นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประกาศเดินหน้าปฏิรูปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ โดยเริ่มต้นจากเหตุตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 คนถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดโดยกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ซึ่งผู้นำญี่ปุ่นระบุว่าเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุที่เกิดขึ้น และเหตุครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความจำเป็นที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นต้องมีบทบาท ในการรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองชาวญี่ปุ่นทั้งในและต่างประเทศ
นายกฯอาเบะ ยังเน้นย้ำนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ, การปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม และการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน รวมทั้งการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และเรื่องความมั่นคง โดยประกาศว่า “การปฏิรูปครั้งนี้เป็นหนทางอันยากลำบาก หากแต่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก”
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น นายชินโซ อาบะ ใช้นโยบายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรัฐบาลญี่ปุ่นในอดีต โดยประกาศจะฟื้นฟูญี่ปุ่นให้กลับมายิ่งใหญ่ หลังจากเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยซบเซามานานกว่า 10 ปี อย่างไรก็ตาม นอกจากการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลจนทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กลับยังไม่มีมาตรการปฏิรูปที่ชัดเจน
หลังจากชนะการเลือกตั้งรอบที่ 3 นายอาเบะได้หารือกับสหกรณ์การเกษตรแห่งชาติญี่ปุ่น (JA-Zenchu) เพื่อลดการอุดหนุนภาคการเกษตร และจะเปลี่ยนสภาพสหกรณ์แห่งชาติให้เป็นเพียงสมาคมทั่วไปที่ต้องแข่งขันกับตลาดโลก นับเป็นการปฏิรูปภาคการเกษตรครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 60 ปี
ด้านนโยบายนิวเคลียร์ นายอาเบะระบุว่าจำเป็นที่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์หลังจากตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากขณะนี้ญี่ปุ่นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นมูลค่ามหาศาล หลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นถูกระงับการใช้งานนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และเกิดอุบัติภัยรังสีปรมาณูรั่วไหลที่โรงไฟฟ้าฟุกูชิมะ
ประเด็นที่ถูกจับตามากที่สุด คือ แถลงการณ์ในโอกาสครอบรอบ 70 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ ต่างคาดหวังให้ญี่ปุ่นแสดงความสำนึกผิดที่เคยรุกรานเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนายอาเบะกลับสร้างความเดือดดาลให้กับจีนและเกาหลีใต้ เมื่อเสนอร่างกฎหมายสู่รัฐสภา เพื่อเปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น สามารถมีบทบาทมากขึ้น เช่น การส่งทหารไปปฏิบัติการนอกประเทศ หรือ การร่วมปกป้องประเทศพันธมิตรจากการถูกโจมตี
นายกฯอาเบะ ยังเรียกร้องให้จัดทำประชามติเพื่อ “ตีความรัฐธรรมนูญใหม่” โดยอ้างอิงภารกิจในการช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ตกเป็นเหยื่อการก่อการร้าย รวมทั้งภัยคุกคามจากจีน ซึ่งกำลังมีกรณีพิพาทแย่งชิงเกาะในทะเลกับญี่ปุ่น
นายอาเบะ อ้างว่าอนุญาตญี่ปุ่นจำเป็นต้องขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับพันธมิตรโดยเฉพาะสหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจีนและเกาหลีใต้มองว่า นี่คือการปูทางสู่การฟื้นฟูกองทัพญี่ปุ่น.
