ในพื้นที่ชนบทที่มีประชากรน้อยลงทุกที แม้ว่าจะสร้างอพาร์ตเมนต์ในผืนดินนั้นก็ยากที่จะมีใครย้ายเข้ามาอยู่ หรือถ้าจะคิดทำที่จอดรถ เมืองเล็กๆ ในชนบทก็ไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอเหมือนในเมืองใหญ่ๆ นอกจากนั้นแต่ละบ้านเองก็มีพื้นที่บริเวณบ้านของตัวเองกว้างขวางเพียงพอ ดังนั้นหากใครเป็นเจ้าของที่ดินในชนบทไม่ว่าจะได้รับมรดกมา หรือซื้อมา จะนำไปพัฒนาทำเป็นอะไรดี
เพราะเวลานี้สําหรับผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินในชนบท อาจจะได้มาจากมรดก หรือการซื้อมา ค่อนข้างคิดหนักเพราะถ้าปล่อยทิ้งร้างไว้เช่นนั้นก็จะถูกเก็บภาษีที่ดินด้วย แล้วควรจะนำที่ดินเหล่านั้นมาต่อยอดอย่างไรได้บ้าง
ก่อนอื่นการนำที่ดินในพื้นที่ชนบทมาพัฒนาหรือต่อยอดเป็นเรื่องยากไหม?
แม้จะมีวิธีการพัฒนาใช้ประโยชน์จากที่ดินมากมาย เช่น การสร้างคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้น การพัฒนาเป็นที่จอดรถให้เช่า Trunk room management เป็นต้น สําหรับการใช้ประโยชน์ที่ดินต่างๆ ตามความต้องการของตลาด แต่ในกรณีดังกล่าวต้องดูทำเลของสถานที่เป็นสิ่งสําคัญและมักจะยากที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินที่อยู่ในเมืองชนบทมาสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อปล่อยเช่า
แต่นอกจากนี้ ยังคงมีเหตุผลที่ดีกว่าที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินที่อยู่ในเมืองชนบท โดยการใช้ประโยชน์จากที่ดินที่อยู่ในเมืองชนบทยังดีกว่าที่จะปล่อยไว้ว่างเปล่าแบบนั้น
เหตุผลที่ดีในการหาแนวทางใช้ที่ดินในชนบทเพราะดีกว่าปล่อยรกร้าง คือสามารถสร้างรายได้โดยใช้ที่ดินที่มีได้แน่นอน แต่สิ่งที่ดีกว่าคือ ถ้าเป็นเจ้าของที่ดินเป็นที่ดินว่างเปล่าโดยไม่ใช้มัน คุณจะต้องจ่ายภาษีทรัพย์สินตลอดเวลา โดยเฉพาะที่ดินที่ไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเป็นเวลานาน
สิ่งสําคัญคือการใช้ที่ดินนั้นเพื่อให้สามารถสร้างรายได้เพียงพอที่จะจ่ายภาษีทรัพย์สินเป็นอย่างน้อย มีข้อแนะนำในการพัฒนา คือ
5 ข้อแนะนำการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ชนบท
เมื่อสักครูกล่าวว่ามันยากที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อมาสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ แต่ก็พอมีข้อแนะนำการใช้ประโยชน์จากที่ดินในชนบทคือ
1.ใช้เป็นพื้นที่เพื่อผลิตแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์
ระบบการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่แนะนํามากที่สุดคือมช้พื้นที่ผืนแผ่นที่ดินในแถบชนบท
เหตุผลก็คือ แหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นั้นไม่จําเป็นที่จะรอให้คนมาเข้าชม มาท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องสร้างรายได้จากการทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือรอคนเช่า หรือรอนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ในกรณีของที่ดินชนบทนั้นยังเป็นเรื่องง่ายที่จะรักษาความปลอดภัยแม้ที่ดินขนาดใหญ่เพราะค่าใช้จ่ายสำหรับที่ดินราคาถูกและยังเป็นเรื่องยากที่จะมีใครมาสร้างอาคารสูงที่จะมาบดบังแสงแดด จึงมีองค์ประกอบที่แนะนําครบถ้วนสําหรับการพัฒนาเป็นแหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นั่นเอง
โดยทั่วไประบบการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มีจุดมุ่งหมายที่จะคืนเงินลงทุนในช่วง 12-13 ปี ที่มีผลผลิตประมาณ 8-9% ในกรณีของการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์สําหรับการใช้งานทางธุรกิจ ราคาซื้อไฟฟ้าที่สร้างขึ้นสําหรับ 20 ปี ดังนั้นหลังจากการสามารถคืนเงินลงทุนเริ่มต้นก็จะมีกําไรที่สมบูรณ์ตลอดไปและหลังจาก 20 ปีก็จะต้องซื้อในราคาซื้อของบริษัทพลังงานไฟฟ้าในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรคํานึงถึงในการสร้างแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ คือวิธีการจัดการกับหญ้าที่จะเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน ถ้าทิ้งไว้อย่างนั้นแค่สองสัปดาห์หญ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการบํารุงรักษาตามปกติเป็นสิ่งจําเป็น หากมีการเทพื้นด้วยคอนกรีตให้เต็มพื้นที่ แม้จะไม่ต้องดูแลปัญหาวัชพืช แต่ถ้าที่ดินมีขนาดใหญ่ก็จะเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น จึงต้องมีการคิดคำนวนเพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการดูแลรักษา
*โปรดศึกษาแนวทางและข้อแนะนำในการสร้างแหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ให้ละเอียดก่อนการลงทุน
2.สร้างบ้านเดี่ยวให้เช่า
เมื่อเทียบกับการสร้างอพาร์ทเมนต์และคอนโดมิเนียม จะดีตรงที่ไม่จําเป็นต้องหาผู้เช่าจํานวนมาก เพราะบ้านเดี่ยวๆ ให้เช่า เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ในชนบท ง่ายต่อการทํางานเพราะมีการแข่งขันน้อย
โดยทั่วไปแล้วบ้านให้เช่าที่แยกเป็นสัดส่วนออกมา มักจะสามารถได้ค่าเช่าสูงกว่าอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียม และถ้าใช้ที่ดินที่มีอยู่ของตนเอง หรือเป็นเจ้าของที่ดินเองจะสามารถกำหนดเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลผลิตประมาณ 10% ได้ อย่างไรก็ตาม อาจมีความแตกต่างเรื่องการจัดการถ้าเทียบกับอพาร์ทเมนต์และคอนโดมิเนียม สิ่งสําคัญที่จะต้องทราบว่ามีความเสี่ยงของการว่างโดยไม่มีคนเช่าจะสูงกว่าเพราะถ้าผู้เช่าย้ายออก กําไรจะเป็น 0 เยนทันที ต้องรีบประกาศคนเช่าบ้านไว้อย่างมีแผนการ
*โปรดศึกษาแนวทางและวิธีการ จัดการค่าเช่าและการควบคุมก่อนการลงทุน
3. ที่จัดเก็บวัสดุ
เป็นวิธีการจัดการที่ดินโดยให้เช่ายืมเป็นสถานที่เก็บวัสดุให้กับนิติบุคคลที่ดําเนินธุรกิจบริเวณดังกล่าว
หากทำเป็นสถานที่จัดเก็บวัสดุก็สามารถนํากฏระเบียบมาใช้ในที่ดินนั้นๆ เช่น พื้นที่มีลักษณะเป็นเมืองมากกว่าชนบท และกฎหมายพื้นที่เพาะปลูกและเป็นไปได้ไหมที่จะพัฒนาให้เช่า แผนการพิจารณาการใช้ที่ดินในอนาคต สามารถกล่าวว่าประโยชน์ของการให้เช่าเป็นที่เก็บวัสดุนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำง่าย
