ศาลญี่ปุ่นตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ชายหนุ่มวัย 23 ปีที่ก่อเหตุใช้มีดไล่ฟันผู้คนบนรถไฟความเร็วสูงชิงกันเซ็ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน โดยฆาตกรระบุว่า "ตั้งใจมาฆ่า" เพื่อให้ได้ไปใช้ชีวิตในเรือนจำ พร้อมลุกขึ้นตะโกน “บันไซ” 3 ครั้งต่อหน้าคณะผู้พิพากษา
นายโคจิมะ อิจิโร่ ใช้มีดพร้าไล่ฟันผู้คนบนรถไฟชินกันเซนเส้นทางโตเกียว-โอซากา เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ทำให้ผู้โดยสารชาย 1 คนเสียชีวิต และผู้โดยสารหญิงบาดเจ็บ 2 คน ศาลท้องถิ่นเมืองโยโกฮามาได้ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การของฆาตกรโหดรายนี้ ทำให้คณะผู้พิพากษาและทนายความต่างตกตะลึง!!
นายโคจิมะไม่รู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย กลับรู้สึกยินดีมากที่ฆ่าคนได้สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมแจ้งต่อศาลว่า ต้องการเข้าไปในชีวิตในเรือนจำ ขอให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เขาได้ศึกษากฎหมายมาอย่างดี และวางแผนว่าจะฆ่าคนไม่เกินสองคน เพราะถ้าฆ่าคนสามคนจะต้องโทษประหารชีวิต
ฆาตกรเลือดเย็นเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ เขาวางแผนโดยซื้อตั๋วรถไฟชิงกันเซ็งเที่ยวสุดท้ายของสายโทไกโดที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด และเลือกที่นั่ง 2 คนริมทางเดิน โดยเขาไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าคน เขาได้เตรียมมีดพร้า พร้อมมีดปลายแหลม รวม 2 เล่มนำขึ้นไปบนรถไฟ เพื่อเป็นอาวุธสังหาร
ขณะที่รถไฟกำลังออกจากสถานีชินโยโกฮามะ เขาได้ใช้มีดพร้าที่เตรียมมาฟันหญิงสาว ที่นั่งข้าง ๆ ติดหน้าต่าง โดยระบุว่า “เล็งตรงคอเอาไว้ ถ้าตัดคอให้ขาดได้ก็อยากทำ" แต่ในขณะนั้น ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาขัดขวาง ทำให้ฆาตกรหันมาทำร้ายชายคนดังกล่าวแทน จนเสียชีวิต
ผู้โดยสารต่างแตกตื่น พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด นายโคจิมะยังคงไล่ฆ่าคนให้ได้ 2 คนตามเป้าหมาย "ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ว่าจะคนแก่หรือเด็ก” เพื่อให้ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ในระหว่างในการในศาล ฆาตกรรายนี้ยังพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ฆ่าคนตายได้อย่างเยี่ยมยอด และเสียดายที่ผู้หญิง ที่เขาลงมือฆ่าคนแรกไม่ตาย” และยังบอกกับคณะผู้พิพากษาว่า "ถ้าไม่ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต พอออกจากคุกมา ก็จะฆ่าคนอีก"
คณะผู้พิพากษาตกอยู่ในความยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะตามตัวบทกฎหมายแล้ว ไม่สามารถลงโทษประหารชีวิตได้ แต่หากตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ก็จะสมปรารถนาของฆาตกร ที่ต้องการไปเสวยสุขในคุก
เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต นายโคจิมะก็ได้กล่าวยอมรับโทษว่า “ไม่ขออุทธรณ์” และยังลุกขึ้นตะโกน “บันไซ” หรือ “ไชโย” สามครั้ง
จากเด็กบ้านแตกสู่ฆาตกรโหด
นายโคจิมะ อิจิโร่ มีปัญหาด้านพัฒนาการตั้งแต่เด็ก แต่พ่อแม่ของเขาไม่ได้พาไปรักษา เขาบอกว่าเกลียดพ่อที่ไม่เอาใจใส่ แม่ที่เข้มงวด ทำให้หนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับยาย แต่หลังจากนั้นก็ได้ออกมาใช้ชีวิตเร่ร่อนตามท้องถนน ในจังหวัดนากาโนะ จนเมื่อปี 2561 จึงวางแผนที่จะฆ่าคน เพราะว่าอยากไปใช้ชีวิตในคุก โดยในระหว่างถูกดำเนินคดี เขาก็ปฏิเสธไม่ขอพบญาติทุกคนที่มาเยี่ยม และแสดงความตั้งใจชัดเจนว่า ต้องการติดคุกตลอดชีวิต
นักจิตวิทยาให้ความเห็นว่า คดีสะเทือนขวัญครั้งนี้สะท้อนปัญหาครอบครัวที่ฝักรากลึกในสังคมญี่ปุ่น จนทำให้เกิดฆาตกร ที่มีความผิดปกติทางจิต รวมทั้งช่องว่างของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่ให้โอกาสผู้ต้องหาอย่างมาก จนสุดท้ายแล้วทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิต.