รัฐบาลญี่ปุ่นจะผลักดันให้ถ่ายทอดระบบการศึกษาแบบญี่ปุ่นให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยจะสร้างโรงเรียนแบบญี่ปุ่น และสนับสนุนการปลูกฝังวินัยสำหรับเด็กนักเรียน
กระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น เปิดเผยว่ามีแผนจะส่งเสริมระบบการศึกษาแบบญี่ปุ่นให้กับกลุ่มประเทศในเอเชีย, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยจะช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงเรียนต่างๆไปบุกเบิกตลาดในต่างประเทศ รวมทั้งให้เงินงบประมาณสนับสนุนในปี 2016
ระบบการศึกษาแบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะในชั้นประถมและมัธยม ถูกยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าสามารถสร้างนักเรียนที่มีระเบียบวินัย และความสามารถทางวิชาการในระดับสูง นักเรียนของญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ต้องสวมเครื่องแบบนักเรียน แต่ยังมีหน้าที่รับผิดชอบงานในโรงเรียนด้วย เช่น ตักอาหารกลางวันให้เพื่อน และทำความสะอาดห้องเรียน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมายตลอดทั้งปี เช่น การแข่งขันกีฬา, การซ้อมรับมือภัยพิบัติ และการประชุมผู้ปกครอง เป็นต้น
รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดการประชุมภายใต้แนวคิด “รัฐ-เอกชนร่วมมือส่งออกการศึกษาแบบญี่ปุ่น” โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการโรงเรียน, กลุ่ม NGO, รัฐบาลท้องถิ่น, กลุ่มธุรกิจด้านการศึกษา รวมทั้งสถานทูตต่างชาติเข้าร่วมประชุม
การประชุมดังกล่าวจะกำหนดประเทศเป้าหมายที่จะส่งออกการศึกษาแบบญี่ปุ่น จากนั้นจะหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนบุคลากร รวมทั้งมาตรการสนับสนุนต่างๆ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตั้งเป้าจะสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนแบบญี่ปุ่นในประเทศพม่า, อินเดีย, อียิปต์ และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ
นอกจากระบบการศึกษาภาคสามัญแล้ว โรงเรียนวิชาชีพแบบญี่ปุ่นก็ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างช่างฝีมือ ที่ช่วยให้ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วภายหลังสงครามโลก โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนการจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคตุรกี จนกลายเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับมาแล้ว
ความพยายามส่งออกการศึกษาของญี่ปุ่น ถูกจับตาว่าเป็นการเสริมสร้าง “อำนาจละมุน” หรือ Soft power เพื่อคานกับอิทธิพลของจีนที่ส่งเสริมการศึกษาภาษาจีนอย่างแพร่หลายทั่วโลกผ่าน “สถาบันขงจื่อ” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า สถาบันขงจื่อของจีนฝังตัวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการศึกษาต่างๆ ด้วยงบประมาณสนับสนุนมหาศาลจากรัฐบาลจีน จึงมีอิทธิพลที่กว้างขวางยิ่งกว่าสถาบันอย่างบริติสเคาท์ซิลของอังกฤษ, เกอเธ่ของเยอรมัน หรือ อะลิยง ฟรองเซ่ส์ ของฝรั่งเศส.
