MGR ออนไลน์ - ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชากล่าวยืนยันว่ากัมพูชาไม่เคยร้องขอให้ไทยเปิดด่านอีกครั้ง โดยมองว่าการปิดด่านชายแดนกลับเป็นโอกาสในการเสริมสร้างการผลิตในประเทศให้เข้มแข็ง
ฮุนเซนได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียช่วงค่ำวันนี้ แสดงความยินดีกับการพัฒนาเชิงบวกหลังการลงนามในคำแถลงร่วมระหว่างกัมพูชาและไทยโดยนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ที่ได้รับการอำนวยความสะดวกจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในฐานะทูตสันติภาพ นอกจากนี้ยังแสดงความยินดีต่อการจัดการประชุม JBC และ RBC รวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่พิพาทในเบื้องต้น ภายใต้การกำกับดูแลและตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)
“สิ่งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การยุติหรือคลายความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ การพัฒนาที่เราทุกคนควรเฉลิมฉลอง” ฮุนเซนเน้นย้ำ
“อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผมแสดงความชื่นชม แต่ผมเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งต่อประชาชนชาวกัมพูชาไม่ให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนกัมพูชา-ไทยอีกครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา ผู้นำไทยบางคนได้หยิบยกประเด็นการเปิดด่านขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่อาจกลายเป็นหัวข้อในการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในไทย” ฮุนเซน ระบุ
ฮุนเซนระบุว่าการแสดงความเห็นซ้ำๆ ของผู้นำไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดน ได้ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทย ทำให้บางคนเชื่อว่ากัมพูชาได้ร้องขอให้ไทยเปิดด่านชายแดนอีกครั้ง
อดีตผู้นำกัมพูชากล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้ชาวกัมพูชาต้องเข้านอนไปพร้อมกับข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด สำหรับประชาชนไทย เขาระบุว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องภายในประเทศที่อาจถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง โดยการเปิดด่านอีกครั้งนั้นอาจถูกนำไปใช้เป็นหัวข้อหาเสียง
“ถึงชาวกัมพูชา ผมขอย้ำอีกครั้งว่านับตั้งแต่ไทยปิดด่านฝ่ายเดียว กัมพูชาก็ไม่เคยร้องขอให้ไทยเปิดด่าน หากไทยต้องการที่จะปิดด่านต่อไปอีก 100 ปี หรือ 500 ปี นั่นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขาทั้งสิ้น เพราะในที่สุดแล้วกุญแจอยู่ในมือของไทย” ฮุนเซนย้ำ
ฮุนเซนยืนยันว่าการปิดด่านครั้งนี้ไม่ได้ทำให้กัมพูชาล่มสลาย แต่กลับสร้างโอกาส ส่งผลให้สินค้าภายในประเทศเพิ่มขึ้น แทนที่สินค้าไทย และกระตุ้นการเติบโตของการผลิตภายในประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น ฮุนเซนยังเน้นย้ำว่าการปิดด่านของไทยกับกัมพูชาไม่เพียงแต่เป็นการตัดขาดความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำให้อาเซียนและเอเชียหยุดชะงักไปทั้งหมด
“แล้วทางหลวงอาเซียน ทางรถไฟอาเซียน และทางหลวงสายเอเชียจะเป็นอย่างไร?” ฮุนเซนตั้งคำถาม
“ผมหวังว่าข้อความนี้จะไปถึงผู้นำไทยและประชาชนชาวไทย และชี้ให้เห็นชัดเจนว่ากัมพูชาไม่ได้อ้อนวอนให้เปิดด่านชายแดนอีกครั้ง เช่นเดียวกัน ผมหวังว่าประชาชนชาวกัมพูชาจะไม่ถูกทำให้เข้าใจผิดและคิดไปว่ารัฐบาลของพวกเขากำลังลดตัวลงไปร้องขอความร่วมมือจากไทยให้เปิดด่านชายแดนอีกครั้ง” ฮุนเซน กล่าวสรุป.


