เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 ดร.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ เปิดเผยว่า จากการที่สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณ พบว่า ในปัจจุบันยังมีการลักลอบใส่ยาสเตรอยด์ลงในยาแผนโบราณ เพื่อต้องการให้ผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวรู้สึกว่าอาการป่วยดีขึ้นและหายเร็วทันใจ อีกทั้งยังมีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงว่า สามารถรักษาได้สารพัดโรค เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เอดส์ เบาหวาน เนื้องอกทุกชนิด ต่อมลูกหมากโต ฯลฯ ทำให้ประชาชนบางส่วนหลงเชื่อคําโฆษณาซื้อยาแผนโบราณดังกล่าวมาใช้จนได้รับอันตรายจากยาสเตรอยด์
อย่างไรก็ตาม สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กําหนดให้ยาสเตรอยด์เป็นยาควบคุมพิเศษ เนื่องจากเป็นยาที่มีความเป็นพิษสูง และมีผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้น การใช้ยาสเตรอยด์จึงต้องอยู่ใน ความดูแลของแพทย์ หรือให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น เพราะหากผู้บริโภครับประทานยาแผนโบราณที่มีการปนเปื้อนยาสเตรอยด์เป็นระยะเวลานาน ๆ อาจทําให้เกิดอันตรายต่อระบบร่างกายได้ เช่น กระเพาะอาหารทะลุหรือเลือดออกในกระเพาะอาหาร กระดูกพรุน กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกิดการสะสมไขมันผิดที่ ใบหน้ากลมบวมแบบพระจันทร์ (Moon Face) ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้น ทําให้กลไกการทํางานต่าง ๆ ของร่างกายเสียไปและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ยาแผนโบราณ
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อโฆษณายาแผนโบราณใด ๆ ที่อวดอ้างสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรค เพราะนอกจากจะเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้องแล้ว ยังต้องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ มิหนําซ้ำอาจได้รับอันตรายจากการปนเปื้อนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากต้องการซื้อยาแผนโบราณมาใช้ ขอให้ซื้อจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตขายยาเท่านั้น หรือหากจําเป็นต้องใช้ยาในการรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนซื้อหรือใช้ยาทุกครั้ง และขอให้ผู้บริโภคพิจารณาและอ่านฉลากให้ถ้วนถี่เสียก่อน โดยฉลากต้องระบุชื่อยา เลขทะเบียนตํารับยา เช่น ทะเบียนยาเลขที่ G 888/50 ปริมาณของยาที่บรรจุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตยา และแสดงคําว่า "ยาแผนโบราณ" ให้เห็นได้ชัด หรือแสดงคําว่า "ยาสามัญประจําบ้าน" กรณีเป็นยาสามัญประจําบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยาจาก อย. หรือมีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค ขอให้ร้องเรียนมายังสายด่วน อย. โทร.1556 หรืออีเมล : 1556@fda.moph.go.th หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะได้ตรวจสอบและดําเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค