ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้พลิกกลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยสั่งให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้หญิงเกาหลี 16 คนที่ถูกบังคับให้เป็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” (comfort women) บำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ศาลอุทธรณ์ได้กลับคำตัดสินศาลชั้นต้นที่ให้ “ยกฟ้อง” คดีนี้ ในความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เรียกเสียงประท้วงอย่างรุนแรงจากรัฐบาลโตเกียว
ผลพวงจากการที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงปี 1910-1945 ยังเป็นประเด็นละเอียดอ่อนทางการเมืองที่บั่นทอนสายสัมพันธ์สองเพื่อนบ้านมาจนถึงทุกวันนี้ และอดีตสตรีเพื่อการผ่อนคลายหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาขออภัยอย่างเป็นทางการ และจ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่พวกเธอ
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ และนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น พยายามที่จะก้าวข้ามปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ และหันมากระชับความร่วมมือเพื่อตอบสนองภัยคุกคามจากจีนและเกาหลีเหนือ
หลังจากทราบคำตัดสินของศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ มาซาทากะ โอกาโนะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ก็ได้เรียก ยุน ดุกมิน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำกรุงโตเกียวเข้าพบเพื่อ “ประท้วงอย่างรุนแรง” ทันที
เหยื่อ 16 คนได้ยื่นคำร้องต่อศาลในปี 2016 โดยเรียกร้องเงินชดเชยจากรัฐบาลญี่ปุ่นรายละ 200 ล้านวอน (ประมาณ 5.4 ล้านบาท) ทว่าศาลแขวงกลางกรุงโซลได้พิพากษายกฟ้องในปี 2021 โดยอ้างหลักความคุ้มกันของรัฐ (sovereign immunity) ซึ่งเป็นหลักกฎหมายที่คุ้มครองไม่ให้รัฐหนึ่งๆ ถูกฟ้องคดีแพ่งในศาลต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ศาลสูงกรุงโซลได้กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยวินิจฉัยว่าศาลเกาหลีใต้มีอำนาจตัดสินคดีความซึ่งมีรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นจำเลยได้
คำแถลงของศาลสูงระบุว่า “มีเหตุผลที่จะพิจารณาได้ว่า มีกฎหมายระหว่างประเทศที่ไม่รับรองความคุ้มกันของรัฐสำหรับการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
ศาลยังชี้ด้วยว่า คดีนี้อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของเกาหลีใต้ เนื่องจากโจทก์อาศัยอยู่ในประเทศ และต้องการเรียกร้องเงินชดเชยจากการกระทำที่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งของแดนโสมขาว
รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่า ปัญหานี้ได้เจรจากันจนจบไปแล้วในตอนที่ทั้ง 2 ชาติทำข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเมื่อปี 1965 อีกทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็เคยทำข้อตกลงกันในปี 2015 ว่าจะยุติข้อพิพาทนี้ “โดยไม่มีการรื้อฟื้นขึ้นมาอีก”
โยโกะ คามิคาวะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ชี้ว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศและข้อตกลงที่ทั้ง 2 ชาติทำร่วมกันไว้ พร้อมระบุว่าเป็นสิ่งที่ “น่าเสียใจและรับไม่ได้อย่างยิ่ง”
คามิคาวะ เรียกร้องให้เกาหลีใต้มีมาตรการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเหมาะสมทันที ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ก็ระบุว่ากำลังศึกษารายละเอียดของคำพิพากษา และปฏิเสธที่จะชี้แจงอะไรเพิ่มเติม
ลี ยองซู นักเคลื่อนไหวและอดีตเหยื่อในวัย 95 ปี กล่าวแสดงความชื่นชมคำพิพากษาของศาล และเอ่ยขอบคุณทั้งน้ำตา
“ฉันซาบซึ้ง ซาบซึ้งใจจริงๆ” เธอกล่าวขณะที่เดินทางออกจากศาล พร้อมเผยว่าอยากจะแชร์ข่าวดีให้เพื่อนร่วมชะตากรรมหลายคนที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ได้รับรู้ด้วย
ที่มา : รอยเตอร์