คกก.ยาเห็นชอบยกระดับยาสำหรับสัตว์ 4 กลุ่ม รวมไซลาซีน เป้นยาควบคุมพิเศษ หลังมีเหตุคนร้ายนำมาใช้มอมคนไข้และญาติในโรงพยาบาล ชี้ซื้อได้ต่อเมื่อมรใบสั่งจากสัตวแพทย์เท่านั้น
วันนี้ (30 ต.ค.) นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการยา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์ เสนอให้ยกระดับยาอันตรายเป้นยาควบคุมพิเศษใน 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มแอลฟา ทู แอดดริเนอจิก อโกนิสต์ (Alpha-2-adrenergic agonist) โดยสารไซลาซีนซึ่งมีมิจฉาชีพนำมาใช้มอมคนไข้และญาติในโรงพยาบาลก็อยู่ในกลุ่มนี้ 2.กลุ่มเบนโซไดอาซีพีน เดริเวทีฟ (Benzodiazepine derivative) 3.กลุ่มบิวไทโรฟีโนน เดริเวทีฟ (Butyrophenone) และ 4.กลุ่มฟีโนไทอาซีน เดริเวทีฟ (Phenothiazine derivative) ทั้งนี้ ยาทั้ง 4 กลุ่ม จัดเป็นยาสำหรับสัตว์ที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง เมื่อยกระดับเป็นยาควบคุมพิเศษแล้ว จะต้องมีใบสั่งจากสัตวแพทย์เท่านั้นจึงจะซื้อได้ หลังจากนี้จะเสนอต่อ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ลงนาม เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
“หลังจากยกระดับก็จะมีความเข้มงวดในการใช้มากขึ้น โดยต่อจากนี้ต้องมีข้อความในฉลากและเอกสารกำกับยา ดังนี้ “ขายยาตามใบสั่งผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่งเท่านั้น และใช้ภายใต้การกำกับดูแลโดยผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่งเท่านั้น” และให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายจัดทำบัญชีและเก็บรายงานไว้ที่สถานประกอบการผลิต นำเข้าและจำหน่าย ไม่น้อยกว่าวันหมดอายุของรุ่นการผลิตของยานั้น เพื่อให้ อย.ตรวจสอบได้” รองเลขาธิการ อย.กล่าวและว่า นอกจากนี้ จะมีโทษในกรณี 1.ผู้รับอนุญาตคือเจ้าของร้านขายยา หรือสถานพยาบาลสัตว์ หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบจะมีโทษปรับ ตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท และ 2.ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการหรือเภสัชกรและสัตวแพทย์ หากมีการจำหน่ายยาที่ไม่มีใบสั่งจากสัตวแพทย์จะมีโทษปรับ 1,000-5,000 บาท
วันนี้ (30 ต.ค.) นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการยา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์ เสนอให้ยกระดับยาอันตรายเป้นยาควบคุมพิเศษใน 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มแอลฟา ทู แอดดริเนอจิก อโกนิสต์ (Alpha-2-adrenergic agonist) โดยสารไซลาซีนซึ่งมีมิจฉาชีพนำมาใช้มอมคนไข้และญาติในโรงพยาบาลก็อยู่ในกลุ่มนี้ 2.กลุ่มเบนโซไดอาซีพีน เดริเวทีฟ (Benzodiazepine derivative) 3.กลุ่มบิวไทโรฟีโนน เดริเวทีฟ (Butyrophenone) และ 4.กลุ่มฟีโนไทอาซีน เดริเวทีฟ (Phenothiazine derivative) ทั้งนี้ ยาทั้ง 4 กลุ่ม จัดเป็นยาสำหรับสัตว์ที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง เมื่อยกระดับเป็นยาควบคุมพิเศษแล้ว จะต้องมีใบสั่งจากสัตวแพทย์เท่านั้นจึงจะซื้อได้ หลังจากนี้จะเสนอต่อ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ลงนาม เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
“หลังจากยกระดับก็จะมีความเข้มงวดในการใช้มากขึ้น โดยต่อจากนี้ต้องมีข้อความในฉลากและเอกสารกำกับยา ดังนี้ “ขายยาตามใบสั่งผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่งเท่านั้น และใช้ภายใต้การกำกับดูแลโดยผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่งเท่านั้น” และให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายจัดทำบัญชีและเก็บรายงานไว้ที่สถานประกอบการผลิต นำเข้าและจำหน่าย ไม่น้อยกว่าวันหมดอายุของรุ่นการผลิตของยานั้น เพื่อให้ อย.ตรวจสอบได้” รองเลขาธิการ อย.กล่าวและว่า นอกจากนี้ จะมีโทษในกรณี 1.ผู้รับอนุญาตคือเจ้าของร้านขายยา หรือสถานพยาบาลสัตว์ หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบจะมีโทษปรับ ตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท และ 2.ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการหรือเภสัชกรและสัตวแพทย์ หากมีการจำหน่ายยาที่ไม่มีใบสั่งจากสัตวแพทย์จะมีโทษปรับ 1,000-5,000 บาท