ญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 ในกับกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้ง ๆ ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่าวันละ 100,000 คน นายกฯ สั่งให้เร่งการฉีดวัคซีนให้ได้ 1 ล้านเข็มต่อวันโดยเร็ว
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 100,000 คนต่อวันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) รายงานผู้ติดเชื้อ 68,039 คน แต่เนื่องจากเป็นวันจันทร์จึงมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยกว่าปกติ เพราะในสถานพยาบาลหลายแห่งปิดทำการในวันสุดสัปดาห์
ถึงแม้การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะรวดเร็วมาก แต่ญี่ปุ่นกลับมีฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียงแค่ราว 7,400,000 คน หรือคิดเป็น 5.9% ของประชากร ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หรือ OECD 38 ประเทศ
นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะ ได้สั่งให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพิ่มจำนวนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้ 1 ล้านเข็มต่อวันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายในเดือนนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งจะมีผลกระทบต่อธุรกิจและกิจกรรมทางสังคม การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยหนักจำนวนมากจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหว
นายคิชิดะเร่งรัดให้ทางการท้องถิ่นเร่งจัดส่งบัตรฉีดวัคซีนให้กับประชาชน และให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาคธุรกิจและองค์กรเอกชนจัดตั้งโครงการฉีดวัคซีนให้พนักงานในสถานที่ทำงาน รวมทั้งให้เร่งฉีดวัคซีนให้แก่ครู เจ้าหน้าที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ผู้เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติ เพราะอาชีพเหล่านี้มีความจำเป็นต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ยังจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ขึ้นที่กรุงโตเกียวและเมืองโอซากา เหมือนที่เคยทำเมื่อปีที่แล้ว การฉีดวัคซีนโดยเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นมีกำหนดให้บริการไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม
ขณะนี้ ญี่ปุ่นไม่ได้ขาดแคลนวัคซีน รัฐบาลระบุว่า สามารถจัดสรรวัคซีนได้วันละ 32.5 ล้านเข็ม แต่การดำเนินการที่ล่าช้าเกิดจากทางการท้องถิ่นที่เป็นผู้รับผิดชอบในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยประเทศญี่ปุ่นไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ท้องถิ่นต่าง ๆ ต้องจัดทำบัตรฉีดวัคซีน และส่งให้กับประชาชนทางไปรษณีย์ ประชาชนที่ได้รับบัตรฉีดวัคซีนแล้วจึงจะสามารถจองวันฉีดวัคซีนได้ แต่ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มานานกว่า 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับบัตรฉีดวัคซีน
ทางการท้องถิ่นส่วนใหญ่คาดว่า ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปจะได้รับวัคซีนครบถ้วนในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นจึงจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปในเดือนมีนาคม.