รัฐมนตรีญี่ปุ่น​ลาออก​ ถูกกล่าวหารับสินบน​ บ.พลังงาน

เกียว​โด​นิวส์​รายงาน​ เมื่อวันศุกร์ (4​ ส.ค.) นายมาซาโตชิ อากิโมโตะ สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ​ เมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเขารับสินบนมูลค่าหลายสิบล้านเยนจากบริษัทพลังงานลม

ก่อนหน้านี้ไม่นาน​ อัยการโตเกียวเข้าตรวจค้นสำนักงานของมาซาโตชิ อากิโมโตะ ส.ส.พรรคเสรีประชาธิปไตย​ (แอลดีพี)​ ของญี่ปุ่น เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่าเขารับสินบนมูลค่าหลายสิบล้านเยนจากบริษัทผลิตไฟฟ้าพลังงานลม

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามประธานบริษัทเจแปน​วินด์ดิเวลลอป​เม้นท์​ (Japan Wind Development Co.)​ เกี่ยวกับการจ่ายเงินที่ถูกกล่าวหาให้ อากิโมโตะ​ ผู้สนับสนุนพลังงานทดแทนคนสำคัญของแอลดีพี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ

ทนายความของประธานบริษัทปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยบอกกับนักข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เงินดังกล่าวเป็นของสหกรณ์ม้าแข่ง และ "ไม่ได้มอบให้คุณอากิโมโตะ"

“มีการให้เงินก้อนในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว” ทนายความกล่าว พร้อมสังเกตว่าเงินก้อนนี้ถูกใช้เพื่อซื้อม้า ซึ่งประธานฯ​ และคุณอากิโมโตะ “รู้จักกันผ่านการเพาะพันธุ์ม้าแข่ง”

บริษัท เจแปน​วินด์ดิเวลลอป​เม้นท์​ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าบริษัทของเราจ่ายสินบนให้ฝ่ายนิติบัญญัติหรือข้าราชการคนใดๆ และมีหลักฐานที่เป็นกลางในการพิสูจน์ประเด็นนี้"

สำนักงานของอากิโมโตะในโตเกียว และจังหวัดจิบะ​ ถูกหมายค้นเมื่อเช้าวันศุกร์

ก่อนหน้านี้ อากิโมโตะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว​ ประมาณ 1 ปี จนถึงเดือนตุลาคม 2018​

ในระหว่างนั้น เขาได้ผลักดันให้มีการออกกฎหมายที่กำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมือนกันสำหรับการใช้ทะเลโดยผู้ประกอบการด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อส่งเสริมพลังงานลมนอกชายฝั่ง ซึ่งกฎหมายมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2561

ในเดือนมิถุนายนปีนั้น เขาบอกกับคณะกรรมการสภาล่างด้านที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวว่า "ความคาดหวังของผู้ประกอบการต่อกฎหมายดังกล่าวอยู่ในระดับสูง"

ตามกฎหมาย รัฐบาลกำหนดให้เขตทางทะเล 3 แห่งในจังหวัดอากิตะ และชิบะผลิตไฟฟ้าได้นานถึง 30 ปี การประมูลรอบแรกเพื่อสิทธิการพัฒนาซึ่งจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2564 Japan Wind Development มีความพยายามที่จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาดังกล่าว​

อย่างไรก็ตาม​ ผู้ชนะโครงการคือกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัทการค้ารายใหญ่อย่างมิตซูบิชิคอร์ป ​(Mitsubishi Corp.)​