โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะคือปัญหาใหญ่ที่สุด ที่ตกค้างมาจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่นเมื่อ 5 ปีก่อน หากแต่การปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้อาจต้องใช้เวลานานกว่า 40 ปี
สถานีโทรทัศน์ NHK นำเสนอรายงานพิเศษในโอกาสครบรอบ 5 ปีเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น โดยผู้สื่อข่าวที่ได้ไปเยือนโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์แห่งนี้เพื่อดูสถานการณ์จากพื้นที่เองโดยตรง ตั้งข้อสังเกตว่าการปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้อาจต้องใช้เวลานานกว่า 40 ปี
ผู้สื่อข่าว NHK กล่าวว่าเขาสามารถเดินรอบ ๆ โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์แห่งนี้ได้โดยไม่ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันเลยเป็นครั้งแรก และรู้สึกว่ามีความคืบหน้าในการพยายามลดปริมาณกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ โดยมีการปูพื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งขึ้นมา ทว่ามาตรการดังกล่าวนั้นจำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ห่างไกลตัวอาคารที่เป็นที่ตั้งเตาปฏิกรณ์ ถ้าเข้าใกล้ตัวอาคารจะพบว่าปริมาณกัมมันตภาพรังสีจะเพิ่มมากขึ้น และจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์และหน้ากากป้องกัน
แผนการณ์ที่ร่างขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่นกับบริษัทพลังไฟฟ้าโตเกียว หรือ เทปโก้ ระบุว่าจะยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายจนถึงปี 2564 ขณะนี้บรรดาวิศวกรเพียงแต่พยายามระบุตำแหน่งของแท่งเชื้อเพลิงแล้วคิดหามาตรการนำแท่งเชื้อเพลิงออกมา ทว่าสถานการณ์นั้นคาดเดาอะไรไม่ได้ เนื่องจากเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นเรื่องแล้วเรื่องเล่า
เมื่อปีที่แล้ว เทปโก้คิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อสำรวจภายในอุปกรณ์ครอบเตาปฏิกรณ์ของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 บรรดาวิศวกรวางแผนส่งตัวหุ่นยนต์นี้เข้าไปผ่านท่อที่ทะลุทะลวงผ่านอุปกรณ์ครอบเตาปฏิกรณ์ ทว่าต่อมาไม่นาน บรรดาวิศวกรก็พบกับแผ่นกั้นกัมมันตภาพรังสีอยู่ที่ด้านหน้าท่อ พวกเขาก็พยายามย้ายแผ่นกั้นนี้ออกไปโดยใช้หุ่นยนต์อีกตัว แต่ก็ไม่สามารถทำได้
พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนจึงคิดหาวิธีการใหม่และนำแผ่นกั้นนี้ออกไปได้ในที่สุด แต่ก็พบว่าระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่นั้นสูงเกินกว่าจะดำเนินการอะไรได้ สุดท้ายแล้ว เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เทปโก้ประกาศเลื่อนการสำรวจนี้ออกไป
ผู้สื่อข่าวชี้ว่า แผนการที่จะเสร็จสิ้นงานปลดระวางโรงไฟฟ้านี้ให้ได้ภายใน 40 ปีนั้นขาดข้อมูลที่หนักแน่น เพราะงานนั้นจะเสร็จได้ก็ต่อเมื่อมีการรื้ออาคารและมีการกำจัดกากกัมมันตรังสีออกไป
ทว่าความเป็นจริงก็คือกากกัมมันตรังสีนั้นกำลังเพิ่มขึ้นหลายพันตันต่อเดือน รัฐบาลกับเทปโก้กล่าวว่าจะเริ่มขนย้ายแท่งเชื้อเพลิงหลอมละลายออกไปในเวลา 5 ปีและดำเนินการให้กระบวนการปลดระวางทั้งหมดเสร็จสิ้น รวมถึงการกำจัดกากกัมมันตรังสีในขั้นสุดท้ายภายใน 35 ปี แต่แผนการนั้นดูเหมือนจะเป็นจริงไม่ได้เลย
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด เทปโก้จำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัยมาก่อน และนำเสนอแผนการปลดระวางโรงไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะงานปลดระวางยังดำเนินไปไม่ถึงขั้นตอนที่ยากที่สุดด้วยซ้ำ.
