วัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่มีความพิเศษทั้งร่าง กายและจิตใจ เป็นวัยที่เชื่อว่าความสวย-ความหล่อเป็นสิ่งสำคัญสุด เพื่อสร้างจุดสนใจต่อเพศตรงข้าม จนบางครั้งละเลยสิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะก้าวเติบโตเป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะความสำคัญของอาหาร ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่มักห่วงเรื่องอ้วน หรือมุ่งมั่นไปเลือกกินอาหารเสริมแทน จนอาจสร้างอันตรายให้ร่างกายในเวลาต่อมา
นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้จัดการแผนงานโภชนาการเชิงรุก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แสดงความเป็นห่วงว่า ขณะนี้กระแสของวัยรุ่นทั้งชายและหญิงในปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างน่าเป็นห่วง เพราะต้องการมีรูปร่างผอมเพรียวเหมือนนางแบบตามกระแสแฟชั่น หรืออยากมีผิวขาวสวย ตาหวาน โดยการกินอาหารเสริมต่างๆ ทั้งชนิดเม็ด แคปซูล หรือชงดื่ม เช่น ผงบุก วิตามินต่างๆ ซึ่งราคาถูก หาซื้อได้ง่ายทางอินเทอร์เน็ต และตามห้างสรรพสินค้า
ส่วนใหญ่นิยมกินอาหารเสริมแทนอาหารหลัก เพราะอาหารประเภทนี้กินแล้วจะทำให้อิ่ม ไม่หิวง่าย ทำให้น้ำหนักลด บางรายอาจมีการโฆษณาเสริมวิตามินหรือสารอาหารอื่นๆ เข้าไปด้วย ทำให้หลงเชื่อว่ามีสารอาหารครบถ้วน แถมอาหารยังมีสรรพคุณป้องกันโรคมะเร็ง หรือสร้างภูมิต้านทานโรคด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
นักโภชนาการผู้นี้กล่าวต่อว่า วัยรุ่น วัยเรียน เป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต หากไปกินอาหารเสริมอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบางตัว ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ซึ่งจะส่งผลให้มีร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย เพราะมีภูมิต้านทานโรคต่ำ เซื่องซึม ไม่กระตือรือร้น เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง เพราะการกินอาหารเสริมนั้นไม่สามารถไปทดแทนอาหารหลัก เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยวได้วัยรุ่นเรียนรู้อาหารสุขภาพ สวยหล่อไม่ง้อวิตามินเสริม thaihealth
"วัยเรียนหากกินแต่อาหารเสริมแทนอาหารหลัก จะมีผลต่อเซลล์สมองเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามปกติ ไอคิวต่ำลง มีผลต่อการเรียนหนังสือและความจำด้วย การกินอาหารเสริมไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ไม่สามารถช่วยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีอาหารเสริมเม็ดใด ขวดใด แคปซูลใด ที่กินแล้วร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ คือมีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต อย่างครบถ้วน"
นายสง่ากล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนวัยรุ่นที่นิยมกินอาหารเสริมเพราะหลงเชื่อโฆษณาว่า ควรลดและเลิกกินอย่างเด็ดขาด ขอให้หันมากินอาหารหลักให้ครบทั้ง 5 หมู่ และเพิ่มการออกกำลังกาย กินผัก-ผลไม้สดให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ความต้องการที่จะมีหุ่นสวย ตาใส ร่างกายแข็งแรง สมส่วน มีสมองที่ปราดเปรียว พร้อมในการเรียนหนังสือ จะเกิดขึ้นได้ตามที่ต้องการ และยังไม่เสี่ยงเป็นโรคขาดสารอาหารอีกด้วย
