xs
xsm
sm
md
lg

คนญี่ปุ่นไม่ได้อิจฉาคนรวย ไม่ได้ดูถูกคนจนแต่เกลียดกิ้งก่าได้ทอง !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ช่วงนี้ใครๆ ก็ติดตามข่าวการระบาดของโรคโควิด-19 บางข่าวติดตามอ่านมากๆ ก็อาจทำให้เครียดและเกิดความหดหู่ขึ้นมาได้ ดังนั้นวันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศไปคุยเรื่องอื่นบ้างน่าจะดีนะครับ รู้สึกว่าบางทีข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็มาไวไปไวมาก บางเรื่องเป็นที่สนใจมากในช่วงหนึ่งแล้วก็หมดความสนใจไปภายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อมีข่าวใหม่เข้ามา วันก่อนผมได้อ่านข่าวๆ หนึ่งที่กำลังพูดถึงในสังคมออนไลน์ที่ญี่ปุ่น ถือเป็นข่าวในระดับ B 級 (B rank) ข่าวบอกว่า ครูหญิงวัย 50 ปี สอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายในเซนได เธอมีรายได้ต่อปีเกือบ 200 ล้านเยน เพราะนอกจากงานสอนหนังสือแล้วยังมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า คือ มีบ้านให้เช่า 3 หลัง , มีอพาร์ตเมนท์ให้เช่า 1 แห่ง และที่จอดรถให้เช่าอีก 1 แห่ง โดยทำธุรกิจให้เช่าควบคู่ไปกับอาชีพการสอนหนังสือของเธอ ด้วยความที่เธอไม่ได้ลงทะเบียนแจ้งข้อมูลทำงานอื่นที่นอกเหนือจากงานประจำ จึงถูกลงโทษโดยถูกลดเงินเดือนไปสิบเปอร์เซนต์เป็นเวลาสองเดือน!!



เพื่อนๆ อาจจะงงว่า ทำไมแค่นี้ถึงเป็นข่าวที่คนญี่ปุ่นให้ความสนใจ จริงๆ ข่าวนี้สามารถสะท้อนให้เห็นความคิดและประวัติศาสตร์จากรากเหง้าของคนญี่ปุ่นด้วยละครับ " ในประเด็นที่ว่า คนญี่ปุ่นไม่ได้อิจฉาคนรวย (ที่เกิดมาจากความพยายาม) และคนญี่ปุ่นไม่ได้ดูถูกคนจน แต่คนญี่ปุ่นไม่ชอบคนที่ร่ำรวยขึ้นมาโดยไม่ได้พยายามด้วยตนเอง ไม่ชอบพวกที่ได้รับทรัพย์สินมาจากกลุ่ม GHQ ไม่ชอบคนที่อยู่ดีๆ ก็ร่ำรวยขึ้นมา แล้วชอบทำตัวเหมือนกิ้งก่าได้ทอง ที่เรียกว่า 成金 Narikin "


〇成金 Narikin เปรียบกับคนยากจนที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นคนร่ำรวยขึ้นมา และบางคนพอได้ดี หรือร่ำรวยขึ้นมาก็เย่อหยิ่งจองหองลืมตัว ลืมฐานะเดิมของตน ใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่าย บางคนเอาเงินไปเผาก็มี และอีกกรณีหนึ่งที่จัดว่าเป็นพวก Narikin คือ พวกที่ได้รับทรัพย์สินให้เปล่ามาจาก GHQ



〇GHQ  ย่อมาจาก General Headquarters คือหน่วยงานของกองกำลังสัมพันธมิตรที่ถูกจัดตั้งขึ้นในญี่ปุ่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง หลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม กองบัญชาการใหญ่ GHQ เข้าควบคุมประเทศญี่ปุ่น ริบทรัพย์สินไป และทำสัญญาควบคุมมากมาย


ในครั้งนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปี ของประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกครอบครองโดยกองทัพต่างประเทศ การดํารงอยู่ของ GHQ ทำให้เกิดความอัปยศอดสูของคนญี่ปุ่น และประเทศ ในเวลานั้นแม้แต่การเล่นยูโด เคนโดก็ถูกห้ามเพราะกลัวจะสร้างความเป็นทหาร หรือ 将棋 Shogi โชกิ( หมากรุกญี่ปุ่น) ก็ยังถูกห้ามด้วยเหตุผลเดียวกัน มีแหล่งข่าวเล่าว่าขนาดนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้นยังแอบพูดเป็นโค้ดเลยว่าอยากให้กลุ่ม GHQ กลับบ้านไปไวๆ ตอนนั้นทุกคนเปลี่ยนจาก GHQ เป็นคำว่า “ Go Home Quickly “ สิ่งที่กลุ่มนี้ทำเพื่อตัดกำลังความสามารถของญี่ปุ่น เปลี่ยนแปลงโดยผ่านระบบการศึกษาและระบบอื่นๆ เหมือนให้ค่อยๆ กินยาพิษให้คนรุ่นต่อๆ มาเพี้ยนๆ ไม่หึกเหิมและไม่สามารถเติบโตขึ้นมามีอำนาจได้ รวมถึงรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่นที่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่ไปสงคราม บางแห่งเหมือนเป็นระบบสังคมนิยม ให้การศึกษาเอียงซ้าย (อาจจะขึ้นอยู่กับภูมิภาคก็จริง มากกว่าครึ่งหนึ่งของครูสอนดนตรี ครูสอนสังคมศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ไปแล้วใช่ไหม? เรื่องนี้คนญี่ปุ่นรู้ดี ) แม้ช่วงนี้ที่มีเรื่อง Covid-19 ก็ไม่สามารถทำให้เกิดความเป็นอธิปไตย (ประกาศฉุกเฉินของรัฐบาล สามารถใช้ได้แค่คำว่า "ขอความร่วมมือ"เท่านั้น ) ฯลฯ แม้ว่ามันจะผ่านมากว่า 70 ปี แต่ผลกระทบยังคงอยู่ในหลายสถานที่ สำหรับคำว่า Narikin คือตัวที่อ่อนแอที่สุดในตารางหมากรุกญี่ปุ่น 将棋 Shogi เป็นเหมือน "ทหารราบ" 歩兵 Fu ที่เข้าสู่ตําแหน่งของศัตรู



สำหรับคำว่า Narikin นี้ คนญี่ปุ่นบางคนที่ไม่ได้มีความสนใจเรื่อง shogi (หมากรุกญี่ปุ่น) ก็รู้จักความหมายจึงเป็นคำที่ห้ามพูดต่อหน้าคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว


ดังนั้นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ชอบครอบครัวที่ได้รับทรัพย์สินมาจาก GHQ มากๆ เนื่องด้วยบุคคลเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ตั้งแต่ดั้งเดิม แต่กลับได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่บรรพบุรุษญี่ปุ่นสร้างมา ทำให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นกลายเป็นเจ้าของที่ดินกลางเมือง หรือที่ดินทำเลดี และร่ำรวยมาจนถึงปัจจุบัน จากกรณีครอบครัวที่ได้รับมอบทรัพย์สินที่ดินมาจาก GHQ นี้ก็รู้แก่ใจว่าคนญี่ปุ่นจะไม่พอใจ จึงพยายามหางานอื่นๆ ทำบังหน้าไปด้วย อย่างกรณีคุณครูนี้ก็เหมือนกันคุณครูก็คงจะรู้สึกอายมากที่ครอบครัวตัวเองได้รับทรัพย์สินมาจาก GHO คุณครูผู้หญิงคนนี้เค้าก็เลยต้องไปทำงานอื่นด้วยแม้ว่าจะเป็นงานที่ได้เงินเดือนน้อยมากก็ตาม ต้องทำงานบังหน้าเพื่อไม่ให้รู้สึกเป็นที่อับอายจนเกินไป แต่ว่าคนไทยอาจจะนึกไม่ออกว่าทำไมถึงรู้สึกอาย ส่วนประเด็นที่เธอถูกลดเงินเดือนนี้ที่จริงแทบไม่กระทบรายได้ที่ครอบครัวเธอได้รับเลย กลับกันกับคนญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ถูก GHQ ริบทรัพย์หรือที่ดินไป ทำให้จากผู้มีอันจะกินก็กลายเป็นคนยากไร้ก็มี ซึ่งคนญี่ปุ่นดั้งเดิมผู้ที่มีฐานะดีที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาด้วยความพยายามจนมั่งมีเช่นนี้คนญี่ปุ่นชื่นชม



มีนักเขียนญี่ปุ่นชื่อ 星新一 Hoshi Shin'ichi เป็นนักเขียนนิยายญี่ปุ่นและนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ที่รู้จักกันดีโดยเฉพาะเรื่องสั้น ที่มักจะไม่เกินสามหรือสี่หน้า เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมาก มีแฟนคลับมากมายที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 40 - 60 ปี เค้าเป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องสั้นมากมายหลายเรื่องมาก และก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจาก GHQ เช่นกัน ในสมัยรุ่นปู่ย่าตายายของเขาได้มีการสร้างธุรกิจมากมาย มีโรงงานผลิตยารักษาโรค และเมื่อเกิดสงครามโลกก็เกิดปัญหา หลังจากที่เขาต้องมาเทคโอเวอร์แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะทำการกอบกู้บริษัทขึ้นมาได้ก็เลยจำเป็นจะต้องขายขาดทุน หรือพูดได้ว่าทรัพย์สินหลายอย่างถูก GHQ ยึดไป จนทำให้ชีวิตเขาติดลบ ซึ่งต่อมาผันตัวเองมาเป็นนักเขียน ซึ่งหนังสือของเขาก็เป็นที่รู้จักของนักอ่านญี่ปุ่นที่อย่างน้อยจะต้องเคยอ่านเรื่องที่เค้าเขียนแน่ๆ ผมเองก็เคยอ่านแต่อาจจะไม่ได้อ่านมากมายนัก ที่ญี่ปุ่นสมัยก่อนผู้ที่เคยมีรากฐานชีวิตที่ร่ำรวยมาก่อนแต่ว่าอยู่ๆ ก็ตกระกำลำบากอาจจะสาเหตุต่างๆ นานาส่วนใหญ่ก็จะผันตัวเองไปเป็นนักบวช หรือว่าเป็นนักเขียนกันเสียมาก แล้วก็กลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา เพราะอย่างหนึ่งก็คือตอนเด็กๆ ที่ครอบครัวมีฐานะรวย ช่วงที่เป็นเด็กจึงได้รับการปลูกฝังและร่ำเรียน มีตำรับตำราและหนังสือมากมายให้อ่าน ได้เรียนรู้อะไรมากมายจึงทำให้เป็นผู้ที่มีความคิดกว้างไกล มีความรู้เยอะ 星新一 Hoshi Shin'ichi ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบชีวิตเช่นนั้น



" ในประเด็นที่ว่า คนญี่ปุ่นไม่ได้อิจฉาคนรวย (ที่เกิดมาจากความพยายาม) และคนญี่ปุ่นไม่ได้ดูถูกคนจน แต่คนญี่ปุ่นไม่ชอบคนที่ร่ำรวยขึ้นมาโดยไม่ได้พยายามด้วยตนเอง ไม่ชอบพวกที่ได้รับทรัพย์สินมาจากกลุ่ม GHQ ไม่ชอบคนที่อยู่ดีๆ ก็ร่ำรวยขึ้นมา แล้วชอบทำตัวเหมือนกิ้งก่าได้ทอง ที่เรียกว่า 成金 Narikin "


แล้วกรณีไหนที่คนญี่ปุ่นบอกว่าเป็น Narikin บ้าง?


