ท่ามกลางมาตรการ “ปิดเมือง” ของหลายประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจ ฮอกไกโดวันนี้เกือบจะกลายเป็น “เมืองร้าง” ที่บรรดาธุรกิจไม่แน่ใจว่าจะทานทนได้จนถึงเชื้อโรคร้ายคลี่คลายได้หรือไม่
ฮอกไกโดอยู่ภายใต้ “ภาวะฉุกเฉิน” มานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ขณะนี้ยังเป็นพื้นที่ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุดในญี่ปุ่นกว่า 150 คน
ฮอกไกโดเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนและเกาหลี แต่ในขณะนี้แม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็ไม่อาจช่วยพยุงธุรกิจของฮอกไกโดได้ เขตซูซูกิโนะ ในเมืองซับโปโรที่เคยคึกคัก วันนี้ว่างเปล่าไร้ผู้นคน
ร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่บอกว่า ช่วงเวลานี้ของทุกปีจะมีลูกค้าหนาแน่นที่สุด เพราะบริษัทต่าง ๆ จะจัดงานเลี้ยงอำลาและต้อนรับพนักงานที่โยกย้ายตามปีงบประมาณใหม่ของญี่ปุ่น ที่เริ่มต้นในเดือนเมษายน ทางร้านบอกว่า มีลูกค้าจองเต็มมาต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อผู้ว่าการจังหวัดประกาศภาวะฉุกเฉิน ลูกค้าจึงต้องยกเลิกการจองทั้งหมด
ผู้จัดการของร้านระบุว่า ยอดขายลดลงมากกว่าร้อยละ 90 จนต้องให้พนักงานกว่า 20 คนหยุดงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าช่วงเกิดแผ่นดินไหวที่ฮอกไกโด ในเดือนกันยายน ปี 2561 โดยในครั้งนั้นลูกค้าเริ่มกลับมาในหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง แต่ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร
บรรดาผู้ประกอบการต่างไม่เคยเผชิญกับสภาวะที่ “ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว” และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่ต่อไปได้ เนื่องจากรัฐบาลได้แต่ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรคระบาด แต่ไม่มีมาตรการที่จะช่วยเหลือธุรกิจที่ชัดเจน
ธุรกิจโรงแรมก็ย่ำแย่เช่นกัน เครือสึรูงะ ซึ่งมีโรงแรมจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณรอบทะเลสาบอากันโกะ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ตัดสินใจปิดโรงแรม 3 แห่งชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งเดือนตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม ส่วนโรงแรมอื่น ๆ ก็มียอดจองเพียงแค่ร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โรงแรมมิยามะ โนะ อิโอริ อิวาอิ ที่บ่อน้ำแร่ร้อนโนโบริเบ็ตสึ คารูรูสุ หั่นราคาค่าห้องพักหนึ่งคืนพร้อมอาหารสองมื้อจาก 10,300 เยน เหลือแค่ 4,980 เยน และถ้าเข้าพักอย่างเดียว ไม่รวมอาหาร จะมีราคาเพียง 2,980 เยน จากราคาเดิม 6,800 เยน
ราคาที่ถูกอย่างไม่เคยมีมาก่อน ช่วยทำให้ยอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทางโรงแรมบอกว่า ในภาวะเช่นนี้ไม่สามารถทำกำไรได้ แต่เพียงแค่ต้องการรายรับเงินสด เพื่อให้ประคับประคองธุรกิจได้เท่านั้น
สภาพการณ์เช่นนี้ทำให้ประชาชนและธุรกิจในฮอกไกโด เรียกร้องต่อทางการให้ผ่อนคลาย “ภาวะฉุกเฉิน” ให้ประชาชนสามารถออกนอกบ้านได้หากมีการป้องกันตัว เช่น สวมหน้ากากและล้างมือ รวมถึงให้ธุรกิจบางส่วนดำเนินกิจการได้ในขอบเขตจำกัด.
