MGR ออนไลน์ - ประธานหอการค้าอเมริกันในกัมพูชา (AmCham) ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงสถานทูตสหรัฐฯ แสดงความกังวลเร่งด่วนเกี่ยวกับคำแถลงของกองทัพไทยที่ระบุว่าไทยอาจกำหนดให้ท่าเรือของกัมพูชาเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง และสกัดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิงและสินค้า
ในจดหมายลงวันที่ 15 ธ.ค. ถึงอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพนมเปญ เคซีย์ บาร์เน็ตต์ ประธาน AmCham ได้ขอให้สถานทูตสหรัฐฯ ส่งต่อความกังวลของธุรกิจอเมริกันไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ และผู้นำไทย
บาร์เน็ตต์กล่าวว่า มีธุรกิจที่ชาวอเมริกันเป็นเจ้าของจดทะเบียนในกัมพูชาประมาณ 865 แห่ง และหลายร้อยแห่งทำงานร่วมกับผู้ผลิตในกัมพูชาเพื่อผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อเมริกันต่างๆ บริษัทเหล่านี้เป็นตัวแทนของการลงทุนของสหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในกัมพูชา ที่จัดหาสินค้าและบริการคุณภาพสูงและมีราคาเหมาะสมสำหรับครอบครัวและผู้บริโภคชาวกัมพูชาและชาวอเมริกัน
เขาระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชามีความแข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 ด้วยการลงนามในข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน ชาวอเมริกันหลายพันคนอาศัยอยู่ในกัมพูชากับครอบครัว ลูกหลาน และคนที่รัก ชาวอเมริกันได้ตั้งโรงเรียนและบริการด้านสุขภาพจำนวนมากในกัมพูชา
“ดังนั้น เราจึงมีความกังวลอย่างยิ่งต่อถ้อยแถลงของกองทัพไทยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ขู่ว่าจะพิจารณากำหนดให้ท่าเรือกัมพูชาเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง และปิดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิงและสินค้าอื่นๆ ทางทะเล” ประธาน AmCham ระบุ
บาร์เน็ตต์ระบุว่าการปิดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิงจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อครอบครัวและธุรกิจของชาวอเมริกันในกัมพูชา ธุรกิจของชาวอเมริกันจะปิดตัว และครอบครัวชาวอเมริกันจะประสบปัญหาในการตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งและพลังงานขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน รวมถึงสำหรับโรงเรียนและการรักษาพยาบาล พลเรือนชาวอเมริกันจะเดือดร้อน
บาร์เน็ตต์ยังระบุว่าอีกว่า การค้าส่วนใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชาดำเนินการผ่านทางเรือสินค้า การกำหนดให้ท่าเรือพลเรือนของกัมพูชาเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง จะทำให้ค่าประกันภัยและค่าขนส่งมีราคาสูงเกินไป ซึ่งจะทำลายการค้าที่กำลังเติบโตระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชา
“นอกจากนี้ ยังจะผลักดันให้คนงานในภาคการผลิตที่ยากจนและเปราะบางที่สุดกว่า 1 ล้านคนต้องตกอยู่ในความยากจน การข่มขู่ของไทยต่อท่าเรือกัมพูชาและการขนส่งเชื้อเพลิง เป็นการยกระดับความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นและโหดร้าย ที่สร้างความทุกข์ทรมานอย่างมหาศาลแก่ประชาชนพลเรือน” บาร์เน็ตต์ กล่าวเสริม.


