สมาคมอิสลามในญี่ปุ่นไม่พอใจ ธนาคารไม่ยอมทำธุรกรรมด้วย

ธนาคารท้องถิ่นในจังหวัดชิสุโอกะในญี่ปุ่น ปฏิเสธที่จะเปิดบัญชีรับฝากเงินให้กับกลุ่มมิตรภาพอิสลาม-ญี่ปุ่น โดยอ้างว่ากลัวจะเกี่ยวพันกับการก่อการร้าย

ธนาคารนูมาสุ ชินคิน ธนาคารท้องถิ่นในจังหวัดชิสุโอกะ ปฏิเสธคำขอของนายริคิจิโร ไซโค ลูกค้าวัย 66 ปีที่ต้องการเปิดบัญชีในนาม “สมาคมมิตรภาพอิสลาม-ญี่ปุ่น” โดยทางธนาคารอ้างว่า ไม่สามารถทำธุรกรรมกับกลุ่มอิสลามที่ไม่มีประวัติที่มาที่ชัดเจนได้

นายไซโต ซึ่งทำงานให้กับธนาคารอารบิก สาขาประเทศญี่ปุ่น และสอนภาษาอารบิกในมหาวิทยาลัย ระบุว่า การปฏิเสธให้บริการของธนาคารจังหวัดชิสุโอกะ แสดงถึงการหวาดกลัวศาสนาอิสลามอย่างไม่มีเหตุผล และถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมด้วย

นายไซโต เป็นชาวญี่ปุ่นที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไคโร ประเทศอียิปต์ ใช้เวลานับสิบปีที่ผ่านมาให้ความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเขาได้จัดตั้ง “สมาคมมิตรภาพอิสลาม-ญี่ปุ่น” ขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้านลบของมุสลิมผ่านการสัมมนาและออกจดหมายข่าวผ่านอีเมล์

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของนายไซไต ที่ต้องการเปิดบัญชีธนาคารสำหรับสมาคมของเขาต้องหมดหวังลง เมื่อทางธนาคารปฏิเสธโดยยังอ้างอิงกรณีที่กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ได้สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 คนอย่างเหี้ยมโหด ทำให้กระแสหวาดกลัวอิสลามเพิ่มขึ้นอย่างมากในแดนอาทิตย์อุทัย

ผู้จัดการธนาคารนูมาสุ ชินคิน ระบุว่า ธนาคารจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอเปิดบัญชีเนื่องจากกังวลภาพลักษณ์ของธนาคารที่อาจถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง และสำนักงานใหญ่ของธนาคารก็ให้การสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ โดยระบุว่า กังวลถึงความเป็นไปได้ที่เงินจากกลุ่มสอนศาสนาอิสลามอาจถูกนำไปใช้สนับสนุนการก่อการร้าย

ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาอิสลามในญี่ปุ่น ระบุว่า การสังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่นของกลุ่มนักรบไอเอส ทำให้ความเข้าใจสาสนาอิสลามในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่เดิมมีอยู่น้อยอยู่แล้ว ตกต่ำยิ่งขึ้น และชาวมุสลิมในญี่ปุ่นจะพบกับความยากลำบากและการเลือกปฏิบัติมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีกลุ่มชาวมุสลิมเพียง 0.1% ของประชากรทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่อพยพมาอาศัยในญี่ปุ่น โดยชาวอินโดนีเซียมีจำนวนมากที่สุด รองลงมาคือ ชาวปากีสถาน, บังกลาเทศ, มาเลเซีย, อิหร่าน และตุรกี.