เกียวโดนิวส์ (11 ม.ค.) ศาลฎีกาของเกาหลีใต้พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่สั่งให้บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ผู้ผลิตเหล็กของญี่ปุ่น จ่ายค่าเสียหายให้ชาวเกาหลีใต้จากการใช้แรงงานในช่วงสงคราม
คำตัดสินนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วศาลมีคำสั่งให้บริษัทเอกชนญี่ปุ่นอีก 2 แห่งจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อของการบังคับใช้แรงงานในช่วงที่เกาหลีตกอยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น
คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ที่ดีขึ้น นับตั้งแต่โซลประกาศแผนกองทุนเงินชดเชยแรงงานสงครามเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาพิพาทแรงงานในช่วงสงครามกับญี่ปุ่น
ปลายปี 2018 ความสัมพันธ์ทวิภาคีเสื่อมถอยลง หลังจากศาลสูงเกาหลีใต้ยืนหยัดตามคำสั่งในการตัดสินแยกต่างหากต่อบริษัทนิปปอนสตีล (Nippon Steel) ซึ่งในขณะนั้นตั้งชื่อว่า นิปปอนสตีล แอนด์ซูมิโตโม สตีลคอร์ป (Nippon Steel & Sumitomo Metal Corp.) และบริษัท มิตซูบิชิเฮฟวี่ อินดัสตรี (Mitsubishi Heavy Industries Ltd.) กำหนดให้ต้องจ่ายค่าชดเชยสำหรับการบังคับใช้แรงงานในช่วงการปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่นในปี 1910-1945
ญี่ปุ่นกล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดที่เกิดจากการล่าอาณานิคมในคาบสมุทรเกาหลีได้รับการแก้ไข "อย่างสมบูรณ์และเป็นที่ยุติ" แล้วภายใต้ข้อตกลงทวิภาคีปี 1965
กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า "น่าเสียใจอย่างยิ่งและยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง" และโตเกียวได้ยื่นประท้วงกับโซล
โจทก์ในคดีเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นสมาชิกในครอบครัวของชาวเกาหลีใต้ที่ถูกระดมไปทำงานในโรงงานของผู้ผลิตเหล็กรายนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ชายผู้นี้ซึ่งเสียชีวิตในปี 2012 เขาถูกบังคับให้ทำงานในสภาพย่ำแย่และไม่ได้รับค่าจ้าง ตามการระบุของศาลสูง
ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ศาลแขวงกลางกรุงโซลได้ยึดถือคำสั่งศาลชั้นต้นให้ผู้ผลิตเหล็กรายนี้จ่ายเงิน 100 ล้านวอน (76,000 เหรียญสหรัฐ) ให้โจทก์
ทั้งนี้ โซลกล่าวเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้วว่า โจทก์ที่ชนะคดีข้อหาแรงงานบังคับระหว่างการปกครองอาณานิคม จะได้รับค่าชดเชยจากมูลนิธิที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้ แทนจากบริษัทที่ถูกฟ้อง