สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อย่างที่บอกว่าญี่ปุ่นสมัยก่อนมีนโยบายสร้างประเทศให้แข็งแกร่งโดยการสร้างกำลังทหารและกองทัพ แต่เมื่อแพ้สงครามโลกทำให้มุมมองการเสริมสร้างกองทัพเปลี่ยนไปมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จนกลายเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เมื่อฐานะทางเศรษฐกิจดีมาก ประชาชนมีความจริงจังมากเกินไป รัฐบาลจึงออกนโยบายสร้างคนโดยวางแผนให้คนรุ่นต่อๆ ไปมีความผ่อนคลาย มีความอิสระและมีลักษณะเฉพาะบุคคล เป็นที่มาของการศึกษาแบบผ่อนปรนที่ปรับปรุงใหม่โดยลดระดับความเข้มข้นของหลักสูตรลง ทำให้คนญี่ปุ่นช่วงวัย Yutori generation มีบุคลิกภาพที่ค่อนข้างต่างจากคนญี่ปุ่นรุ่นก่อนๆและมีบุคลิกที่หลายคนให้ความหมายในบริบทเชิงลบมากกว่า อย่างที่เคยเล่าไปก่อนหน้านี้ อาทิเช่น
●เนื่องจากช่วงที่เป็นเด็กคนช่วงวัย Yutori ไม่ถูกฝึกให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลําบาก เพราะเกิดมาในช่วงที่ครอบครัวมีฐานะดี ไม่ถูกปูพื้นให้มีความพยายามที่จะต่อสู้และริเริ่มสําหรับถนนสายใหม่ๆ พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวและคนรอบข้างมาโดยตลอด ครอบครัวจะคอยช่วยและสร้างสภาพแวดล้อมให้ก่อนที่พวกเขาจะเจอปัญหาหรือพบกับความล้มเหลว เป็นสาเหตุที่เชื่อกันว่าทำให้พวกเขาขาดความสามารถในการเผชิญกับความเป็นจริงเพราะขาดประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจากสภาพที่เป็นอยู่ ด้วยพลังความสามารถของตัวเอง
●สำหรับลักษณะการทำงาน ของคนที่อยู่ในช่วงวัย Yutori generation ตามความรู้สึกของคนญี่ปุ่น คือเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถทางการศึกษาลดลงกว่าระดับดั้งเดิม โดยมีลักษณะย่อยๆ ดังต่อไปนี้
*มักจะไม่คิด ไม่ทำอะไรจนกว่าจะได้รับคำสั่ง
*เน้นการใช้ชีวิตส่วนตัว ไม่มีความทะเยอทะยาน ไม่ค่อยมีความยึดติด เช่น การไต่เต้าสู่ระดับงานที่สูงขึ้น
*มักจะให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่างาน
*ท้อถอยง่าย จิตใจอ่อนแอ ไม่มีความอดทนต่อความเครียดและสภาพแวดล้อม
*ไม่สนใจเรื่องการแต่งงานและการใช้ชีวิตแบบการสร้างครอบครัว
*ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัว ความอยากรู้อยากเห็นน้อย พัฒนาการไม่ดี ประเด็นนี้ทำให้คนญี่ปุ่นที่อยู่ในยุคสร้างชาติ(ผู้ที่เติบโตมาในยุคที่ต้องทำงานหนัก) รับไม่ได้
*สนใจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต เพราะเป็นที่นิยมมากช่วงที่คนรุ่นนี้เริ่มเข้าสู่วัยเรียน
ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นตะหนักถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้ดี เพราะถ้ามองอีกมุมหนึ่งพวกเขาก็มีข้อดีเช่นกัน จึงต้องออกมาตรการเพื่อรองรับพนักงานที่มีสไตล์แบบคนช่วงวัย Yutori generation และสร้างแนวทางการดูแลและดึงความสามารถของพนักงานมาใช้ คือ
1. เพราะพวกเขาทำตามคำสั่งได้ดี บริษัทจึงต้องตั้งเป้าหมายให้พวกเขาอย่างชัดเจน
แม้ว่าหลายคนมองว่าคนรุ่น Yutori ไม่เก่งในการจัดการและไม่มีความสามารถในการผลักดันโดยการคิดด้วยตนเอง แต่พวกเขามักจะปฏิบัติการได้ถ้ามีคำสั่งที่หรือคำแนะนำที่ชัดเจนและมีคู่มือในการทํางานอย่างจริงจัง เขาสามารถเข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของแต่ละงานได้ทีละอย่างๆ และควรบอกเป้าหมายของสิ่งที่ต้องทำให้เข้าใจอย่างชัดเจน การสนับสนุนในเชิงลึกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายก็เป็นสิ่งจําเป็นเช่นกัน
2. เพราะพวกเขาใส่ใจและให้ความสนใจกับสิ่งที่เฉพาะเจาะจง บริษัทจึงต้องอธิบายให้เฉพาะเจาะจงที่สุด
เมื่อจะมีสั่งดำเนินการใดๆ จะต้องอธิบายให้เฉพาะเจาะจงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น "ก่อนอื่นต้องทำอะไร " และ "วิธีการผลักดันงานที่ประสิทธิภาพ ต้องทำอย่างไร " พนักงานช่วงวัย Yutori ส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยการคิดด้วยตนเอง ถ้าไม่มีคําแนะนําเฉพาะ ดังนั้นเมื่อจะสอนหรือถ่ายทอดสิ่งใดต้องสร้างความชัดเจนและเฉพาะเจาะจงลงไปเพื่อให้งานเป็นไปด้วยความราบรื่น
3. เพราะพวกเขาคิดถึงความเป็นส่วนร่วม บริษัทจึงเพิ่มความสําคัญของการดํารงอยู่ของพวกเขา และส่วนรวม
ลองมาดูกันว่าเหตุใดพนักงานช่วงวัย Yutori จึงมีสายตาที่มองไปที่ความเป็นส่วนร่วม
ถ้าตามแนวคิดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จะมองว่า "การเอาชนะคนอื่นๆ " “การได้รับการจัดอันดับหนึ่งจะถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจึงมุ่งในการเอาชนะผู้อื่น” ตรงข้ามกับพนักงานช่วงวัย Yutori ที่มักจะให้ความสําคัญกับการชื่นชมองค์รวม พวกเขาให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับผู้อื่นมากกว่าการเอาชนะการแข่งขัน ดังนั้นเพื่อการพัฒนาพนักงานช่วงวัย Yutori ให้เติบโต บริษัทจึงพยายามเพิ่มความสําคัญของการดํารงอยู่ของพวกเขา และส่วนรวม
4 . เพราะพวกเขาหัวอ่อน บริษัทจึงต้องให้ความชื่นชม
นอกจากนี้บริษัทมักสร้างมาตรการในการยกย่องพนักงานช่วงวัย Yutori สําหรับการทํางานและพฤติกรรมของพวกเขา ในการชื่นชมเช่น ความสนใจการมีส่วนร่วม เห็นใน "มุมมองของการมีส่วนร่วม" พนักงานช่วงวัย Yutori มักจะมีความสุขกับการมีส่วนร่วม เช่น "ขอบคุณในความช่วยเหลือร่วมมือของพวกเขา" แทนการชื่นชมผู้ชนะการแข่งขัน
5. เพราะพวกเขาจิตใจบอบบาง บริษัทควรดุว่าอย่างเหมาะสม ปานกลาง
