ที่เกาะมิยาโกะ จังหวัดโอกินาว่า มีเทศกาลทางศาสนาชินโตที่มีมาแต่โบราณอยู่ ซึ่งเทศกาลนี้แปลกและน่าขนลุกไม่น้อยเลยทีเดียว เทศกาลที่ว่าก็คือ "PANTU"
"PANTU" คือชื่อเรียกของเทพเจ้าที่เกิดจากบ่อโคลนตม ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยโคลนสีดำ โดยเทพเจ้า PANTU จะเอาโคลนไปป้ายตามตัวผู้คนเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไป
เทพเจ้า PANTU มีทั้งหมด 3 องค์ด้วยกัน ทั้งสามจะสวมหน้ากากแปลกๆ ลำตัวห่อหุ้มด้วยพืชชนิดหนึ่ง และมีโคลนทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่สำคัญคือมีกลิ่นรุนแรงมาก!
เพราะอะไรเทพเจ้า PANTU ถึงเปรอะไปด้วยโคลนดำทั่วทั้งตัวอย่างนั้น? แล้วทำไมต้องใส่หน้ากากที่ดูน่ากลัวขนาดนี้? นี่มันคือเทศกาลแบบไหนกันแน่!?
นานมาแล้ว มีหน้ากากที่ถูกห่อหุ้มด้วยใบคุบะพัดขึ้นมาเกยชายฝั่งคุบามะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชิมาจิริ หน้ากากนี้ถูกเรียกว่า “Oya (พ่อแม่) PANTU” แล้วก็มี “Naka (กลาง) PANTU” “Ko (เด็ก) PANTU” รวมเป็นหน้ากาก 3 อัน
ทางใต้สุดของชุมชนมีบ่อน้ำแร่ที่เรียกว่า “อุบุอิ” เป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ทำพิธีให้แก่เด็กแรกเกิด และใช้ในการชำระล้างศพให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะไปเกิดใหม่ ทุกๆ ปี PANTU จะเกิดจากบ่อนี้ แต่ในวันพิธีกรรมน้ำในบ่อจะกลายเป็นโคลน และนี่ก็คือต้นกำเนิดของเทพเจ้า 3 องค์ จากผืนดิน เป็นร่างที่มีเนื้อหนังนั่นเอง
คำว่า PANTU มีความหมายว่า “ยักษ์” จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวแบบนี้ ดังนั้นเมื่อ PANTU ปรากฏตัวในชุมชน ผู้คนก็วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น แต่ว่าไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่าหวั่นเกรงเท่านั้น PANTU ยังวิ่งได้เร็วมากอีกด้วย ดังนั้นการวิ่งหนีจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย! เรียกว่าเป็นเกมวิ่งไล่จับแบบศาสนาชินโตก็ได้
พิธีกรรมนี้เป็นของศาสนาชินโต มีชื่อเรียกทางการว่า Pantu Punaha โดยคนที่วิ่งหนี PANTU ไม่ทันจะถูกละเลงด้วยโคลนทั่วตัว แต่ว่านั่นก็คือขั้นตอนในการไล่ภูติผีปีศาจนั่นเอง ซึ่งพิธีกรรมนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1982
ผู้ที่มาร่วมเทศกาลส่วนใหญ่จะพาเด็กๆ มาด้วย เมื่อ PANTU สุดน่ากลัวเข้ามาใกล้ เด็กๆ ก็วิ่งหนีและร้องไห้กันใหญ่
เราจึงได้ลองถามบรรดาพ่อแม่ว่าทำไมถึงพาลูกๆ มาทั้งที่รู้ว่าเด็กๆ จะตกใจกลัวและร้องไห้แบบนี้ คำตอบที่ได้ก็คือ …
“ให้ลูกมาเข้าร่วมเพื่อเป็นการขอพรให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงสุขภาพดี” บ้างก็ว่า “ช่วงนี้ลูกไม่ฟังที่เราพูด ก็เลยขู่ว่าถ้าไม่ยอมเชื่อฟังเดี๋ยว PANTU จะมาหานะ” หรือเพื่อเป็นการอบรมสั่งสอนลูก เป็นต้น
เท่ากับว่าพิธีกรรมในเทศกาลนี้ กลายเป็นธรรมเนียมในท้องถิ่นที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เพื่อให้ผู้คนยำเกรงต่อเทพเจ้า และเพื่อเป็นการอบรมสั่งสอนลูกหลานด้วยนั่นเอง
นอกจากนี้สำหรับคู่สามีภรรยาก็มีการขอพรให้มีบุตรที่สุขภาพแข็งแรงด้วย โดยคุณแม่จะถูกจับที่ท้องเพื่อเป็นการอวยพรให้คลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย
เทศกาล PANTU จะจัดขึ้นในเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าได้ไปเที่ยวเกาะมิยาโกะในช่วงที่มีเทศกาลพอดี ก็ถือว่าโชคดีมากๆ
ตอนที่ PANTU มาถูกตัวเรา เสื้อผ้าหรือกล้องถ่ายรูปอาจจะเลอะเปรอะเปื้อนไปบ้าง ดังนั้นขอให้เตรียมเสื้อผ้าพร้อมเลอะใส่ไปร่วมงาน เพื่อให้ PANTU ช่วยปัดเป่าโชคร้ายให้เรา ถือว่าเป็นการขอบคุณ PANTU ที่ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ผู้คนมาตั้งแต่อดีต
PANTU เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวเกาะมิยาโกะ ดังนั้นเราจึงควรให้ความเคารพและเข้าร่วมเทศกาลพร้อมด้วยความเข้าใจในที่มาที่ไปและจุดประสงค์ของเทศกาลนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org