xs
xsm
sm
md
lg

มองย้อนปี 2016 : ญี่ปุ่นต้องขายบริษัทให้ต่างชาติ?! และข่าวเจ้าหญิงไอโกะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้วครับ วันนี้คงจะเป็นวันสิ้นปี 2559 พอดี หนึ่งปีผ่านไปไวจริงๆ ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ติดตามให้กำลังใจกันเสมอมาครับ ใกล้ๆ ช่วงสิ้นปีแบบนี้ คนญี่ปุ่นมักจะชอบคุยเรื่องราวข่าวสารที่เกิดขึ้นในปีนั้นๆ ในวงสนทนาปาร์ตี้ต่างๆ ช่วงสิ้นปี ตัวอย่างเรื่องที่คนญี่ปุ่นมักจะนำมาเล่าสู่กันฟังช่วงสิ้นปี ก็อย่างเช่น สมัยที่ผมยังทำงานที่บริษัทเก่าที่ญี่ปุ่น ฝ่ายแอดมินมักจะรายงานข่าว top ten ของปีนั้นๆ ให้กับพนักงานฟังตลอดช่วงเดือนธันวาคม ทางฝ่ายแอดมินไม่รู้ใช้หลักในการเลือกและเรียงลำดับเรื่องราวอย่างไร เพราะว่าข่าวที่ทางบริษัทเลือกจัดลำดับมานั้น มักเป็นข่าวที่เป็นประโยชน์กับพวกพ้องตนเอง เช่น ผลงานที่ตัวเองทำในปีนั้นๆ ข่าวที่ควรจะเป็น Big news เช่น นายกเทศมนตรีถูกตำรวจจับเพราะว่ารับเงินใต้โต๊ะ หรือ นักการเมืองระดับ top สุด ใช้นามบัตรปลอมในชื่อยากูซ่า ไปหลอกคนอื่นเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เป็นต้น ข่าวที่ควรจะนำมาขึ้นเป็น Big news เช่นนี้กลับอยู่ในลำดับท้ายๆ มันก็น่าแปลกนะครับ

ข่าวที่บอกไป 2 เรื่องข้างต้นค่อนข้างเป็นข่าวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคนในบริษัทที่ผมเคยทำงาน เป็นข่าวที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน ซึ่งจะว่าไปทั้งผมและคงจะรวมถึงคนอื่นๆ ในบริษัทก็ได้รับฟังและติดตามข่าวพวกนี้กันมาจากสื่อต่างๆ บ้างแล้ว อย่างผมยังรู้ข่าวจากทีวีท้องถิ่นที่บ้านที่ต่างจังหวัด ใครๆ ที่บ้านก็ถามถึงข่าวนี้ จึงไม่ได้ตกใจกับข่าวเหล่านี้อีกสักเท่าไหร่ สมาชิกสภาเป็นยากูซ่าเคยพบกันกับหัวหน้าของผมและทำงานร่วมกันมาก่อน พนักงานมักพูดว่าสมาชิกสภาท่านนี้มักร้องขอให้ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นคนที่มักทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ส่วนคนที่ทำข่าว top ten ของบริษัท คือเลขาของนายกเทศมนตรีนั่นเอง เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาคงไม่อยากจะพูดเกี่ยวกับข่าวที่ไม่ดีของนายตัวเองกระมัง

หรืออาจจะคิดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่าคนเรียงลำดับข่าวทำแบบนี้เพื่อเป็นการเป็นการเอาใจหัวหน้า อีกเรื่องที่ผมมักจะเล่าให้คนไทยฟังบ่อยๆ ตอนที่ผมทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น คือ มีคนในแผนกเดียวกันซึ่งมีอายุมากกว่าผม ทุกๆ วันไม่ว่าวันฝนตก วันที่หิมะตก จะอย่างไรเขาจะมาบริษัทแต่เช้า เพื่อที่จะมากวาดพื้นทำความสะอาดบริษัท ผมเคยได้เห็นกับตาตัวเองครั้งแรกในวันที่หิมะตก พระเจ้า! เขามากวาดพื้น ที่จริงเขาเป็นถึงเลขาของผู้บริหารระดับสูง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาทำความสะอาดทางเข้าบริษัทแบบนี้ก็ได้ แค่ตั้งใจทำงานของตัวเองให้เต็มที่ก็พอแล้วมั้ง นี่แหละที่บอกว่านอกจากการทำงานแล้ว การประจบประแจงจำเป็นที่ต้องมีในการทำงาน หรือว่าจริงๆ แล้วมันเป็นส่วนหนึ่งของงานรึเปล่าหนอ ?

ที่ญี่ปุ่นมีสำนวนหนึ่งที่ว่า 👹「来年の話をすると鬼が笑う」 👻ถ้ายักษ์ได้ยินใครเล่าเรื่องอนาคต ยักษ์จะหัวเราะออกมา หมายความว่า เรื่องในอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ก่อนล่วงหน้า ที่ยักษ์หัวเราะเพราะขำที่กล้าพูดเรื่องที่ไม่แน่นอนเรื่องที่ไม่อาจคาดการณ์นั่นเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่มักจะเล่าเรื่องของปีนั้นๆ ตอนสิ้นปี และมักจะจิตนาการต่อไปถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า

วันนี้ผมจะเล่าเกี่ยวกับข่าว Big news ในปี 2016 ในความคิดของผมเป็นข่าวที่ผมจัดอันดับและเลือกเองข่าวต่างๆ นี้ อาจเกิดที่มุมใดมุมหนึ่งของโลกและเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นนะครับ และจะลองจินตนาการถึงเหตุการณ์ในปี 2017 เรื่องของปีหน้าอาจจะไม่ตรง ยังไงก็ตามแต่อย่าเก็บไปคิดมากนะครับ เอาหล่ะ เข้าเรื่องกันเลย ต่อไปนี้ผมจะรายงานข่าวตามอันดับ ดังนี้

อันดับ 5 บริษัท Sharp ขายกิจการให้กับบริษัทของประเทศไต้หวัน
เป็นข่าวที่น่าตกใจมากนะครับสำหรับผม สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไต้หวันเคยตกเป็นประเทศอาณานิคมของญี่ปุ่น จากนั้นบริษัทไต้หวันสร้างโรงงาน ทางรถไฟโดยใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่น และกู้เงินจากญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเขาสามารถซื้อบริษัทของญี่ปุ่นได้!! สมัยประถมผมได้เรียนวิชาสังคมศึกษาในหนังสือเขียนไว้ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนา ที่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ แต่มีเทคโนโลยี ดังนั้นจึงนำเข้าทรัพยากรธรรมชาติ และส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ปัจจุบันอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเครื่องจักร และรถยนต์มี GDP ประมาณ 20% เคยเรียกได้ว่าอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเฟื้องฟูจนถูกเรียกว่า Japan as No.1 มีการทบทวนโครงสร้างใหม่ (อาจจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพสักเท่าไหร่) เป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาล และ ธนาคาร กลายเป็น Business model ทางสังคมและเศรษฐกิจที่เรียกว่า 「日本株式会社 Corporate Japan แปลว่า บริษัทร่วมทุน 」 แต่กระนั้นโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นขยายฐานการผลิต ส่วนใหญ่ออกไปสร้างโรงงานที่ต่างประเทศแถบเอเซีย เช่นไทย และจีน เป็นต้น ทำให้เทคโนโลยีญี่ปุ่นจะติดตามไปยังประเทศนั้นๆ ด้วย ซึ่งเป็นผลให้ความเป็นประเทศส่งออกอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั้นรูปแบบนี้ในอนาคตอาจจะไม่ได้มีต่อไปก็เป็นไปได้ อุตสาหกรรมการผลิตภายในญี่ปุ่นหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ? จะย้ายโรงงานกลับมายังประเทศญี่ปุ่นและฟื้นฟูระบบใหม่เหรอ ? หรือว่าจะมีอุตสาหกรรมประเภทใหม่เกิดขึ้นมาหรือป่าว ? และคนญี่ปุ่นมากกว่า 100 ล้านคนจะถูกเลี้ยงให้เติบโตด้วย アニメ Anime หรือ 漫画 การ์ตูนต่อไปไหม ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อยากให้ญี่ปุ่นหลังจากนี้เป็นไปในลักษณะกลางๆ ไม่มองโลกทั้งในแง่ร้ายเกินไป หรือดีเกินไป

อันดับ 4 เจ้าหญิงไอโกะ (เป็นพระธิดา มกุฎราชกุมารของประเทศญี่ปุ่น) กลับไปโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากห่างหายไป 6 สัปดาห์ เพื่อนๆ อ่านเพิ่มเติมได้จากวิกิพิเดียครับ
https://th.m.wikipedia.org/wiki/เจ้าหญิงไอโกะ_เจ้าโทะชิ
ถ้าอธิบายข่าวนี้ให้กับคนไทยฟังอาจจะเข้าใจยากสักหน่อย เจ้าหญิงไอโกะเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ของประเทศญี่ปุ่นตอนนี้มีพระชนมายุ 15 พรรษา มีการรายงานข่าวอย่างเป็นทางการว่า 「ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเจ้าหญิงทรงทำการบ้านจนเหนื่อยล้า ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ แต่ได้รับการรักษาจนสามารถกลับมาทำเรียนได้ตามปกติ 」เรื่องน่าแปลกที่สำนักข่าวต่างๆ นำเสนอสำหรับข่าวนี้คือ ไม่ใช่เรื่องเจ้าหญิงทรงไม่สามารถไปโรงเรียน แต่เป็นเรื่องของการ 「กลับไปเรียน」หลายครั้งที่พระองค์ทรงหยุดยาว เนื่องจากไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ไม่เคยเป็นข่าว แต่การกลับไปเรียนได้อีกครั้งกลับกลายเป็นข่าว

..เมื่อปี 2001 มีข่าวการประสูติของเจ้าหญิงไอโกะ คนในประเทศญี่ปุ่นจึงยินดีกับข่าวนี้ การประสูติของ 皇室 Royal Family ของคนยุคใหม่นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น

ตอนนั้นผมเดินทางไปต่างจังหวัดหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย (ไม่มีอินเทอร์เน็ต) และได้นั่งเรือไป Penang ที่อยู่ประเทศมาเลเซีย ตอนที่เช็กอินที่ Guesthouse ผู้หญิงชาวมาเลเซียคนหนึ่งที่มีเชื่อสายจีนจู่ๆก็พูดว่า 「ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ」ตอนแรกผมก็งง ไม่เข้าใจว่ายินดีเรื่องอะไร เธอเคยฟังคุณปู่ของเธอเล่าเรื่อง WW2 (สงครามโลกครั้งที่ 2) ตอนนั้นดูเหมือนว่าปู่เธอไม่ค่อยชอบคนญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ เพราะสมัยสงครามโลกนั้นปู่ทำธุรกิจกับทหารญี่ปุ่นได้รับเงินจากทหารมากมายจนร่ำรวย เงินนั้นเรียกว่า 軍票 Gun-pyou ครั้นเมื่อทหารญี่ปุ่นแพ้สงครามทำให้มูลค่าเงิน Gun-pyou เป็นศูนย์ทันที เงินของทหารญี่ปุ่นที่มีมากมายเป็นถุงเป็นถังใช้ไม่ได้ทันที ปู่เลยเกลียดคนญี่ปุ่นมาก ทำให้เธอเคยมองคนญี่ปุ่นไม่ดีไปด้วย แต่ตอนที่เธอเริ่มทำธุรกิจ Guesthouse คนญี่ปุ่นมีมารยาทที่ดี เลยทำให้ชอบคนญี่ปุ่นขึ้นมา→เพราะฉะนั้นเธอเลยแสดงความดีใจกับข่าวการประสูติของเจ้าหญิงไอโกะ และเธอยังบอกอีกว่าทั่วโลกยินดีกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก

เธอพูดมาอย่างนั้นผมเลยดีใจ หลังจากนั้นอีก 15 ปี เจ้าหญิงไอโกะเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น แต่เนื่องจากสภาพร่างกายไม่แข็งแรงจึงทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และมีสาเหตุมาจากถูกเพื่อนในชั้นเรียนกลั่นแกล้ง (คนไทยคงจะเชื่อเรื่องนี้ได้ยากแต่มีข่าวลือออกมาแบบนี้จริงๆ ครับ) เลยกลายเป็นปัญหาใหญ่ นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออื่นๆ อีกด้วย (เช่น พบเจอคนหน้าเหมือนเจ้าหญิงไอโกะ มีการสลับตัวกัน) เป็นต้น แต่รายละเอียดไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ดังนั้น เลยไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร คนญี่ปุ่นเป็นกังวลเกี่ยวกับข่าวนี้ ถ้าสำหรับเด็กผู้หญิงอายุ 15 ปีไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่ได้รับการอบรม และจะกลายเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชน ผมก็ขอให้ทรงมีสุขพลานามัยที่แข็งแรงเหมือนกับ 15 ปีที่แล้วครับ

แค่สองเรื่องก็เล่าเหนื่อยแล้ว เหลืออีกสามเรื่องจะเป็นเรื่องอะไร แนวไหน รบกวนมาติดตามต่อวันเสาร์หน้านะครับ ใครไปกินเลี้ยงฉลองเลี้ยงส่งท้ายปีที่ไหนก็ขอให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับ เมาไม่ขับ เดินทางปลอดภัย วันนี้สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น