พนักงานช่วงวัย Yutori มักจะไร้เดียงสามาก การ "ดุด่าและต่อว่า" มีแนวโน้มที่พวกเขาจะได้รับรอยแผลในใจมาก บางคนร้องไห้เพราะอ่อนไหว เนื่องจากมีความอดทนต่ำสําหรับความเครียดและความกดดันต่างๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ใครสูญเสียแรงจูงใจ หากเขาทําผิดพลาดในที่ทํางานการชี้แจงอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เติบโตได้ อย่างไรก็ตามในกรณีนี้แทนที่จะตะโกนต่อว่า บริษัทจะสร้างมาตรการโดยให้พูดอย่างใจเย็นว่า "สิ่งใดที่ไม่ดี" และสนับสนุนให้เขาทำการปรับปรุง
6. เพราะพวกเขามีความเชื่อฟัง บริษัทจึงให้มุ่งเน้นการทํางานเป็นทีม
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพนักงานที่ไม่เข้มงวด และมีความเป็นตัวของตัวเองต่ำ พนักงานช่วงวัย Yutori ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นของตัวเองและปรับให้ลักษณะต่างๆ ตรงกับมุมมองและพฤติกรรมของผู้อื่น บริษัทต่างๆ ใช้ประโยชน์จากข้อดีนี้ โดยให้ทำโครงการที่มุ่งเน้นการทํางานเป็นทีมจะส่งเสริมการเติบโตในอนาคตของพนักงาน การตั้งค่าเป้าหมายเป็นเป้าหมายของทีมไม่ใช่เป้าหมายส่วนบุคคล จะทำให้มีประสิทธิภาพมาก
7. เพราะพวกเขาใสซื่อ บริษัทจึงต้องชี้วิธีการค้นพบความหมายของธุรกิจให้
"ในหลายกรณีพนักงานช่วงวัย Yutori ไม่ทราบว่าพวกเขากําลังทําอะไรในที่ทํางานหรือสิ่งที่พวกเขาทํา สามารถค้นพบความหมายและความคุ้มค่าในงานได้อย่างไร บริษัทสามารถชี้ทางให้พวกเขาค้นพบความหมายของมันได้ง่ายขึ้นโดยอธิบายว่าธุรกิจจะเปลี่ยนไปอย่างไรและจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
8. เพราะพวกเขามีความเป็นส่วนตัว จึงต้องรักษาระยะห่างของความรู้สึก
พนักงานช่วงวัย Yutori ที่มีบุคลิกผ่อนคลายมักจะเน้นความเป็นส่วนตัว จึงจะดีกว่าที่จะรักษาระยะห่างที่เหมาะสมกับพนักงานช่วงวัย Yutori ในประเทศญี่ปุ่น "พนักงานจะเข้าร่วมงานเลี้ยงและการประชุมประจําปี" อย่างไรก็ตามในหลายกรณีพนักงานช่วงวัย Yutori เชื่อว่าความสัมพันธ์ของการงานในองค์กรและเรื่องส่วนตัวถูกแยกออกจากกัน เขาอาจจะปฏิเสธการเข้าร่วมงานปาร์ตี้ของบริษัท ดังนั้นบริษัทจึงต้องเข้าใจเขาและไม่บังคับให้เขาไปร่วมงาน ครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังทำงานที่ญี่ปุ่นช่วงหลังเลิกงานหัวหน้ามักจะชวนพนักงานในทีมไปกินเลี้ยงสังสรรค์กัน วันหนึ่งทุกคนพากันไปทานข้าวร้านหมูทอด ซึ่งในโต๊ะที่รับประทานกันอยู่นั้นมีห้าคนทุกคนต่างก็คุยกันเรื่องทั่วไป แต่มีน้องรุ่น Yutori อยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมคุยกับคนอื่นเลย ยกมือถือมาเล่นอยู่คนเดียวตลอดเวลา ทุกคนในโต๊ะทำได้แค่เข้าใจในตัวเขา
9. เพราะพวกเขาไม่โลภมาก บริษัทต้องเข้าใจลักษณะเฉพาะบุคคล
ด้วยความที่เป็นช่วงวัยที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนระบบการศึกษาจากการศึกษาแบบฝังตัวเข้มข้นจริงจัง เป็นการศึกษาแบบผ่อนปรน ให้ความสมดุลระหว่างการทํางานและชีวิตมีความสําคัญมากกว่าการทํางานและได้รับค่าจ้างล่วงเวลาในช่วงดึก บางครั้งคนในรุ่น Yutori นี้จะปฏิเสธการสังสรรค์ และปลดปล่อยตัวเองจากความโลภที่ถูกผูกไว้ของคนรุ่นฟองสบู่เฟื่องฟู คนรุ่น Yutori จะไม่คิดว่า "ฉันต้องการกระเป๋าแบรนด์" และ "ฉันต้องการนั่งรถหรูราคาแพง” นอกจากนี้ปัจจุบันนี้จากประเด็นเรื่องการแข่งขันต่างๆ ของญี่ปุ่นลดลงและเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาการว่างงานของผู้ปกครองและรายได้ประจําปีลดลง ทำให้คนรุ่นนี้ไม่ค่อยมีความสนใจเกี่ยวกับเงินเดือน และสินค้าโภคภัณฑ์นัก
10. เพราะพวกเขามักจะแสวงหาชีวิตที่มั่นคงและยังคงต้องการเสถียรภาพ เพราะพวกเขาถูกระบบการศึกษาหล่อหลอม พวกเขามักจะเลือกสิ่งที่มีเหตุผลต่อตัวเองมากกว่าความภาคภูมิใจเรื่องราคาและการแข่งขัน
ส่วนตัวผมคิดว่าเยาวชนช่วงวัย Yutori เป็นช่วงวัยที่มีมารยาท เพราะอ่อนโยน ไม่หัวรุนแรง คือถ้าลองสมมุติเหตุการณ์ว่ามีลูกค้าสั่งอาหาร แล้วอาหารที่สั่งมาช้า เปรียบเทียบกิริยาท่าทางของลูกค้าที่ตำหนิพนักงาน จะพบว่าช่วงวัยที่จะใช้อารมณ์วีนไร้สาระและทำตัวนักเลงมากที่สุดคือ คนอายุ 70 กว่าปี รองลงมาคือ 50 กว่าปี ส่วนคนรุ่น Yutori นั้นค่อนข้างจะมีมารยาทกว่า ไม่ค่อยมีนักเลงหัวไม้ ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเรียบร้อย อัธยาศัยนุ่มนิ่มนุ่มนวลไม่ชวนทะเลาะเหมือนรุ่นลุงๆ เปรียบเทียบไปคงคล้ายๆ สื่อหรือการ์ตูนมังงะที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงวัยนั้นๆ
และเป็นช่วงวัยที่ถือว่ามีการพัฒนาความรู้ความสามารถเฉพาะตัวทางด้านศิลปะ กีฬาที่สามารถที่จะเป็นที่หนึ่งระดับโลกได้หลายๆ รายการอยู่เหมือนกัน เช่น เรื่องของดนตรีคลาสสิค แจ๊ส เช่น อัลโต้แซกโซโฟน (Alto Saxophone) หรือ กีฬาสเกตลีลา (figure skating) หรือกีฬาที่ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพราะว่าเป็นรุ่นที่มีคุณพ่อแม่ในยุคเศรษฐกิจญี่ปุ่นรุ่งเรือง ค่อนข้างจะมีฐานะมากจึงมีกำลังความสามารถที่จะสนับสนุนและดูแลลูกๆให้ได้เรียนพิเศษหรือเรียนกับโค้ชแบบส่วนตัวได้
ถ้าถามในประเด็นที่ว่าแล้วทำไมคนวัยอื่นๆ จึงไม่ค่อยอยากทำงานร่วมกับคนช่วงวัย Yutori ก็คงเพราะเหตุผลดังกล่าวด้านบน แต่ก็ขาดแรงงานไม่ได้ บริษัทต่างๆ จึงมีมาตรการให้การช่วยเหลือและสนับสนุนพนักงานช่วงวัยนี้ แต่ลักษณะดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสียที่เกิดมาจากตัวบุคคลนะครับ เป็นเพราะระบบที่โรงเรียน, สังคมและรัฐบาลญี่ปุ่นป้อนให้มากกว่า มันไม่ใช่ความผิดของคนวัย Yutori เลย วันนี้ก็เล่าสู่กันฟังสวัสดีครับ
