ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
Tokyo University of Foreign Studies
Tokyo University of Foreign Studies
เกริ่นนำ
การคลายร้อนของคนญี่ปุ่นในฤดูร้อนด้วยเรื่องผียังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ เดือนสิงหาคมคือเดือนที่ร้อนที่สุด ด้วยบรรยากาศเช่นนี้คงจะเหมาะสมดีถ้าได้นำเรื่องผีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นมาเล่าสู่กันฟัง หากถามคนไทยว่า เรื่องผีเรื่องใดที่คนไทยจดจำได้มากที่สุด คงจะได้คำตอบว่า “แม่นาคพระโขนง” ในทำนองเดียวกัน ถ้าถามคนญี่ปุ่น ก็น่าจะได้คำตอบว่า “โทไกโด โยะสึยะ ไคดัง” (東海道四谷怪談;Tokaidō Yotsuya Kaidan) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “โยะสึยะ ไคดัง” แปลว่า “เรื่องผีโยะสึยะ” ซึ่งมีตัวเอกเป็นหญิง ชื่อ “อิวะ” ขนบญี่ปุ่นสมัยก่อนมักเรียกชื่อผู้หญิงโดยใส่คำว่า “โอะ” ไว้ที่หน้าชื่อเพื่อให้เกียรติ ตัวละครตัวนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม “โอะอิวะ” (お岩;O-iwa)
เรื่องนี้เขียนขึ้นเป็นบทละครคะบุกิ และจัดแสดงครั้งแรกเมื่อเดือนเจ็ด ปี พ.ศ. 2368 และต่อมาก็ยังได้รับความนิยมอย่างสูงยาวนาน โครงเรื่องเกี่ยวกับการทรยศหักหลังในครอบครัว ฆาตกรรม และการแก้แค้น ซึ่งในปัจจุบันอาจถือได้ว่าไม่ใช่พล็อตแปลกใหม่ แต่ก็คงเพราะความธรรมดาที่ใครๆ ก็มีอารมณ์ร่วมได้โดยง่ายกับฆาตกรรมเลือดสาดหลายศพนี่เอง “โยะสึยะ ไคดัง” จึงเป็นที่จดจำและเป็นเรื่องอมตะของญี่ปุ่น
เรื่องนี้ผ่านการดัดแปลงมามากมายหลายครั้งทั้งในฉบับภาพยนตร์และละครเวที จนถึงปัจจุบันรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ถ้ารวมการนำมาถ่ายทอดด้วยศิลปะการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “ระกุโงะ” (落語;Rakugo) ด้วยละก็ คงนับครั้งไม่ถ้วน ในกรุงโตเกียว มีศาสนสถานซึ่งถือว่าเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณโอะอิวะมากกว่าหนึ่งแห่ง และเมื่อจะมีการถ่ายทำภาพยนตร์หรือละคร ก็ถือเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่กองถ่ายจะไปเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของโอะอิวะด้วย
เรื่องผีโยะสึยะ
แสงโคมไหววูบวาบทั้งที่ลมสงบ ทะมิยะ อิเอะมงหนาวสะท้านไปทั้งร่าง นี่นางไม่อยู่จริง ๆ หรือ? ถ้าตอนนี้นางยังอยู่ นางจะพูดอะไรกับข้านะ? จิตใจของอิเอะมงคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย
แต่สภาพที่ไร้ซึ่งนางผู้นั้นคือสิ่งที่เขาปรารถนามิใช่หรือ
หึ...นังตัวขัดความสุข เขารังเกียจที่มีนางอยู่ด้วย และบัดนี้ เขาบรรลุเป้าประสงค์แล้วมิใช่หรือ
