รัฐบาลญี่ปุ่นยังจะไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินแม้ว่าผู้ติดเชื้อโควิดจะเพิ่มสูงถึงเกือบวันละ 100,000 คนแล้ว อัตราการใช้เตียงในกรุงโตเกียวเกินกว่าร้อยละ 50 ผู้ติดเชื้อที่อายุน้อยต้องรักษาตัวเองที่บ้าน เพราะจำนวนเตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นขณะนี้มีมากกว่า 90,000 คนต่อวัน เฉพาะในกรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินวันละ 20,000 คนต่อเนื่อง อัตราการใช้เตียงในโรงพยาบาลมากกว่าร้อยละ 50 แล้ว ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ทางการกรุงโตเกียวระบุว่าจะขอให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่จะมีมาตรการให้ธุรกิจต่าง ๆ ปิดทำการได้ เพิ่มความเข้มงวดจากปัจจุบันที่ทำได้เพียงแค่ให้ธุรกิจลดเวลาเปิดร้าน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่าจะหลีกเลี่ยงการประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมยังเดินหน้าต่อไปได้ โดยจะจับตาจำนวนผู้ที่มีอาการหนัก และใช้มาตรการที่รอบคอบ
ในครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการรับมือไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่แตกต่างไป เพราะถึงแม้จะมีผู้ติดเชื้อมากเป็นประวัติการณ์ แต่ผู้ที่มีอาการหนักยังน้อย จึงไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้ทั้งประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้ออาการหนัก 911 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มราววันละ 90 คน
คนติดเชื้ออายุน้อยต้องดูแลตัวเอง สงวนโรงพยาบาลให้ผู้สูงอายุ
จำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ระบบสาธารณสุขเผชิญภาระหนัก ทางการกรุงโตเกียวและหลายเมืองใหญ่ต้องเลือกสงวนการรักษาพยาบาลไว้ให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยหนักเท่านั้น
หลายเมืองได้เปลี่ยนนโยบายการดูแลผู้ติดเชื้อ จากเดิมที่ผู้ติดเชื้อทุกรายต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากแพทย์ และอยู่ในการดูแลของหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ แต่ขณะนี้ผู้ติดเชื้อที่อายุต่ำกว่า 50 ปีและไม่มีโรคประจำตัว จะต้องดูแลและสังเกตอาการตัวเองที่บ้าน ไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาติดตามเหมือนเดิม ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้านจะได้รับอาหาร 1 สัปดาห์ และเครื่องวัดความเข้มข้นออกซิเจนในเลือด เพื่อใช้ติดตามอาการของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การให้ผู้ติดเชื้อดูแลตัวเองมีความเสี่ยงที่อาการจะทรุดหนักกะทันหัน และเข้ารับการรักษาไม่ทันเวลา ทางการกรุงโตเกียวและหลายเมืองจึงจัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือผู้รักษาตัวที่บ้าน” ซึ่งจะมีโทรศัพท์สายด่วนให้ผู้ที่รักษาตัวที่บ้านติดต่อเข้ามาได้ตลอด 24 ชั่วโมงหากรู้สึกว่าอาการป่วยของตนทรุดลง ทางศูนย์จะรีบส่งแพทย์ไปดูแลและจัดการให้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล.