ค่าเงินเยนทำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากความกังวลว่าอังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จำต้องลดการจับจ่ายซื้อสินค้าในญี่ปุ่น
ค่าเงินเยนเริ่มแข็งขึ้นตั้งแต่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และยิ่งไต่เพดานขึ้นไปอีกจากความกังวลต่อการลงประชามติของอังกฤษ ว่า จะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่ใน 23 มิถุนายนนี้
บรรดานักลงทุนกำลังกว้านซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งมองกันว่าค่อนข้างปลอดภัย จากความห่วงกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของอังกฤษ ว่า จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้ค่าเงินเยนต่อเงินยูโร และปอนด์สเตอริง ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ค่าเงินเยนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์เช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักพนันทั้งถูกกฎหมายและใต้ดิน ต่างระบุว่า การลงประชามติชี้ชะตาของอังกฤษสูสีจนเกินจะชี้ขาดได้ และบางสำนักถึงกับให้แต้มต่อการ “ถอนตัว” จากสหภาพยุโรปนำอยู่ราว 10 จุด
หุ้นตก นักลงทุนญี่ปุ่นกุมขมับ
ดัชนีนิกเคอิที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวร่วงลงกว่า 500 เยน ในการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน โดยปิดการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 13 ที่ 16,019 จุด ลดลง 582 จุดจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน
ผู้คนในตลาดระบุว่า กังวลขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก พร้อมเสริมว่า เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดานักลงทุนมีเหตุผลมากขึ้นที่จะขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
ขณะที่ ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของบริษัทญี่ปุ่นต่อเศรษฐกิจก็ลงลงอย่างมาก โดยนักธุรกิจส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ลง
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นได้สำรวจบริษัทราว 16,000 แห่ง ที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 10,000,000 เยน หรือประมาณ 3,300,000 บาท และตัเลขความมั่นใจของบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ในทุกอุตสาหกรรมอยู่ที่ลบ 7.9
บริษัทญี่ปุ่นระบุว่า สูญเสียความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าและการระงับการผลิตชั่วคราวจากเหตุแผ่นดินไหว รวมทั้งผลกระทบของนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวหยุด “ซื้อแหลก”
ค่าเงินเยนที่แพงขึ้นอย่างมากยังส่งผลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคย “ซื้อระเบิดระเบ้อ” และช่วยให้ร้านค้าของญี่ปุ่นคึกคักขึ้นอย่างมาก
ผลการสำรวจของร้านสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง ไดมารุ พบว่า ยอดซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยวในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ลดลงอย่างชัดเจน เนื่องค่าเงินเยนที่แพงขึ้นทำให้ต้อง “คิดหน้าคิดหลัง” ก่อนซื้อสินค้า ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ ทางห้างจะพบปัญหาใหญ่ เพราะยอดขายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึงร้อยละ 40 ของยอดขายรวม