ตะเกียงริบหรี่คล้ายจะดับ อิเอะมงตวัดสายตาแลหน่อยหนึ่ง จังหวะนั้นเอง ไฟก็ลุกโพลงขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตาของเขาเบิกกว้าง นะ...นั่นมัน
“ไอ้คนทรยศ!” นอกจากตาเห็นแล้ว หูก็ได้ยินด้วย แต่เขาอยู่คนเดียว แล้วนี่มันยังไงกัน เสียงนั้นคืออะไร ตาฝาดอย่างเดียวไม่พอ อิเอะมงยังหูเฝื่อนด้วยหรือนี่
“ไอ้คนทรยศ!” เสียงนั้นเอ่ยซ้ำ
อิเอะมงยกสองมือขึ้นขยี้ตา ภาพนางในแสงตะเกียงหายวับ ดวงภาพหายไปพร้อมกับดวงไฟ เขามองไม่เห็นนางพร้อมๆ กับมองไม่เห็นอะไรเลย ภายในบ้านมืดสนิท อิเอะมงไม่คิดจะจุดตะเกียงขึ้นใหม่ แต่ในหูยังคงมีเสียงเคียดแค้นดังก้องไม่หยุดหย่อน เขาตัดสินใจคลานเข้าที่นอน หวังจะผ่านค่ำคืนแบบนี้ไปให้ได้อีกครั้งหลังจากผ่านมันมาแล้วสองสามคืน แล้วเขาจะรีบแต่งงานใหม่ มีเมียใหม่มาอยู่เป็นเพื่อน
แต่คืนนี้ไม่ง่าย ครั้นล้มตัวลงนอน สองตาก็ค้างแข็งเหมือนมีใครมาถ่างตาเขาไว้ จะหลับก็หลับไม่ลง อิเอะมงลืมตามองเพดานมุ้งเสมือนฉากละคร จ้องเขม็งอยู่อย่างนั้น แล้วภาพเก่า ๆ ก็หวนคืนกลับมา
“ไอ้คนทรยศ ดูซะว่าแกทำอะไรไว้!”
เงาดาบเปล่งประกายแม้ต้องเพียงแสงสลัวของพระจันทร์ อิเอะมงจับดาบมั่นไว้ในมือ ตาส่อแววมาดร้าย หวังจะเอาให้อีกฝ่ายตายคามือ
“แก ไอ้แก่ คนอย่างแกไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป กล้าดียังไงถึงมาพรากผัวพรากเมีย” น้ำเสียงเครียด เข้ม คับข้องใจของอิเอะมงแผดลั่น
“คนอย่างแกมันไม่เอาไหน โอะอิวะลูกสาวข้าไม่ควรจะอยู่กับแก ไอ้โจรที่ขโมยเงินหลวงอย่างแกมันไม่ใช่คนดี อย่านึกนะว่าข้าไม่รู้ ชั่วช้านัก!” พ่อตาตะคอกกลับ
“หุบปากไปเลยไอ้แก่ นี่มันเรื่องของข้า”
ถูกพรากเมียไปยังไม่พอ บัดนี้ลูกเขยยังถูกพ่อตาล่วงรู้ความลับเสียอีก ความอดทนสิ้นสุดลงแล้ว อิเอะมงเงื้อดาบแล้ววิ่งเข้าใส่พ่อตา ขวับ...ขวับ...เฟี้ยว ชายชราหลบทันในสองสามกระบวนแรก แต่แล้วก็เสียที
“อย่าอยู่เลย”
คมดาบฟันฉับเข้าที่กลางหน้าอก พ่อตาเซแท่ดๆ อิเอะมงตามประกบไปติดๆ กุมดาบด้วยสองมือ แล้วถอยศอก แทงอย่างสุดแรงเข้าไปที่กลางตัวของอีกฝ่าย พ่อตาไม่มีแม้แต่เสียงร้อง ลำตัวโก่งก่อนจะโงนเงนคาดาบ อิเอะมงถีบซ้ำ ร่างนั้นถอยลู่หลุดออกจากปลายดาบ ลงไปนอนแผ่อยู่ท่ามกลางความมืด
ขณะนั้นมีเสียงฝีเท้าวิ่งตั้กๆๆ อย่างเร็วเข้ามาพอดี อิเอะมงตกใจ ทำอะไรไม่ถูก หรือว่าความฝันที่จะได้ชิงตัวโอะอิวะเมียรักกลับมาจากพ่อตาผู้เป็นมารขัดความสุขจะจบเห่ลงตรงนี้ ไม่ทันแล้ว...เจ้าของเสียงกระหืดกระหอบวิ่งมาเห็นภาพคนตายอยู่ตรงนั้น
“หะ...หา นะ...นั่นมัน ท่านโยะสึยะ ซะมง เขาเป็นอะไร” ผู้มาใหม่เห็นศพก่อน แล้วจึงเบนสายตาขึ้นมองคนที่ถือดาบ “ยะ...อย่าบอกนะว่า เจ้าฆ่าเขาตาย เขาคือพ่อของหญิงที่ข้ารัก”
