**พริบตาเดียว ปฏิทินศกใหม่ปี 60 จะนับหนึ่ง เหมือนเพิ่งผ่าน 7 ส.ค.วันประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับอรหันต์ทองคำมาเมื่อวานซืน
เหมือนเพิ่งได้เห็น กกต."สมชัย ศรีสุทธิยากร" โชว์โยนกล่องหีบเลือกตั้งเเตกขายขี้หน้าสื่อมาหยกๆ
ทุกเรื่องผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลาไม่คอยใครโดยเฉพาะฉากการเมืองที่เริ่มร้อนผ่าว ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่กระบวนการ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจำนวน 4 ฉบับ จังหวะขยับของฝ่ายการเมือง จึงเริ่มออกโรงออกเเขก เพราะกฏหมาย 4 ฉบับดังกล่าวที่กำลังเริ่มกระบวนการนั้น ประกอบไปด้วยของเเสลงสำหรับฝ่ายการเมืองเต็มไปหมด ซึ่งจะเป็นกติกาไฟต์บังคับในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป
ไม่ว่าเรื่องยาเเรงโทษประหารชีวิต หรือตัดสิทธิ์คนโกงเลือกตั้งตลอดชีวิต
จนซือแป๋มั่นใจในฉบับปราบโกงล้ำหน้าอนาคต แก้ปัญหาจากประสบการณ์ไทยในอดีตที่ชาวโลกไม่เคยประสบพบเจอ ถึงขนาดเเน่ใจว่า ต้นตำรับประชาธิปไตยโลกอย่างอเมริกัน จะมาลอกเลียนเเบบรัฐธรรมนูญฉบับวิเศษนี้
จะโดนของเเรงมากำกับขนาดนี้ มีหรือเเรงต้านจะไม่เร่งเร้ารัวกลองศึกดังถี่ทุกขณะ จากอาการของสองพรรคใหญ่ เริ่มจากพรรคเพื่อไทยไล่บี้ผู้มีอำนาจอย่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ปลดล็อกชนักคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวมาตลอดสัปดาห์
นัยยะคือขอปล่อยผี เปลื้องพันธนาการเตรียมเเต่งองค์ทรงเครื่องรับศึกเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ในรัฐธรรมนูญฉบับข้นคลั่กของ "ซือแป๋" มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)
โยนข้อครหา ว่าเนื้อหาในร่างไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่อื้อ สลับหน้ากันมาเเขวะรายวันเเบบไม่เกรงใจ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โดยขอร้องอย่าเตะถ่วง ดึงเกมกฏหมายลูก หรือทำตามออร์เดอร์ จนกระทบโรดเเมปเลือกตั้งจากเดิมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ประกาศไว้
ส่วนประชาธิปัตย์ ส่งตัวจี๊ดอย่าง "วัชระ เพชรทอง" ออกมาช่วยขย่ม รายนี้ด่าไม่เลี้ยง ไล่เรียงยัดข้อหา "ซือแป๋กรธ." ว่าเป็นหนังหน้าไฟ รับใบโพยร่างรัฐธรรมนูญตามธงผู้มีอำนาจ เนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย แถมจะเป็นระเบิดเวลาถล่มป่าช้าเเตก ปลุกผีการเมืองออกมาป่วนสถานการณ์ในอนาตให้ลุกเป็นไฟ หากไม่หยุดการกระทำรังเเต่จะเสียการใหญ่ สุดท้ายที่พยายามเนรมิตรเสียดิบดี จะกลายเป็นเศษกระดาษใช้พับถุงกล้วยเเขกขายตามสี่แยก โดยเรื่องกฎหมายลูกถ้าไม่จงใจหมกเม็ด ควรเปิดเผยให้รับรู้ หรือว่าต้องรอส่งให้ทหารเซ็นเซอร์ก่อน หือ !
