ผลสำรวจล่าสุดชี้ นโยบายขึ้นภาษีของทรัมป์ฉุดความสัมพันธ์ญี่ปุ่นสหรัฐฯ ในมุมมองคนญี่ปุ่น ดิ่งต่ำสุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่มีการสำรวจเมื่อปี 1998 โดยมีผู้มองว่าความสัมพันธ์ดีลดลงถึง 14.7%
อาซาฮี ชิมบุน เผยผลสำรวจของสำนักงานคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ระบุว่า ความรู้สึกของสาธารณชนญี่ปุ่นที่มีต่อสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนักหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น
จากผลสำรวจความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการทูตเบื้องต้น ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 70.8% คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ อยู่ในระดับ "ดี" หรือ "ค่อนข้างดี" ลดลง 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
อัตราการตอบรับเชิงบวกยังคงอยู่ในช่วงกลาง 80% ถึงต้น 90% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการที่รัฐบาลทรัมป์กำหนดมาตรการภาษีนำเข้าและมาตรการอื่นๆ ต่อญี่ปุ่น
ตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ปี 1998 (สมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน) ซึ่งเป็นปีแรกที่คำถามเดียวกันนี้ถูกรวมอยู่ในแบบสำรวจ
ในการสำรวจปี 2008 (สมัยประธานาธิบดี จอร์จ บุช)อัตราการตอบรับเชิงบวกอยู่ที่ 68.9%
ในการสำรวจล่าสุด อัตราส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่ “รู้สึกผูกพันอย่างมาก” หรือ “รู้สึกผูกพันในระดับหนึ่ง” ต่อสหรัฐอเมริกา ลดลง 7.9 จุด เหลือ 77.0%
แบบสำรวจทั่วประเทศดำเนินการทางไปรษณีย์ระหว่างวันที่ 25 กันยายน ถึง 2 พฤศจิกายน โดยได้รับคำตอบที่ถูกต้องจากผู้ตอบแบบสอบถาม 1,666 คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ตัวเลขเบื้องต้นอ้างอิงจากคำตอบที่ได้รับภายในวันที่ 24 ตุลาคม
(ภาพจากหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน) นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ พบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม


