xs
xsm
sm
md
lg

กินโซะบะให้ถูกเวลา

เผยแพร่:   โดย: โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์

โซะบะ
ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
Tokyo University of Foreign Studies


ใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกขณะ คนญี่ปุ่นเริ่มวางแผนทำความสะอาดบ้านและเตรียมการเพื่อหยุดยาว คนที่อยู่ไกลบ้านก็เตรียมกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัว คล้ายๆ กับสงกรานต์ของไทย ช่วงสิ้นปีต่อปีใหม่ในญี่ปุ่น โตเกียวจึงสงบ ไปไหนมาไหนไม่มีผู้คนเบียดเสียดเหมือนช่วงปกติ

สำหรับวันสิ้นปี คนญี่ปุ่นมักจะใช้เวลาร่วมกับครอบครัว อยู่กันจนดึกข้ามคืนไปสู่วันปีใหม่ และตรงช่วงรอยต่อก่อนจะขึ้นศักราชใหม่เต็มตัว คนญี่ปุ่นนิยมทาน “โซะบะ” เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

สัมผัสสีสันบรรยากาศปลายปี/ปีใหม่ด้านอื่น ๆ ของญี่ปุ่นผ่านตัวอักษรได้ที่นี่
เตรียมรับปีใหม่ (1)
เตรียมรับปีใหม่แบบคนญี่ปุ่น (2)

“โซะบะ” คืออาหารญี่ปุ่นประเภทเส้น ทำจากแป้งเมล็ดโซะบะ โซะบะที่ทานส่งท้ายปี (เก่า) หรือ “โซะบะข้ามปี” ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โทะชิโกะชิ โซะบะ” (年越し蕎麦;toshikoshi soba)
พุ่มสนสัญลักษณ์ปีใหม่ของญี่ปุ่น
ในบรรยากาศเช่นนี้ “ญี่ปุ่นมุมลึก” ขอนำเรื่องราวว่าด้วยโซะบะ ที่สอดแทรกอารมณ์ขันของคนญี่ปุ่นไว้และเป็นที่รู้จักแพร่หลายที่สุดเรื่องหนึ่ง ได้แก่ เรื่อง “โทะกิ-โซะบะ” (時そば;Toki-soba) หรือ “โซะบะเวลา” มาเล่า

ตามปกติ เรื่องนี้จะถ่ายทอดผ่านศิลปะการเล่าเรื่องสนุกสนานตามขนบญี่ปุ่น เรียกว่า “ระกุโงะ” (落語;rakugo) ซึ่งผู้แสดงจะนั่งเล่าคนเดียว โดยใช้เสียงหลากหลายรูปแบบเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ตัวละคร พร้อมทั้งทำท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ประกอบ
การแสดง “ระกุโงะ”
เรื่องนี้เกิดขึ้นในฤดูหนาว ชายคนหนึ่งกำลังหิว ขณะที่เดินๆ อยู่ข้างนอก ก็เห็นซุ้มร้านค้าเล็กๆ เข้า พอชะเง้อชะแง้แลมอง ก็เห็นมีคนนั่งหันหลังก้มๆ เงยๆ กินอะไรอยู่ด้วย จึงเข้าใจว่าร้านนี้คงขายอาหารแน่ๆ

ในใจก็นึกว่า แหม...เหมาะจริง ๆ กำลังอยากกินอะไรร้อน ๆ อยู่พอดี จึงเดินเข้าไปและถามพ่อค้า

ลูกค้า 1 : นี่ ๆ ๆ ขายอะไรน่ะพ่อ
พ่อค้า: ซื้ออะไรก็ขายไอ้นั่นแหละ
ลูกค้า 1 : บ๊ะ ตานี่กวน เดี๋ยวปั๊ด เอ้าๆๆ นั่นโซะบะใช่ไหมน่ะ ขอสักชามซิ ข้าจะนั่งตรงนี้ละนะ
พ่อค้า : ถ้าขอน่ะ ไม่ให้ แต่ถ้าซื้อ ก็จะขาย

ลูกค้าชักมีน้ำโห ทำปากขมุบขมิบและไปนั่งที่โต๊ะ สั่งโซะบะมากินหนึ่งชาม จากนั้นคนขายก็รีบจัดแจงทำโซะบะร้อนๆ ให้ลูกค้า ขณะที่คนขายกำลังทำ ลูกค้าก็ชวนคุยโน่นคุยนี่เรื่อยเปื่อย

ลูกค้า 1 : นี่มันอะไรกาน ทำไมวันนี้มันหนาวยังงี้นะ แล้วเอ็งน่ะ ขายของข้างนอกแบบนี้ไม่หนาวหรือไง หือ ไม่เป็นไรเรอะ? เอ้อ ดีนา...ดีที่ไม่เป็นไร แล้วการค้าการขายล่ะเป็นไง ขายดีไหม
คนขาย : ก็อย่างที่รู้ๆ กันน่ะแหละ การค้าการขายมันแย่ไปทั่วทุกหัวระแหง ของข้าก็ลูกผีลูกคน
ลูกค้า 1 : อ้อ...ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ก็ตีนถีบปากกัดกันทั้งนั้นแหละนะ

ลูกค้าเน้นเสียงหนักแล้วยักคิ้วให้คนขาย ทีนี้คนขายทำปากขมุบขมิบบ้าง พลางกลอกตา

คนขาย : ขอรับ ข้าทำงานหนักทู้กวัน ขอบคุณที่อุตส่าห์แนะนำ เอ้า นี่เชิญ โซะบะของท่าน
ลูกค้า 1 : เสร็จแล้วเรอะ ไวดีแท้ แหม น่าอร่อย หนาวอย่างนี้ จะกินซะให้สะใจเลยเชียว
อ้อ! ตะเกียบนี่ก็เหมาะมือ เอ้อ แล้วมุมนี้ลมก็ไม่ค่อยแรง ดีๆๆ อย่างนี้จะได้กินเต็มที่
กลิ่นก็ดี บ๊ะ แค่สูดกลิ่นก็แทบจะอิ่มละ โอ๊ะ ดูสิ ชามเชิมอะไรนี่ก็ใช้แต่ของดีด้วยนะ
เอาละๆ จะกินละ


ว่าแล้ว ลูกค้าก็ซดน้ำซวบๆ ดูดเส้นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พลางเอ่ยไม่หยุดปาก แหม...หย่อยจัง นี่ พ่อค้าเอ้ย ข้าชอบรสชาติแบบนี้ อร่อยเหาะ ได้กินของอร่อยแบบนี้ ให้ตายก็ไม่เสียดายชาติเกิดแล้ว ชมแล้วชมอีก ละล่ำละลักว่าเดี๋ยวจะกลับมากินอีกให้ได้ พูดไปก็ดูดเส้นจ้วบๆๆ คนขายได้ยินตลอด แต่ก็ทำหน้าเฉยๆ

ลูกค้า 1 : อิ่มแล้วพ่อค้า มื้อนี้อร่อยเหาะเล้ย ค่าโซะบะเท่าไรกันล่ะเนี่ย
คนขาย : ขอบคุณท่าน ราคา 16 มง
ลูกค้า 1 : งั้นเรอะ เอ้อนี่ โทษที ข้ามีแต่เงินเหรียญ เป็นเศษเนี่ย ไหนมาช่วยข้านับหน่อยซิ เอ้านี่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 เอ๊ะ ว่าแต่ ตอนนี้มันกี่โมงแล้วล่ะ
คนขาย : ขอรับ เก้าโมง
ลูกค้า : 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 เอ้า...เอาไปนี่ 16 มง ขอบใจนะ

แล้วลูกค้าที่พูดไม่หยุดก็ไปจากร้าน บังเอิญลูกค้าอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวนั้นสังเกตเห็นทุกอย่างเมื่อครู่และเพิ่งกินเสร็จพอดี ลูกค้าคนนี้ทำตาปริบๆ เมียงมองแล้วก็นึกทบทวนดู

ลูกค้า 2 : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ? เก้าโมง?
แล้วต่อ 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16!???
ช้าก่อน! เข้าใจแล้ว ไอ้หมอนั่นคงต้องโกงไป 1 มงแน่ ๆ
เอ...แต่นึกไปนึกมา ก็เข้าท่าดีแฮะ
มันช่างฉลาดดีแท้ เดี๋ยวข้าต้องลองทำดูบ้างละ

ลูกค้าคนนี้ได้ข้อสรุปในใจ และอยากจะลองใช้อุบายแบบนี้บ้าง วันหลังจึงเตรียมเงินเหรียญไว้ แล้วก็ออกจากบ้านไปที่ร้านโซะบะ ตอนนั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ พ่อค้าคนเดิมนั่นเอง...ครั้นเห็นแล้วก็ตรงรี่ไปที่ร้าน นั่งแหมะลงและตะโกนสั่งโซะบะมากินอย่างหมายมั่นปั้นมือ ฮื่ม...วันนี้แหละ จะได้อิ่มอร่อยใช้สอยประหยัด

ลูกค้ารายนี้ตั้งใจจะทำเหมือนลูกค้าเจ้าเล่ห์ที่เห็นเมื่อวันก่อน จึงเริ่มชมโน่นชมนี่ไม่หยุดปาก ทั้งชามเอย ตะเกียบเอย กลิ่นเอย รสชาติเอย ชมไปถึงเสื้อผ้าของคนขาย ชวนคุยต่างๆ นานาจนกระทั่งกินเสร็จ และท้ายที่สุด ก็ได้เวลาจ่ายเงิน

ลูกค้า 2 : นี่ พ่อค้าเอ้ย โทษที วันนี้ข้ามีแต่เงินเศษ ไหน มาช่วยข้านับเงินหน่อยซิ
นี่แน่ะ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 เอ้อ ตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ
คนขาย : สี่โมง
ลูกค้า 2 : 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16

ลูกค้านับเสร็จ ก็เกาหัว เอ๊ะ...นี่มันยังไงกันหว่า


(*สำหรับผู้อ่านที่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นหรือผู้ที่สนใจ สามารถรับฟัง “ระกุโงะ” เรื่องนี้ได้ที่ลิงก์ตัวอย่างดังนี้)



**********
คอลัมน์ญี่ปุ่นมุมลึก โดย ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ แห่ง Tokyo University of Foreign Studies จะมาพบกับท่านผู้อ่านโต๊ะญี่ปุ่น ทุกๆ วันจันทร์ ทาง www.manager.co.th

กำลังโหลดความคิดเห็น