ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวและความตื่นตัวของทุกภาคส่วนในญี่ปุ่น ได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่มเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,000 คน
เหตุแผ่นดินไหวเมื่อเช้าวันอังคารที่ 22 พ.ย. ได้พิสูจน์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตื่นตัวกับการเตือนภัยมากยิ่งขึ้น โดยออกคำสั่งอพยพทันทีเมื่อพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ โดยถึงแม้สุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะผ่านพ้นไปโดยไม่มีคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ตามที่คาดการณ์ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่ยอมเสี่ยงชีวิตของประชาชน
บทเรียนจากเหตุแผ่นดินไหวในปี 2011 ซึ่งการแจ้งเตือนผ่านโทรทัศน์, วิทยุ และ ลำโพงกระจายเสียงในพื้นที่เท่านั้น ไม่ครอบคลุมเพียงพอ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากไม่สามารถอพยพหนีภัยได้ทันเวลา เนื่องจากไฟฟ้าดับและเจ้าหน้าที่ที่ขับรถตระเวนแจ้งเตือนภัยให้กับชาวบ้านถูกคลื่นยักษ์สูงกว่า 30 เมตร ซัดจมหายไป
ผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 5 ปีก่อนจำนวนมาก บอกว่า พวกเขาไม่ได้ยินการแจ้งเตือนให้อพยพ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ NHK ซึ่งเป็นแม่ข่ายหลักในการแจ้งเตือนภัยก็ถูกวิจารณ์ว่า สงบเสงี่ยมเกินไป จนผู้ชมประเมินความรุนแรงของเหตุการณ์น้อยกว่าความเป็นจริง
เหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และหน่วยงานราชการของญี่ปุ่นหลายแห่งถูกฟ้องร้องว่าแจ้งเตือนภัยล่าช้า หรือประเมินความรุนแรงน้อยเกินควร ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องปรับเปลี่ยนท่าทีการแจ้งเตือนภัย
ทุกวันนี้ ญี่ปุ่นพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะส่งเสียงดังขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และจะแจ้งเตือนให้อพยพถ้าจำเป็น
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ได้ยกเลิกรายการปกติทันที และแจ้งเตือนภัยด้วยข้อความที่ชัดเจนกว่าเดิม พร้อมภาพกราฟิกสีแดงขนาดใหญ่ “จงหนีทันที!” “โปรดนึกถึงเหตุสึนามิเมื่อ 5 ปีก่อน รักษาชีวิตตนเอง จงหนี อย่าลังเล!”
นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนภัยเป็นภาษาอังกฤษ, จีน และเกาหลีด้วย หลังจากชาวต่างชาติจำนวนมากเสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อน เพราะไม่เข้าใจการแจ้งเตือนภัย
สถานที่หลบภัยก็ได้รับการประเมินใหม่เช่นเดียวกัน เพราะหลายแห่งอยู่ในที่ต่ำเกินไปจนกลายเป็น “จุดตาย” เมื่อมีผู้คนมารวมตัวกันจำนวนมาก โดยครั้งนี้ชาวบ้านทุกคนต่างมุ่งหน้าไปยังภูเขาที่ใกล้ที่สุดทันทีที่ได้รับการแจ้งเตือนภัยคลื่นสึนามิ
นักวิชาการญี่ปุ่น ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวเมื่อเช้าวันอังคารเป็นอาฟเตอร์ช็อกของแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 5 ปีก่อน ในระยะหลังนี้ ญี่ปุ่นมีแผ่นดินไหวเกิดถี่ขึ้น และระดับความรุนแรงก็มากขึ้นอย่างชัดเจน สร้างความกังวลให้กับชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่