●(,,`谷´) 400 ปีที่แล้วผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากครอบครัวที่มีต้นกำเนิดมาจากครอบครัวซามูไร กรณีนี้ถือว่าคนญี่ปุ่นบอกว่าเป็น Narikin หรือไม่ ตอบว่าก็กรณีนี้ไม่เป็นไร ที่ญี่ปุ่นปกติแล้วการเก็บภาษีมรดกค่อนข้างจะถือเป็นตัวเลขที่โหดมากเพราะฉะนั้นบางครอบครัวต้องจ่ายภาษีเยอะถึงแม้ว่าจะมีเชื้อสายมาจากตระกูลร่ำรวยแต่บางคนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร และเป็นเรื่องปกติที่ลูกหลานซามูไรที่ "เคยเป็นเจ้าของที่" จะอาศัยอยู่ในคอนโดธรรมดาทั่วไป



●( ´∀`) ครอบครัวที่สืบเชื้อสายมาจากธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ฐานะร่ำรวยจากความพยายามด้วยตัวเอง ด้วยความมานะจากครอบครัวของตัวเอง กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็น Narikin คนญี่ปุ่นไม่ว่าอะไรไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรือไม่รู้สึกรังเกียจอะไร ตัวอย่างจากกรณีสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนมั่งมี คือ บริษัทใหญ่ๆ อย่างบริษัทโตโยต้า หรือหรือฮอนด้า เป็นต้น


และต่อมากลายเป็นผู้ผลิตที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปทั่วโลก Worldwide Manufacturers รูปแบบนี้ไม่เรียกว่า Narikin


●( `Д´) เจ้าของที่ดินที่ขุดบ่อใต้ดินแล้วเจอน้ำแร่ จึงสร้างบ่อออนเซ็น และสร้างตัวจนร่ำรวยขึ้นมา มีน้ําพุร้อน หรือมีที่นาที่มีแหล่งแร่ ถ้าเกิดว่าพบบ่อน้ําร้อนในทุ่งนาตนเอง และให้คนอื่นมาเช่าทำธุรกิจ หรือ เด็กๆ ลูกหลานที่เกิดมาเริ่มมีฐานะจากครอบครัวที่ทำบ่อน้ําพุร้อน กรณีนี้คนญี่ปุ่นไม่เรียกว่าเป็น Narikin


●(*゚-゚) กรณีต่อไปคือ คนที่ถูกหวยรางวัลใหญ่ๆ จนกลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย กรณีเช่นนี้คนญี่ปุ่นรู้สึกอย่างไรกับ อาจจะตอบยากอยู่เหมือนกัน ต้องตอบว่าแล้วแต่กรณี แล้วแต่ว่าคนที่รวยขึ้นมาด้วยการลูกหวยนั้นลืมตัวเองหรือไม่




แต่ที่แน่ๆ พูดเรื่อง 宝くじ ลอตเตอรีแล้วถ้าถูกขึ้นมา คุณอาจมีญาติเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคยมี


●( ಠωಠ) กรณีที่บางคน อาจจะมีที่ดิน ที่ต่อมาทางการรถไฟญี่ปุ่นมาขอซื้อที่ราคาสูงเพื่อมาทำรางรถไฟชินกันเซน ทำให้เจ้าของที่ดินกลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยขึ้นมา กรณีนี้ก็ถือว่าเป็น Narikin เหมือนกัน แต่กรณีนี้ถึงแม้ว่าคนญี่ปุ่นไม่ชอบ แต่ถ้าคิดในมุมของตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว มีรัฐบาลมาขอซื้อที่ราคาสูงใครๆ ก็อยากขายใช่ไหม คืออย่างนี้คนจะรวยก็ช่วยไม่ได้นะ บางทีคนญี่ปุ่นก็คิดแปลกๆ เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นผม ผมก็อยากได้นะ


→完全に成金 ถือเป็น Narikin อย่างสมบูรณ์แบบและแท้จริง ขอบคุณมากครับ! ○。( ˊωˋ* )


●(,,´,_ゝ`) กรณีได้รับทรัพย์สิน ทรัพย์สมบัติ จาก GHQ หลังจากสงครามโลกจบลงแล้ว ก็ได้รับที่ดินสิ่งก่อสร้างมาแบบให้เปล่าครับ กรณีนี้ถือว่าเป็น Narikin มากที่สุด คนญี่ปุ่นรู้สึกรังเกียจกรณีนี้



→完全に成金 ถือเป็น Narikin อย่างสมบูรณ์แบบและแท้จริง ขอบคุณมากครับ! ○。( ˊωˋ* )


●(癶)(癶) ไม่ใช่แค่เกษตรกรเท่านั้นแต่กรณีที่มีการถมทะเลเพื่อสร้างพื้นดิน ทำให้ชาวประมงเสียรายได้ และได้รับค่าตอบแทนจำนวนมาก มากพอที่จะซื้อบ้านเป็นเงินสดก็ได้ แต่กลับนำเงินไปเล่นการพนัน ในสถานที่เล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย ที่ยาคุซ่ากําลังคุม และทำให้กลายเป็นคนติดการพนันจนหมดตัว และมีเรื่องแนวนี้ให้ฟังมากมาย


→完全に成金 ถือเป็น Narikin อย่างสมบูรณ์แบบและแท้จริง ขอบคุณมากครับ! ○。( ˊωˋ* )
กรณีเหล่านี้มันเหมือนยืนอยู่ดีๆ แล้วก้อนขนมโมจิลอยมาเข้าปาก แต่กลับทำตัวเชิด ลืมตัว คนญี่ปุ่นไม่ค่อบชอบ และไม่ให้ความเคารพนับถือนัก ถ้า Narikin คือแฟชั่นคงเป็นแฟชั่นที่โดดเด่นออกมาจากความวูบวาบแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
มีหนังสือเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ที่ 星新一 Hoshi Shin'ichi เขียนไว้ เกี่ยวกับซินเดอเรลล่าในอีกมุมมองของเขา คิดว่าชีวิตหลังจากที่ ซินเดอเรลล่าแต่งงานไปแล้วจะเป็นอย่างไร "ชีวิตแห่งความสุขของราชินีซินเดอเรลล่า" ก็เป็นแนว Narikin เช่นกัน
ในภาคของนักเขียนท่านนี้เล่าว่า หลังจากนั้นเจ้าชายก็ออกไปทำสงคราม และเจ้าชู้ไปทั่ว ไปหว่านเสน่ห์มีหญิงสาวมากมาย สร้างความลำบากใจให้ซินเดอเรลล่ามาก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าเธอไม่สวยไม่งามเจ้าชายก็ไม่เลือกเธอและก็ไม่สามารถมายืนอยู่ตรงนี้ได้เหมือนกัน เธอทำได้แต่คอยกำจัดนางสนมเหล่านั้น แต่เมื่อต่อมาเธอมีลูกชาย ลูกชายของเธอก็เจ้าชู้เหมือนพ่อ ชอบสาวๆ สวยๆ แม้จะมีความยากจนก็ยังชอบ ซินเดอเรลล่าจึงสั่งห้ามคบและเลือกสาวที่มีฐานะฐานันดรสูงศักดิ์มาแต่งงานกับลูกชายเธอ เธอกลายเป็นแม้สะไภ้ใจร้าย แต่สุดท้ายแล้วตอนจบก็แฮปปี้เอนดิ้ง ทุกคนรู้ในมุมที่ว่าซินเดอเรลล่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข


"หงส์ว่ายน้ำอย่างสง่างามในทะเลสาบฉันใด แต่ก็ยังต้องใช้เท้าของพวกเขาขับเคลื่อนแหวกว่ายไปภายใต้พื้นผิวของทะเลสาบ"เขากล่าว

และนี่ก็แสดงให้เห็นถึงลักษณะอย่างหนึ่งของ Narikin อยู่เหมือนกัน คนเช่นนี้ไม่ว่าจะที่ญี่ปุ่นหรือที่ไหนก็คงไม่ค่อยมาคนชอบสักเท่าไหร่นักนะครับ วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น