กฎหมายความมั่นคง จุดตายรัฐบาลอะเบะ?

สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นลงมติผ่านร่างกฎหมายความมั่นคง ซึ่งจะเปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองแห่งญี่ปุ่นมีบทบาทในเชิงรุกได้ จนถูกวิจารณ์ว่าเป็น “กฎหมายสงคราม” โดยกฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านรุนแรงที่สุด จนอาจเป็นจุดตายของรัฐบาลนายกฯชินโสะ อะเบะ

สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นประชุมแบบเต็มคณะในวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม เพื่อลงมติรับรองกฎหมายความมั่นคงของญี่ปุ่น โดยพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมโต ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างท่วมท้น ท่ามกลางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านเดินออกจากห้องประชุมเพื่อประท้วง

นายคะสึยะ โอะกะดะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ได้วิจารณ์พรรครัฐบาลที่ผลักดันชุดร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจนผ่านสภา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของสาธารณชนและนักวิชาการจำนวนมากที่เห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น ที่จำกัดสิทธิ์ของทหารญี่ปุ่นไว้เพียงแต่การป้องกันดินแดนของตัวเองเท่านั้น แต่ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้จะเปิดทางให้ญี่ปุ่นส่งทหารไปร่วมรบกับชาติพันธมิตรในต่างแดนได้ รวมทั้งปฏิบัติภารกิจทางทหารนอกเหนือความร่วมมือกับกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติได้ด้วย

อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านแทบจะไม่สามารถยับยั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ เพราะพรรครัฐบาลมีจำนวน สส.มากถึง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎร

หลังจากนี้ ร่างกฎหมายความมั่นคงจะได้รับการส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งการอภิปรายจะร้อนแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากวุฒิสมาชิกไม่ลงมติร่างกฎหมายนี้ภายใน 60 วัน ร่างกฎหมายนี้ก็จะถูกส่งกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎร และพรรครัฐบาลสามารถลงมติอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เสียง 2 ใน 3 เพื่อผ่านชุดร่างกฎหมายนี้ออกเป็นกฎหมายได้ทันที

การผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงทำให้ได้เห็นการประท้วงอย่างวุ่นวายภายในรัฐสภา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในญี่ปุ่น ขณะเดียวกันที่ด้านนอกรัฐสภา รวมทั้งในเมืองสำคัญหลายแห่งก็มีประชาชนหลายหมื่นคนรวมตัวประท้วงเช่นเดียวกัน

ผู้ประท้วงร่วมชุมนุมท่ามกลางสายฝนโปรยปราย และตะโกนว่า “ไม่เอาสงคราม” และเมื่อทราบข่าวว่าร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติผ่านสภา หลายคนแสดงความผิดหวัง

บรรดาผู้ประท้วงไม่ได้มีเฉพาะประชาชนที่ไม่ต้องการสงคราม แต่ยังรวมทั้งศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและการเมืองจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง, ศิลปินในแวดวงต่างๆ, องค์กรด้านศาสนา และยังรวมถึงประธานสภาทนายความแห่งโตเกียวทั้งในอดีตและปัจจุบันทั้งหมด 23 คน ก็ได้ลงนามในแถลงการณ์เรียกร้องให้ยับยั้งกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าการประท้วงจะเป็นไปด้วยความสงบ หากแต่ได้พิสูจน์ว่ากระแสต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ได้ขยายตัวไปทั่วแดนอาทิตย์อุทัย

นายกฯชินโสะ อะเบะ หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ภายในปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่การประชุมรัฐสภาสมัยปัจจุบันสิ้นสุดลง โดยผู้นำญี่ปุ่นพูดชัดเจนว่า “กฎหมายความมั่นคงมุ่งหมายที่จะรับมือกับภัยคุกคามรอบประเทศ” ซึ่งหมายถึง ประเทศจีน

ทันทีที่ร่างกฎหมายความมั่นคงถูกผลักดันจนผ่านสภาผู้แทนฯญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศจีนแสดงความวิตกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น

นางหัว ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในแถลงการณ์ว่า การที่ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในญี่ปุ่นยุคหลังสงคราม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก่อให้เกิดความเคลือบแคลงว่า ญี่ปุ่นอาจละทิ้งนโยบายที่มุ่งเน้นเฉพาะการป้องกันตนเอง และหันเหจากแนวทางการพัฒนาโดยใฝ่สันติที่ยึดถือมาหลายสิบปี.

ชมคลิปภาพความวุ่นวายในรัฐสภาญี่ปุ่น เมื่อรัฐบาลพยายามผลักดันร่างกฎหมายความมั่นคง