“ข้าไม่ได้ทำ เมื่อกี้มีโจรมาดักปล้น ข้าจะเข้ามาช่วย แต่เขาถูกโจรฆ่าตายเสียก่อน ท่านซะมงคือพ่อตาข้า เจ้าก็รู้อยู่แล้ว” อิเอะมงชี้แจงต่อนะโอะซุเกะ
“อย่ามาโกหก ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจพ่อตาที่บังคับให้ลูกสาวเลิกกับเจ้า เจ้าฆ่าคนตาย”
อิเอะมงหน้าซีด หลุบตาลง และบังเอิญเห็นสองมือของนะโอะซุเกะ จึงแสยะยิ้มและหัวเราะออกมา
“หึๆๆ นะโอะซุเกะ นั่นมือเจ้าไปทำอะไรมา”
“เอ่อ ข้าทะเลาะกับคนที่...ที่ซ่องน่ะ”
“อย่ามาโกหก! เจ้าคงก่อเรื่องชั่วถึงขนาดทำให้คนเลือดตกยางออกมาใช่ไหม มือเจ้าถึงได้เปื้อนเลือด ที่เสื้อก็มีคราบเลือดด้วยใช่ไหมนั่น” อิเอะมงส่งเสียงขู่กร้าว
“คือ...เจ้าอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง นี่นะ ไหนๆ เรื่องมันก็แดงขึ้นมาละ ข้าจะบอกให้ แล้วเราก็มาร่วมมือกันซะดีกว่า ข้าจะไม่บอกความลับของเจ้า เจ้าก็ต้องไม่บอกความลับของข้า”
“ความลับอะไร คนอย่างข้าไม่มีความลับ”
“หนอย หลักฐานก็นอนอยู่ทนโท่นั่นไงล่ะ อย่าปฏิเสธเลย ข้ารู้ทัน”
อิเอะมงหลบตานะโอะซุเกะและนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเหลือบตาขึ้นสบอีกที พร้อมกับพยักหน้าช้า ๆ
“ดี เมื่อกี้ข้าพลั้งมือฆ่านายเก่าของข้าตายเพราะข้าเมาและเข้าใจผิดว่ามันเป็นคนที่หยามเกียรติข้าที่ซ่อง ข้ารักหญิงนางโลมชื่อโอะโซะเดะ เจ้าก็รู้จักดีนี่ เพราะนางคือน้องเมียของเจ้า เป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านโยะสึยะ ซะมงที่นอนตายอยู่นั่นไงล่ะ นางไม่มีใจให้แก่ข้า ข้าผิดหวังมาก แต่ทีนี้ เจ้ากับข้ามาร่วมมือกันก็ได้ เราบอกพี่น้องสองสาวนั้นว่าเราจะช่วยแก้แค้นให้พ่อของพวกนาง เพียงแค่นี้โอะอิวะก็จะกลับมาอยู่กับเจ้าโดยไม่ตะขิดตะขวงใจว่าเจ้าฆ่าพ่อของนาง ส่วนโอะโซะเดะก็จะยอมตกลงใจรับรักข้าเพราะต้องการให้ข้าหาตัวคนร้ายให้ แล้วเจ้ากับข้า เราสองคนต่างก็เก็บความลับไว้ แบบนี้เป็นไง”
และด้วยแผนการชั่วร้ายนี้ โอะอิวะก็กลับมาใช้ชีวิตกับอิเอะมง ส่วนโอะโซะเดะก็ยอมแต่งงานกับนะโอะซุเกะโดยมิได้รู้เลยว่าชายสองคนนี้ต่างก็มือเปื้อนเลือดกันทั้งคู่
ครั้นอยู่กินกันต่อไปพักหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างอิเอะมงกับโอะอิวะก็เริ่มระหองระแหง มีคนภายนอกเข้ามาพัวพัน แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ติดตามตอนต่อไปสัปดาห์หน้า …
**********
คอลัมน์ญี่ปุ่นมุมลึก โดย ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ แห่ง Tokyo University of Foreign Studies จะมาพบกับท่านผู้อ่านโต๊ะญี่ปุ่น ทุกๆ วันจันทร์ ทาง www.manager.co.th