สองพรรคใหญ่ทำงานเป็นทีมเหมือน"นกรู้" กำลังถูกตีกรอบด้วยยาเเรง จึงออกมาจี้ทั้งเรื่องเวลา และเนื้อหาสาระที่เป็นกติกาใหม่ กำหนดทิศทางจะเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ ออกหัว หรือก้อย
ทั้งนี้ เมื่อส่องปฏิทินตามกำหนดการในรัฐธรรมนูญ จะมีเลือกตั้งเริ่มเมื่อไหร่ ต้องดูจากเเนวทางจัดทำร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับสำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยอธิบายด้วยภาษาของซือแป๋ มาประกอบการคาดการณ์
โดยจากนี้ กรธ.จะเเบ่งการทำงานเป็น 2ขยัก โดยขยักเเรกจะทำกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายลูกว่าด้วย กกต. ล่าสุดกรธ.ยืนยัน พอร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะส่งขยักเเรกให้ สนช.ทันที
ส่วนขยักที่ 2 จะทำร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
ทั้ง 2 ขยัก กรธ.ในฐานะผู้ยกร่างหลัก ต้องส่งให้สนช.รับไม้ต่อ โดยตั้งกมธ.วิสามัญมาพิจารณา
ล่าสุด ฟากรองประธานสนช. "พีระศักดิ์ พอจิต" เเพลมไต๋สัดส่วน กมธ.วิสามัญกฎหมายลูกเเต่ละฉบับจะประกอบด้วย 25-30 คน จะมีตัวเเทน กรธ. สนช. ครม.และ สปท.เข้าร่วม
เเว่วว่า จะส่งทีมเเต่ละชุดเก็บตัวต่างจังหวัดสามวันสามคืนเเบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน เพื่อทำสมาธิเต็มที่ ยืนยันชั้นนี้ไม่มีเล่นเกมเอื่อยเฉื่อย ทุกอย่างเดินตามโรดเเมป หรืออาจเสร็จทันก่อนกำหนดเวลา
เเต่ทว่า ตามมาตรา 267 ของรัฐธรรมนูญฉบับผ่นประชามติ กรอบเวลาการผ่านกฎหมายสำคัญ 4 ฉบับ สนช.ในฐานะผู้รับไม้ต่อ มีเส้นตายขีดไว้ให้ทำกฎหมายลูก 60 วัน แต่ละฉบับพอทำเสร็จ จะต้องเเช่น้ำรอละลายความคิดเห็นจากขั้วอำนาจที่เกี่ยวข้องกับร่างกติกาอีก 10 วัน เช่น องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นเเย้งหรือไม่ ถ้ายังมีข้องใจในเเต่ละฉบับ ต้องตั้งกมธ.ร่วม มาร่วมกันมะรุมมะตุ้มอีก 15 วัน รวมเเล้ว ถ้าใช้เวลาเต็มเหยียดจะเป็น 85 วัน
เช่นกันกับกฎหมายลูกขยักที่ 2 ถ้ามีขั้วอำนาจที่เกี่ยวข้องไม่พออกพอใจอีกละก็ การร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับสำคัญ จะกินเวลารวมทั้งสิ้น 170 วัน
จากนั้น มาตรา 268 กำหนดให้จัดการเลือกตั้งให้เเล้วเสร็จ 150 วัน นับจากกฎหมาย 4 ฉบับสำคัญแล้วเสร็จ
สนามเลือกตั้งครั้งต่อไป จะคิกออฟเลือกตั้งจนจะเเล้วเสร็จในเวลาอีก 320 วัน หรือประมาณ 11 เดือน นับจากวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้
เเต่มีปัจจัยน่าห่วงที่อาจทำให้โรดเเมปเคลื่อนจากนี้ คือหาก สนช.มีมติ 2ใน 3 ตีตกร่างกฎหมายลูกของกมธ.ร่วม ตามมาตรา 267 ทำให้จะต้องเริ่มกระบวนการร่างกฎหมายลูกใหม่ทั้งหมด
โดยหากยังอยู่ในระยะเวลา 8 เดือน "ซือแป๋" เคยบอกว่า จะรับหน้าเสื่อเริ่มกระบวนการใหม่เอง แต่หากพ้นเเปดเดือนราตรีกาลตามปฏิทินจันทรคติเเล้วละก็ ตัวใครตัวมัน รัฐบาลต้องเอาไปร่างใหม่เอง
หมายความว่า ถ้าเกิดติดล็อกในกระบวนการร่างกฎหมายลูก โดยสนช. - กรธ. หรือ กมธ. วิสามัญร่วมร่างกฎหมายลูกยังตกลงกันไม่ได้ คัดง้าง ล้ำเล้น ลำหน้าออฟไซด์กันเอง จนกฎหมายลูกถูกทำเเท้ง ไฟต์บังคับจะตกสู่มือรัฐบาล ถ้าเป็นตามนั้นจริงละก็ ไม่อยากคิด หรือจินตนาการ ว่าโรดเเมปจะเลื่อน หรือขยับขยายไปเท่าไหร่
เเต่ฟันธงเลยเเล้วกัน เป็นไปไม่ได้เเน่ๆ ว่า ถ้ากฎหมายลูกถูกตีตก จะถูกตีตกในระยะเวลา 8 เดือน ดูได้จากกรธ.ใช้เวลาเต็มเหยียดมาทุกขั้นตอนและอย่าลืมว่า ไม่ใช่เเค่พรรคการเมืองเท่านั้น ที่ออกมาตะโกนโหวกเหวก โวยวาย เรื่องยาเเรงในร่างกฎหมาย ก่อนหน้านี้ กกต.สมชัย โพสต์เฟซบุกกระจายใส่ไม่เลี้ยง ตอกหน้าประธาน กรธ.ชนิดผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ เรื่องจะโละทิ้งกกต.จังหวัด ยัดไส้กรรมการสอดเเนมเลือกตั้งมาทำหน้าที่เเทน รวมไปถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการกำหนด คุณสมบัติกรรมการในองค์กรอิสระ ที่ กรธ.กำหนดสเปกเอาไว้ มันอาจมีผลทำให้กกต.บางรายตกเก้าอี้ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดเพิ่ม กกต.จาก 5 เป็น 7 คน
ขนาดเเค่ กกต.สมชัย ยังชิงหน้าสื่อ หลอกด่า ถอนหงอก ซื้อแป๋ เสียรังวัดมาเเล้ว ไม่อยากจะคิดถึงองค์กรอิสระอื่นๆ ที่ว่ากันว่า เป็นเสาหลักค้ำยันบ้านเมืองมายาวนาน ถ้ากลุ่มดังกล่าวมีความเห็นเเย้งต่อกติกาใหม่ จะเกิดเเรงกระเพื่อมเเค่ไหน
เเม้ในราย "มีชัย" ยังใจดีสู้เสือ ไว้ลาย ยืนยันจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกองค์กรอิสระ เมื่อถึงคิวใคร จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับกฎหมาย กกต.โดยไม่เลือกปฏิบัติ คุณสมบัติกรรมการอิสระทุกองค์กร จะต้องเป็นไปตามของใหม่กำหนด ส่วนใครไม่ตรงเสปก ก็ช่วยไม่ได้
**ท้ายที่สุดไม่มีอะไรง่ายดายภายใต้ดวงอาทิตย์ประเทศไทย นับนิ้วรออีกอึดใจ ได้เห็นสัญญานชัดเจน ทำให้ต้องเลื่อนโรดเเมป หรือไม่ !
เหมือนเพิ่งได้เห็น กกต."สมชัย ศรีสุทธิยากร" โชว์โยนกล่องหีบเลือกตั้งเเตกขายขี้หน้าสื่อมาหยกๆ
ทุกเรื่องผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลาไม่คอยใครโดยเฉพาะฉากการเมืองที่เริ่มร้อนผ่าว ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่กระบวนการ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจำนวน 4 ฉบับ จังหวะขยับของฝ่ายการเมือง จึงเริ่มออกโรงออกเเขก เพราะกฏหมาย 4 ฉบับดังกล่าวที่กำลังเริ่มกระบวนการนั้น ประกอบไปด้วยของเเสลงสำหรับฝ่ายการเมืองเต็มไปหมด ซึ่งจะเป็นกติกาไฟต์บังคับในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป
ไม่ว่าเรื่องยาเเรงโทษประหารชีวิต หรือตัดสิทธิ์คนโกงเลือกตั้งตลอดชีวิต
จนซือแป๋มั่นใจในฉบับปราบโกงล้ำหน้าอนาคต แก้ปัญหาจากประสบการณ์ไทยในอดีตที่ชาวโลกไม่เคยประสบพบเจอ ถึงขนาดเเน่ใจว่า ต้นตำรับประชาธิปไตยโลกอย่างอเมริกัน จะมาลอกเลียนเเบบรัฐธรรมนูญฉบับวิเศษนี้
จะโดนของเเรงมากำกับขนาดนี้ มีหรือเเรงต้านจะไม่เร่งเร้ารัวกลองศึกดังถี่ทุกขณะ จากอาการของสองพรรคใหญ่ เริ่มจากพรรคเพื่อไทยไล่บี้ผู้มีอำนาจอย่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ปลดล็อกชนักคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวมาตลอดสัปดาห์
นัยยะคือขอปล่อยผี เปลื้องพันธนาการเตรียมเเต่งองค์ทรงเครื่องรับศึกเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ในรัฐธรรมนูญฉบับข้นคลั่กของ "ซือแป๋" มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)
โยนข้อครหา ว่าเนื้อหาในร่างไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่อื้อ สลับหน้ากันมาเเขวะรายวันเเบบไม่เกรงใจ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โดยขอร้องอย่าเตะถ่วง ดึงเกมกฏหมายลูก หรือทำตามออร์เดอร์ จนกระทบโรดเเมปเลือกตั้งจากเดิมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ประกาศไว้
ส่วนประชาธิปัตย์ ส่งตัวจี๊ดอย่าง "วัชระ เพชรทอง" ออกมาช่วยขย่ม รายนี้ด่าไม่เลี้ยง ไล่เรียงยัดข้อหา "ซือแป๋กรธ." ว่าเป็นหนังหน้าไฟ รับใบโพยร่างรัฐธรรมนูญตามธงผู้มีอำนาจ เนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย แถมจะเป็นระเบิดเวลาถล่มป่าช้าเเตก ปลุกผีการเมืองออกมาป่วนสถานการณ์ในอนาตให้ลุกเป็นไฟ หากไม่หยุดการกระทำรังเเต่จะเสียการใหญ่ สุดท้ายที่พยายามเนรมิตรเสียดิบดี จะกลายเป็นเศษกระดาษใช้พับถุงกล้วยเเขกขายตามสี่แยก โดยเรื่องกฎหมายลูกถ้าไม่จงใจหมกเม็ด ควรเปิดเผยให้รับรู้ หรือว่าต้องรอส่งให้ทหารเซ็นเซอร์ก่อน หือ !
สองพรรคใหญ่ทำงานเป็นทีมเหมือน"นกรู้" กำลังถูกตีกรอบด้วยยาเเรง จึงออกมาจี้ทั้งเรื่องเวลา และเนื้อหาสาระที่เป็นกติกาใหม่ กำหนดทิศทางจะเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ ออกหัว หรือก้อย
ทั้งนี้ เมื่อส่องปฏิทินตามกำหนดการในรัฐธรรมนูญ จะมีเลือกตั้งเริ่มเมื่อไหร่ ต้องดูจากเเนวทางจัดทำร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับสำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยอธิบายด้วยภาษาของซือแป๋ มาประกอบการคาดการณ์
โดยจากนี้ กรธ.จะเเบ่งการทำงานเป็น 2ขยัก โดยขยักเเรกจะทำกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายลูกว่าด้วย กกต. ล่าสุดกรธ.ยืนยัน พอร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะส่งขยักเเรกให้ สนช.ทันที
ส่วนขยักที่ 2 จะทำร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
ทั้ง 2 ขยัก กรธ.ในฐานะผู้ยกร่างหลัก ต้องส่งให้สนช.รับไม้ต่อ โดยตั้งกมธ.วิสามัญมาพิจารณา
ล่าสุด ฟากรองประธานสนช. "พีระศักดิ์ พอจิต" เเพลมไต๋สัดส่วน กมธ.วิสามัญกฎหมายลูกเเต่ละฉบับจะประกอบด้วย 25-30 คน จะมีตัวเเทน กรธ. สนช. ครม.และ สปท.เข้าร่วม
เเว่วว่า จะส่งทีมเเต่ละชุดเก็บตัวต่างจังหวัดสามวันสามคืนเเบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน เพื่อทำสมาธิเต็มที่ ยืนยันชั้นนี้ไม่มีเล่นเกมเอื่อยเฉื่อย ทุกอย่างเดินตามโรดเเมป หรืออาจเสร็จทันก่อนกำหนดเวลา
เเต่ทว่า ตามมาตรา 267 ของรัฐธรรมนูญฉบับผ่นประชามติ กรอบเวลาการผ่านกฎหมายสำคัญ 4 ฉบับ สนช.ในฐานะผู้รับไม้ต่อ มีเส้นตายขีดไว้ให้ทำกฎหมายลูก 60 วัน แต่ละฉบับพอทำเสร็จ จะต้องเเช่น้ำรอละลายความคิดเห็นจากขั้วอำนาจที่เกี่ยวข้องกับร่างกติกาอีก 10 วัน เช่น องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นเเย้งหรือไม่ ถ้ายังมีข้องใจในเเต่ละฉบับ ต้องตั้งกมธ.ร่วม มาร่วมกันมะรุมมะตุ้มอีก 15 วัน รวมเเล้ว ถ้าใช้เวลาเต็มเหยียดจะเป็น 85 วัน
เช่นกันกับกฎหมายลูกขยักที่ 2 ถ้ามีขั้วอำนาจที่เกี่ยวข้องไม่พออกพอใจอีกละก็ การร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับสำคัญ จะกินเวลารวมทั้งสิ้น 170 วัน
จากนั้น มาตรา 268 กำหนดให้จัดการเลือกตั้งให้เเล้วเสร็จ 150 วัน นับจากกฎหมาย 4 ฉบับสำคัญแล้วเสร็จ
สนามเลือกตั้งครั้งต่อไป จะคิกออฟเลือกตั้งจนจะเเล้วเสร็จในเวลาอีก 320 วัน หรือประมาณ 11 เดือน นับจากวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้
เเต่มีปัจจัยน่าห่วงที่อาจทำให้โรดเเมปเคลื่อนจากนี้ คือหาก สนช.มีมติ 2ใน 3 ตีตกร่างกฎหมายลูกของกมธ.ร่วม ตามมาตรา 267 ทำให้จะต้องเริ่มกระบวนการร่างกฎหมายลูกใหม่ทั้งหมด
โดยหากยังอยู่ในระยะเวลา 8 เดือน "ซือแป๋" เคยบอกว่า จะรับหน้าเสื่อเริ่มกระบวนการใหม่เอง แต่หากพ้นเเปดเดือนราตรีกาลตามปฏิทินจันทรคติเเล้วละก็ ตัวใครตัวมัน รัฐบาลต้องเอาไปร่างใหม่เอง
หมายความว่า ถ้าเกิดติดล็อกในกระบวนการร่างกฎหมายลูก โดยสนช. - กรธ. หรือ กมธ. วิสามัญร่วมร่างกฎหมายลูกยังตกลงกันไม่ได้ คัดง้าง ล้ำเล้น ลำหน้าออฟไซด์กันเอง จนกฎหมายลูกถูกทำเเท้ง ไฟต์บังคับจะตกสู่มือรัฐบาล ถ้าเป็นตามนั้นจริงละก็ ไม่อยากคิด หรือจินตนาการ ว่าโรดเเมปจะเลื่อน หรือขยับขยายไปเท่าไหร่
เเต่ฟันธงเลยเเล้วกัน เป็นไปไม่ได้เเน่ๆ ว่า ถ้ากฎหมายลูกถูกตีตก จะถูกตีตกในระยะเวลา 8 เดือน ดูได้จากกรธ.ใช้เวลาเต็มเหยียดมาทุกขั้นตอนและอย่าลืมว่า ไม่ใช่เเค่พรรคการเมืองเท่านั้น ที่ออกมาตะโกนโหวกเหวก โวยวาย เรื่องยาเเรงในร่างกฎหมาย ก่อนหน้านี้ กกต.สมชัย โพสต์เฟซบุกกระจายใส่ไม่เลี้ยง ตอกหน้าประธาน กรธ.ชนิดผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ เรื่องจะโละทิ้งกกต.จังหวัด ยัดไส้กรรมการสอดเเนมเลือกตั้งมาทำหน้าที่เเทน รวมไปถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการกำหนด คุณสมบัติกรรมการในองค์กรอิสระ ที่ กรธ.กำหนดสเปกเอาไว้ มันอาจมีผลทำให้กกต.บางรายตกเก้าอี้ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดเพิ่ม กกต.จาก 5 เป็น 7 คน
ขนาดเเค่ กกต.สมชัย ยังชิงหน้าสื่อ หลอกด่า ถอนหงอก ซื้อแป๋ เสียรังวัดมาเเล้ว ไม่อยากจะคิดถึงองค์กรอิสระอื่นๆ ที่ว่ากันว่า เป็นเสาหลักค้ำยันบ้านเมืองมายาวนาน ถ้ากลุ่มดังกล่าวมีความเห็นเเย้งต่อกติกาใหม่ จะเกิดเเรงกระเพื่อมเเค่ไหน
เเม้ในราย "มีชัย" ยังใจดีสู้เสือ ไว้ลาย ยืนยันจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกองค์กรอิสระ เมื่อถึงคิวใคร จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับกฎหมาย กกต.โดยไม่เลือกปฏิบัติ คุณสมบัติกรรมการอิสระทุกองค์กร จะต้องเป็นไปตามของใหม่กำหนด ส่วนใครไม่ตรงเสปก ก็ช่วยไม่ได้
**ท้ายที่สุดไม่มีอะไรง่ายดายภายใต้ดวงอาทิตย์ประเทศไทย นับนิ้วรออีกอึดใจ ได้เห็นสัญญานชัดเจน ทำให้ต้องเลื่อนโรดเเมป หรือไม่ !