ทางด้านข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นอกจากอาหาร 5 หมู่แล้ว หากวัยรุ่นต้องการดูแลร่างกายเป็นพิเศษ ก็สามารถเลือกรับประทานอาหารตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ได้ หากต้องการผิวใสก็ให้รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ ตำลึง มะม่วงสุก กล้วย มันเทศ วิตามินบี 6 ที่ช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุล และยังช่วยควบคุมการเกิดสิว รวมทั้งอาการเจ็บหน้าอกหรือหงุดหงิดก่อนมีประจำเดือนอีกด้วย พบมากในข้าวซ้อมมือ เนื้อ ตับ ไต อะโวคาโด เมล็ดทานตะวัน ปลาแซลมอน เป็นต้น
อาหารที่มีธาตุสังกะสีจะช่วยลดการเกิดสิว และทำให้การดูดซึมวิตามินเอจากอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ผิวพรรณจึงดูเนียนเรียบขึ้น พบมากในข้าวซ้อมมือ อาหารที่มีส่วนประกอบของยีสต์ เช่น ขนมปัง ข้าวหมาก อาหารทะเล เนื้อสัตว์
อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 จะทำให้ต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตน้ำมันได้น้อยลง จึงลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว พบมากในปลาทูน่า แซลมอน แมคเคอเรล ปลาทู เป็นต้น ที่สำคัญต้องกินอาหารที่มีกากใยสูง เพราะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น เช่น ผัก-ผลไม้สดทุกชนิด
วัยรุ่นเรียนรู้อาหารสุขภาพ สวยหล่อไม่ง้อวิตามินเสริม thaihealthอาหารของวัยรุ่นนักกีฬา เป็นเรื่องปกติที่ช่วงนี้ต้องการอาหารเพิ่มจากปกติเป็นพิเศษ เพราะต้องการพละกำลังความแข็งแกร่งมาก ซึ่งจะอยู่ในอาหารที่มีวิตามินบี 1 เช่น ข้าวโอ๊ต ตับ ไต เนื้อวัว หมู ไก่ ปลา ถั่วต่างๆ รำข้าว ยังช่วยในระบบการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงานอีกด้วย
อาหารที่มีวิตามินบี 2 เช่น ตับไก่ ถั่วเหลือง เห็ดฟาง ฟักทอง เนื้อวัว นมสด ไข่ไก่ วิตามินบี 2 จะช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานวิตามินบี 5 ที่อยู่ในถั่งลิสง เมล็ดงา วอลนัต อะโวคาโด แอพริคอตแห้ง แอปเปิล ช่วยให้สมรรถภาพร่างกายดีขึ้น ควรรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีวิตามินซี จะช่วยให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัวได้ดีขึ้น วัยรุ่นควรกินผัก-ผลไม้สดให้มาก เพราะอุดมด้วยเกลือแร่และวิตามิน อาหารที่มีแคลเซียมจะช่วยลดการเกิดตะคริว และทำให้กระดูกแข็งแรง
สำหรับวัยรุ่นที่เรียนหนักควรได้รับอาหารที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพความจำและบำรุงสมอง อาหารเหล่านั้น เช่น ไข่แดง มันฝรั่งต้ม ถั่นลันเตา ข้าวซ้อมมือ ที่มีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 12 เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เป็ด อาหารที่มีกรดโฟลิก เช่น ถั่วลิสง บร็อกโคลี กะหล่ำดอก ผักกาดหอม ผักปวยเล้ง อาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับไก่ ตับหมู เนื้อสัตว์ต่างๆ
รวมทั้งอาหารที่มีธาตุไอโอดีน เช่น อาหารทะเล อาหารที่มีธาตุแมงกานีส เช่น ถั่วเหลือง อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารที่มีธาตุซิลิคอน เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ธัญพืชไม่ขัดขาว พืชกินหัวต่างๆ อาหารที่มีธาตุสังกะสีและซีลีเนียม เช่น กระเทียม หอยนางรม หอยแมลงภู่ อาหารที่มีเบตาแคโรทีน เช่น แครอท ผักโขม มะม่วงสุก กล้วยไข่ บร็อกโคลี อาหารที่มีโคเอนไซม์คิว 10 เช่น ถั่วเหลือง มันฝรั่ง และผักโขม อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน
รู้ถึงประโยชน์ของอาหารแต่ละประเภทว่ามีความเหมาะสมกับตัวอย่างไร ก็เลือกรับประทานให้เหมาะสม ถูกต้อง และครบ 5 หมู่ รับรองว่าน้องๆ ทุกคนสามารถสวย หล่อ ฉลาด แข็งแรงได้ โดยไม่ต้องง้ออาหารเสริมใดๆ