การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกของกรุงโตเกียวเผชิญข้อครหาหนัก เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นถูกพบว่าจ่ายเงิน 2ล้านดอลลาห์ที่อาจเป็น “สินบน” เพื่อให้กรุงโตเกียวได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2020
คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของญี่ปุ่นเก้าอี้ร้อนทันที เมื่อหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เปิดเผยว่า ผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่นได้โอนเงินราว 2ล้านดอลลาห์เข้าบัญชีในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเกี่ยวพันกับบริษัทที่มีคดีคอร์รับชั่นในวงการกีฬา และกำลังถูกอัยการฝรั่งเศสสอบสวนอยู่ในขณะนี้
นายสึเนะกะซุ ทะเกะดะ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกญี่ปุ่น ระบุว่าผ่านแถลงการณ์ ยอมรับว่าได้จ่ายเงิน 2 ล้านดอลลาร์ที่กำลังเป็นข้อสงสัยจริง โดยระบุว่าเงินจำนวนนี้เป็นค่าที่ปรึกษา ไม่ใช่สินบน หากแต่การที่รัฐบาลญี่ปุ่นติดต่อกับบริษัทที่ถูกมองว่าเป็น “นายหน้าค้าความโกง” ในวงการกีฬา เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายให้สาธารณชนยอมรับได้
เส้นทาง “เงินถุงขนม” 2ล้านจากญี่ปุ่นถึงมาเฟียวงการกีฬา
รัฐบาลญี่ปุ่นได้โอนเงินประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 70 ล้านบาท จากบัญชีธนาคารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ไปยังบัญชีของบริษัทที่ชื่อว่า Black Tidings ในสิงคโปร์เมื่อปี 2013 บริษัทแห่งนี้เกี่ยวโยงกับลูกชายของนายลามีน ดิอัก ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC เงิน 2ล้านนี้ถูกระบุว่าเป็น “การสมัครเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020”
Black Tidings เป็นบริษัทที่เกี่ยวพันกับการคอร์รับชั่นในวงการกีฬาอย่างอื้อฉาว โดยมีบุคคลสำคัญ 3 คน คือ นายลามีน ดิอัก อดีตคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และอดีตประธานสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ, นายปาปา มัสสาตา ดิอัก ลูกชาย และนายอิงตัน ตงฮาน นายหน้าชาวสิงคโปร์
ครอบครัวดิอัก คือเจ้าพ่อวงการกีฬา เพราะนายลามีน ดิอัก ได้ใช้อิทธิพลในการจัดการแข่งขันกรีฑาระดับสากลมานานกว่า 16ปี ขณะที่ลูกชายก็ตั้งบริษัทที่ปรึกษาและล็อบบี้งานต่างๆในวงการกีฬา บริษัท Black Tidings ของครอบครัวนี้กำลังถูกอัยการฝรั่งเศสสอบสวนคดีจ่ายสินบนเพื่อช่วยเหลือนักกีฬารัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่าใช้สารกระตุ้นในการแข่งขัน
นายลามีน ดิอัก ผู้เป็นพ่อถูกอัยการฝรั่งเศสสอบสวนคดีคอร์รับชั่น และถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ ขณะที่ลูกชายหนีรอดเงื้อมมือกฎหมายฝรั่งเศส เพราะอาศัยอยู่ที่ประเทศเซเนกัล แต่ฝรั่งเศสได้ประสานกับตำรวจสากลและออกหมายจับคดีอาญาแล้ว
ด้านนายอิงตัน ตงฮาน นายหน้าชาวสิงคโปร์ เป็นคนบริหารเงิน หรือก็คือ “ฟอกเงิน” ให้กับครอบครัวดิอัก ความสนิทสนมของทั้งคู่เห็นได้จากนายตงฮานตั้งชื่อลูกชายของตัวเองว่า “มัสสาตา” ซึ่งเป็นชื่อของนายปาปา มัสสาตา ดิอัก นั่นเอง
ขายเสียงแลกโหวตหนุนเมืองเจ้าภาพโอลิมปิก
นายลามีน ดิอัก ได้ลาออกจากคณะกรรมการ IOC เพื่อหนีเรื่องอื้อฉาวในปี 2014 แต่อิทธิพลของเขายังคงปกคลุมวงการ ทั้งเรื่องการจ่ายสินบนเพื่อช่วยเหลือนักกีฬาที่ถูกลงโทษ หรือวิ่งเต้นงานต่างๆในวงการกีฬา โดยผ่านบริษัท Black Tidings ของลูกชาย
อัยการฝรั่งเศส ระบุในเอกสารคดีคอร์รับชั่นของนายดิอักว่า “เขาเตรียมจะขายเสียงโหวตในคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเป็นเงิน 5ล้านดอลลาห์ โดยรัฐบาลตุรกีปฏิเสธที่จะจ่ายเงินนี้ แต่ญี่ปุ่นยอมจ่าย”
สินบนโอลิมปิก ไม่ใช่ครั้งแรก
เงินจากบริษัท Black Tidings ในสิงคโปร์ถูกนำไปซื้อเพชรที่กรุงปารีสมูลค่ากว่า 150,000 ยูโร ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่อัยการฝรั่งเศสเชื่อว่า นี่คือการฟอกเงินคอร์รับชั่นในวงการกีฬาของครอบครัวดิอัก
เรื่องอื้อฉาวของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกกับญี่ปุ่นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในปี 1998 ที่เมืองนากาโนชนะการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว รัฐบาลเมืองนากาโนได้ใช้เงินหลายล้านดอลลาห์เลี้ยงดูปูเสื่อเจ้าหน้าที่ IOC แต่พอมีการสืบสวน รัฐบาลเมืองนากาโนก็ได้เผาเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทิ้ง และเจ้าหน้าที่ IOC 10 คนถูกไล่ออกหรือลาออกไป ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไปกับกาลเวลา
รัฐบาลญี่ปุ่นหมายมั่นปั้นมือว่า โตเกียว โอลิมปิก จะเป็นมหกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกอบกู้ศักดิ์ศรีของของญี่ปุ่น หากแต่เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น งบประมาณก่อสร้างสนามกีฬาที่สูงลิบลิ่ว ,โลโก้การแข่งขันถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบ จนถึงกรณี “สินบน” ล่าสุด
ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากตั้งคำถามว่า โอลิมปิกเป็นประโยชน์สำหรับชาวญี่ปุ่นจริงหรือ? หรือว่าเป็นเพียงอภิมหาโครงการเพื่อ “ทำมาหากิน” ของอดีตผู้มีอำนาจบางคน?
