คนขับรถและพนักงานประจำรถบัสที่ถูกรถรถเก๋งพุ่งข้ามเลนมาชนมาทางด่วนในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนรอดชีวิตจากอุบัติเหตุเขย่าขวัญในครั้งนี้
อุเมะโยะ ยะมะโมะโตะ พนักงานประจำรถบัสที่เป็นเหยื่อในอุบัติเหตุสุดสยองเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน บนทางด่วนโทเมอิใกล้จังหวัดไอจิ ระบุว่า เธอได้เตือนให้ผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยถึง 3ครั้งในระหว่างการเดินทาง จึงช่วยให้ตัวเธอและผู้โดยสารรวม 47 คนรอดชีวิตจากอุบัติเหตุสยอง เมื่อรถเก๋งคันหนึ่งลอยข้ามเลนมาประสานงากับรถบัสจนเสียหายยับเยิน และรถเก๋งขึ้นไปติดคาอยู่บนหลังคารถบัส
สภาพรถบัสที่เสียหายหนักและคลิปวีดิโอจากกล้องด้านหน้ารถบัส ที่แสดงให้เห็นรถเก๋งลอยข้ามมาอย่างจะๆ ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับรสบัสอย่างจัง ทำให้ผู้ชมข่าวต่างคิดว่าคงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ผู้โดยสารรสบัสทั้งหมดปลอดภัยดี มีเพียงคนขับรถเก๋งวัย 62 ปีต้องสังเวยชีวิต ส่วนคนขับรถบัสบาดเจ็บซี่โครงหัก 5 ซี่
ยะมะโมะโตะได้กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ว่า “ถ้าหากไม่พบกับอุบัติเหตุ เราคงไม่รู้ว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยนั้นสำคัญเพียงไหน”
บริษัทโทชิ คันโค บัส เข้าของรถบัสเหยื่ออุบัติเหตุสยอง ระบุว่า ทางบริษัทเพิ่มความเข้มงวด โดยเตือนให้ผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาเดินทาง หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถบัสตกเขาที่เมืองคะรุอิซะวะ จังหวัดนะงะโนะในเดือนมกราคม ปี 2016 ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 15 คน
ทางบริษัทยังได้เปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยภายในรถใหม่ ให้เป็นแบบคาดตั้งแต่ไหล่จนถึงเอว ซึ่งปลอดภัยกว่าแบบเดิมที่คาดเฉพาะที่เอวอย่างเดียว นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์บันทึกการขับรถ ที่จะเก็บภาพและข้อมูลความเร็วส่งผ่านระบบอินเตอร์เนตไปยังบริษัท เพื่อตรวจสอบที่ผิดปกติและการขับรถของโชเฟอร์ด้วย อุปกรณ์นี้ทำให้ทางบริษัทเห็นภาพอุบัติเหตุสยองครั้งนี้ได้ในเวลารวดเร็วหลังเกิดเหตุ
สื่อมวลชนญี่ปุ่นยังได้เผยแพร่คลิปวีดิโอจำลองสถานการณ์อุบัติเหตุเมื่อรถยนต์พุ่งชนด้วยความเร็วสูง ผู้โดยสารที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยจะลอยออกจากที่นั่ง และกระแทกเข้ากับตัวรถ หรือแม้กระทั่งลอยออกจากห้องโดยสารของรถ ทำให้เสียชีวิตได้.
อ่านข่าวย้อนหลัง：ลอยมาจะๆ รถเก๋งพุ่งข้ามเลนเสยรถบัส บนทางด่วนที่ จ.ไอจิ ญี่ปุ่น