นอกจากนี้ราคาตลาดของราคาขายโดยการจัดสรรที่ดินเป็นที่จัดเก็บวัสดุ มีสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง โดยตั้งคำนวนภาษีทรัพย์สินและภาษีการวางแผนเมืองเป็นค่าธรรมเนียมการเช่าประจําปีด้วย วิธีนี้คุณจะได้รับรายได้เพียงพอ อย่างน้อยก็จ่ายภาษีที่ดินว่างเปล่าได้ และพอมีกำไรมากกว่าภาระของภาษีทรัพย์สิน
4.ทำหมู่บ้านผู้สูงอายุที่มีการบริหารจัดการครบวงจร
ที่อยู่อาศัยให้บริการสําหรับผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะอยู่ในความต้องการแม้ในท้องถิ่นชนบทก็ตามเพราะญี่ปุ่นทีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น และเป็นครอบครัวที่ไม่พึงพาอาศัยลูกหลานนัก นอกจากนั้นเหตุผลก็คือว่าที่อยู่อาศัยให้บริการสําหรับผู้สูงอายุจะดีกว่าถ้าอยู่ในชานเมือง ซึ่งราคาจะดีกว่า ในอนาคตจะเป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความสนใจสําหรับผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการลงทุนครั้งแรกในการทำที่อยู่อาศัยที่ให้บริการสําหรับผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะใช้งบประมาณสูงกว่าวิธีการใช้ที่ดินอื่น ๆ ก็อาจกล่าวได้ว่ามีความจําเป็นต้องตัดสินใจมากขึ้นในฐานะผู้จัดการ อัตราผลตอบแทนสําหรับที่อยู่อาศัย ที่ให้บริการสําหรับผู้สูงอายุประมาณ 6-8% อัตราผลผลิต แต่มีการลงทุนเป็นจํานวนมาก ดังนั้นหากใช้ประโยชน์จากมัน ได้ดีก็สามารถทํากําไรได้มาก
5. Trunk room หรือห้องเก็บสัมภาระ
Trunk room ค่อนข้างมีประโยชน์แม้ว่าทำเลสถานที่ตั้งของที่ดินจะไม่ดีนัก คือทำเป็นห้องเก็บของที่เป็นห้องเก็บของที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ทางเข้าบ้านอพาร์ตเมนต์ อาคารใต้ดิน หรืออาคารแยกเป็นสัดส่วน ตัวอย่างเช่น เก็บสกีกระดานโต้คลื่น ถุงกอล์ฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์สําหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถจัดเก็บในบ้านที่อยู่อาศัย มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้
อย่างไรก็ตามแน่นอนว่าTrunk room ต้องง่ายต่อการขนส่งตั้งอยู่ในสถานที่ทำเลดี หากใครที่กําลังทำ Trunk room ในสถานที่ทำเลไม่ดีอาจจะต้องลดค่าเช่าและวางแผนผังขนาดห้องหลายห้องเพื่อแยกประเภทของตามความแตกต่างได้สะดวกได้ด้วยตัวคุณเอง
Trunk room มักจะมีผลผลิตประมาณ 20% เนื่องจากการลงทุนครั้งแรกไม่มากไม่ต้องใช้งบสูงมาก แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นธุรกิจที่ยากลําบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับนักลงทุนมือใหม่ซึ่งควรทำการศึกษาเรื่องการลงทุนให้เพียงพอ
สรุปเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในชนบท
ที่ดินชนบทมีลักษณะที่แตกต่างกว่าที่ดินในเมืองใหญ่ๆ ทั่วไปดังนั้นจึงจําเป็นต้องเลือกวิธีการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสม หลังจากเข้าใจลักษณะและทำเลแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีวิธีการแนะนําเฉพาะสําหรับที่ดินในชนบท เช่นการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ก็มีข้อเสียมากมายในการใช้ที่ดินนั้นๆ จึงต้องทำการศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจลงทุน