รัฐบาลญี่ปุ่นผลักดันกฎหมายอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนัน หรือ กาสิโน อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการวางเดิมพันระหว่างโอกาสทางเศรษฐกิจกับผลกระทบจากการพนันและกลุ่มอิทธิพลมืด
กฎหมายการพนันได้รับการลงมติรับรองจากวุฒิสภาของญี่ปุ่นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 15 ธ.ค. โดยจะอนุญาตให้สามารถเปิดบ่อนการพนัน หรือ กาสิโน ได้ในประเทศญี่ปุ่น หากแต่ไม่ใช่บ่อนแบบเดี่ยวๆ แต่ต้องเป็น “รีสอร์ตครบวงจร” ที่มีโรงแรม, ศูนย์ประชุม, โรงแรม และห้างสรรพสินค้า รวมอยู่ในที่เดียวกัน นายกฯชินโซ อะเบะ ระบุว่า พื้นที่บ่อนพนันจะคิดเป็นเพียง 3% ของ รีสอร์ตครบวงจรที่จะสร้างงานให้ชาวญี่ปุ่นและดึงดูดการลงทุน
ถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีกิจกรรมหลายอย่างที่อาจเข้าข่ายการพนันตามกฎหมาย แต่ก็ยังไม่เคยมีบ่อนแบบเต็มรูปแบบ ที่สมาชิกรัฐสภาหลายคนบอกว่า “นี่เป็นโอกาสสุดท้าย” ที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
อ่านเรื่องประกอบ
เมื่อญี่ปุ่นอนุญาตให้เปิดบ่อนกาสิโนได้อย่างถูกกฏหมาย อะไรจะเกิดขึ้น!?!
ยากูซ่าแต่งตัวรอ โกยเงินจากธุรกิจการพนัน
ในญี่ปุ่นไม่เพียงธุรกิจการพนันแข่งม้าและตู้ปาจิงโกะซึ่งถูกกฎหมาย แต่ยังมีบ่อนการพนันแบบกาสิโนด้วย เพียงแต่ไม่ได้ใช้เงินสดหรือชิปเพื่อเลี่ยงกฎหมาย กิจการทั้งหลายนี้ล้วนเกี่ยวพันกับกลุ่มอิทธิพลมืด หรือ ยากูซ่า ซึ่งทั้งดำเนินธุรกิจเอง, ให้ความคุ้มครอง ไปจนถึงปล่อยจนกู้ให้กับเหล่านักพนัน
ทันทีที่รัฐบาลผ่านกฎหมายการพนัน กลุ่มยากูซ่าต่างตอบรับโอกาสทำเงินอย่างถูกกฎหมายนี้ ไม่ว่าจะเป็นปล่อยเงินกู้ขูดรีดดอกเบี้ยจนถึงการฟอกเงินผ่านบ่อน แกนนำยากูซ่ากลุ่มหนึ่งยอมรับว่า “ไม่มีใครรวยจากการพนัน ยกเว้นเจ้ามือและคนปล่อยเงินกู้ให้นักพนัน”
องค์กรอิทธิพลนี้ยังบอกว่า ได้เตรียมจัดตั้งบริษัทเพื่อเป็นนายหน้าจัดซื้อเครื่องเล่นและอุปกรณ์การพนันต่างๆไว้แล้ว ขณะที่บรรดาลูกสมุนที่ทุกวันนี้ได้ “ค่าหัว” จากการนำชาวญี่ปุ่นไปละลายทรัพย์ในบ่อนต่างประเทศ ก็จะหาเงินได้ง่ายขึ้นในบ้านตัวเอง
เล็งทำเลนครโอซากา ตั้งกาสิโนเร่งเศรษฐกิจหลังโตเกียว โอลิมปิก
รัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกกฎหมายลูกหลายฉบับเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การสร้าง “รีสอร์ตการพนันครบวงจร” รวมทั้งกฎหมายเพื่อควบคุมผลกระทบจากการพนัน ซึ่งจะทำให้การสร้างรีสอร์ตนี้ไม่สามารถทันมหกรรมโตเกียวโอลิมปิก ปี 2020แต่รัฐบาลญี่ปุ่นมุ่งหวังให้เสร็จทันในปี 2025 ที่นครโอซากาจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo
รัฐบาลญี่ปุ่นใช้โมเดลของสิงคโปร์ที่เคยห้ามการพนันอย่างเด็ดขาด แต่สุดท้ายก็จำต้องเปิด Marina Bay Sands เพื่อหารายได้เข้าประเทศ สิ่งที่แตกต่างกัน คือ สิงคโปร์ได้ห้ามพลเมืองของตนเองเข้าใช้บริการกาสิโน อนุญาตให้แต่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ข้อเสนอนี้ถูกตีตกไปในรัฐสภาญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลว่าหากจำกัดเฉพาะชาวต่างชาติจะทำให้ขับเคลื่อนธุรกิจได้ไม่เต็มที่
สถิติทางการจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น ระบุว่า มีชาวญี่ปุ่นตกเป็นทาสติดการพนันมากกว่า 5.36 คน ส่วนใหญ่ติดการพนันแข่งม้าและตู้ปาจิงโกะ
การลงมาเป็น “เจ้ามือ” เองของรัฐบาลญี่ปุ่นจึงเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่ ที่อาจดึงดูดกลุ่มทุนให้มาร่วม “ลงขัน” ได้มาก แต่ก็อาจทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นหลายคนเปลี่ยนสภาพเป็น “ลูกหนี้” เช่นกัน.