รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามนำเสนอโครงการรถไฟพลังแม่เหล็ก หรือ maglev ให้กับสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับสหรัฐฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายเคอิชิ อิชิอิ รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น และนายแอนโทนี ฟ็อกซ์ รัฐมนตรีคมนาคมของสหรัฐฯ ทดลองนั่งรถไฟที่ใช้เทคโนโลยีการเคลื่อนที่ด้วยแรงยกจากแม่เหล็กหรือ maglev ในในจังหวัดยะมะนะชิ ทางภาคกลางของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
รัฐบาลญี่ปุ่นหวังจะได้รับสิทธิ์ในโครงการสร้างเส้นทางรถไฟ maglev ความยาว 60 กิโลเมตรเชื่อมระหว่างกรุงวอชิงตัน ดีซี กับเมืองบัลติมอร์ในรัฐแมรีแลนด์
เทคโนโลยีรถไฟ maglev ถือเป็นรถไฟที่สามารถทำความเร็วสูงสุดกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร็วยิ่งกว่ารถไฟความเร็วสูงชินคันเซน เนื่องจากตัวรถสามารถยกตัวเหนือรางได้ขณะแล่น หากแต่รถไฟ maglev มีต้นทุนที่สูงมาก โดยทุกวันนี้มีรถไฟ maglev เพียง 2 สายที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ คือ ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และที่สนามบินอินชอน ของเกาหลีใต้ โดยญี่ปุ่นอยู่ในช่วงทดลองเทคโนโลยี maglev เพื่อใช้ในโครงการเส้นทางรถไฟเชื่อมกรุงโตเกียว-เมืองนาโกยา และนครโอซากา ด้วยความเร็ว 505 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามให้สหรัฐใช้รถไฟ maglev ของญี่ปุ่นด้วยการเสนอที่จะมอบเทคโนโลยีนี้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ซึ่งจะถือเป็นการ “แก้มือ” หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้ให้กับประเทศจีนในโครงการก่อร้างรถไฟความเร็วสูงของอินโดนีเซีย.