เกียวโดนิวส์ (12 ม.ค.) บริษัทญี่ปุ่นถอนตัว ไม่เข้าร่วมโครงการรถไฟความเร็วสูงมาเลเซีย-สิงคโปร์ เสี่ยงเกินไปหากไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลมาเลเซีย
รัฐบาลและแหล่งข่าวของบริษัท กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทอีสต์เจแปนเรลเวย์ (East Japan Railway Co.) ต่างหวังว่าจะใช้ระบบรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นของญี่ปุ่นในโครงการนี้ แต่พวกเขาตัดสินใจว่ามันจะมีความเสี่ยงเกินไปหากไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลมาเลเซีย
การถอนตัวนี้อาจทำให้ธุรกิจของจีนที่เป็นคู่แข่งสามารถเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียตะวันออก หลังจากที่พวกเขาสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในอินโดนีเซียเสร็จในปี 2566 และกำลังสร้างอีกแห่งในประเทศไทย
วันจันทร์หน้าเป็นกำหนดเวลาในการยื่นเสนอราคา รัฐบาลมาเลเซียเริ่มเรียกร้องการประมูลในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2566
โครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1 แสนล้านริงกิต (2.1 หมื่นล้านดอลลาร์) แต่รัฐบาลมาเลเซียตั้งใจที่จะส่งเสริมโครงการนี้ผ่านการจัดหาเงินทุนภาคเอกชน แทนที่จะใช้การใช้จ่ายของรัฐบาล หรือขยายการค้ำประกันหนี้
แหล่งข่าวกล่าวเสริมว่า ในขณะที่บริษัทญี่ปุ่นกำลังจะถอนตัว บริษัทในท้องถิ่นหลายแห่งวางแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทจีนและยุโรปเพื่อยื่นประมูล
รัฐบาลมาเลเซียจะเริ่มการเจรจาอย่างเต็มรูปแบบกับรัฐบาลสิงคโปร์ในปลายปีนี้อย่างเร็วที่สุด
รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์เริ่มบรรลุข้อตกลงพื้นฐานในปี 2556 ในโครงการนี้ ซึ่งเรียกร้องให้มีการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงความยาว 350 กิโลเมตร ที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างกัวลาลัมเปอร์และนครรัฐให้เหลือเพียง 90 นาที เมื่อเทียบกับเส้นทางเดิมที่เดินทางโดยรถยนต์กว่า 4 ชั่วโมง
ทั้งนี้ บริษัทอีสต์เจแปนเรลเวย์และบริษัทการค้ารายใหญ่อย่างซูมิโตโม แสดงความสนใจในการเข้าร่วมโครงการ ในปี 2558 เคอิอิจิ อิชิอิ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นในขณะนั้นได้นำเสนอระบบชินคันเซ็นแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลมาเลเซียในระหว่างการเยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์
แต่ในปี 2564 นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มูห์ยิดดิน ยัสซิน ยกเลิกโครงการนี้เนื่องจากความกังวลเรื่องภาระทางการเงิน ก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม จะรื้อฟื้นโครงการอย่างเป็นทางการ