่ากันเลย ปีนี้รุ่น 250 ซีซีของฮอนด้า มีแค่รถของยูกิ กับรถฟีม แต่ต้องยอมรับตามตรงว่ารถแต่ละคันแม้จะมีสมรรถนะเท่ากันหมด แต่หัวใจอยู่ที่การเซ็ตรถ และอยู่ที่ว่าเราจะปรับตัวให้เข้ากับสนามได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องประสบการณ์ในระดับโลกที่เขามีมากกว่าเรา ผลการแข่งขันจึงออกมาอย่างที่เห็นครับ
MGR : เป็นนักแข่งรถระดับนี้เคยเล่นเกมมอเตอร์ไซค์บ้างรึเปล่า ?
ฟีม : อันนี้ประจำครับอยู่แล้ว จริงๆแล้วเกมช่วยเราได้พอสมควร นักขับทุกคนก็ใช้วิธีนี้ การเล่นเกมทำให้เรารู้ไลน์สนาม รู้โค้งในสนามที่เราไม่ถนัด จนทำให้เราจำทุกโค้งได้อย่างแม่นยำ
MGR : มีวิธีการเตรียมตัวในวันแข่งขันก่อนที่จะออกสตาร์ทอย่างไรบ้าง ?
ฟีม : สมาธิเป็นสิ่งสำคัญมาก ฟีมจะทำสมาธิประมาณซัก 5 นาที ก่อนออกสตาร์ททุกครั้ง แล้วก็นึกว่าเมื่อออกสตาร์ทไปแล้วเราจะต้องทำอะไร รวมถึงนึกถึงโค้งทุกโค้งในสนาม แล้วก็จินตนาการไปเรื่อยๆ มันก็จะช่วยเราได้เยอะ
MGR : ในเมืองไทยตอนนี้ชื่อของฟีม เป็นที่รู้จักไม่แพ้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ"แล้ว รู้สึกอย่างไรกับการเป็นซูเปอร์สตาร์ ?
ฟีม : เรื่องนี้ฟีมจะไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ครับ เพราะเป็นคนขี้อาย แล้วก็จะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ก็ส่วนมากจะอยู่กับเพื่อนๆมากกว่า แต่กับการที่เราขึ้นมามีชื่อเสียงก็ต้องรู้จักวางตัวรวมถึงทำแบบอย่างที่ดีให้กับนักแข่งรุ่นน้องๆ และที่สำคัญคือต้องทำให้น้องๆอยากขึ้นมาแข่งในระดับโลกแบบนี้บ้าง
MGR : สุดท้ายไม่ถามคงจะไม่ได้ เพราะวันนี้เห็นแล้วว่าฟีมไม่ได้มาคนเดียว อย่าบอกว่าเธอคนนั้นเป็นแค่เพื่อน ?
ฟีม : พี่ฆ่าผมจนได้...(ทำหน้าอาย) ก็คือก็คุยกันอยู่ครับ แม้ผมจะต้องอยู่ต่างประเทศ แต่เราก็คุยกันตลอด ทางอีเมล ทางเอ็มเอสเอ็น ซึ่งเขาก็เข้าใจ บางทีก็มีคุยไฮไฟฟ์ คุยกันบ้างอะไรประมานนี้ครับ(หน้าแดงก่ำ)