MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาออกมายืนยันอีกครั้งว่ากัมพูชาไม่ได้ทำข้อตกลงลับหรือยกดินแดนในความพยายามของประเทศที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนกับไทย และย้ำว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมายบนพื้นฐานของความโปร่งใสและการเคารพซึ่งกันและกัน
ในข้อความที่โพสต์บนหน้าเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของฮุน มาเนต วันนี้ (23) หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ในมาเลเซีย และการประชุมสมัยพิเศษของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในไทย เสร็จสิ้นลง ฮุน มาเนต ระบุว่า ความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขสถานการณ์บ้านโจกเจย และบ้านเปรยจัน (บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว) มีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินการเจราโดยยึดหลักการทางเทคนิคและกฎหมาย
“สถานการณ์ขณะนี้ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งด้วยความชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าก่อน โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือโดยยึดหลักเทคนิคและกฎหมายเพื่อหาทางออกอย่างสันติ” ฮุน มาเนต ระบุ
ผู้นำกัมพูชากล่าวว่าปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อทหารไทยใช้ลวดหนามและยานพาหนะทางทหารเข้าล้อมบ้านเรือนหลายหลังและพื้นที่เพาะปลูกของชาวกัมพูชา สถานการณ์ยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือน และสร้างความยากลำบากให้กับชาวบ้านในพื้นที่
เขาย้ำว่าตั้งแต่แรกนั้น เป้าหมายของรัฐบาลกัมพูชาคือการป้องกันสถานการณ์ลุกลามบานปลาย และต้องการแก้ไขโดยเร็วที่สุดด้วยสันติวิธี
“เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลกัมพูชาพยายามใช้ความอดทนและสันติวิธีอย่างต่อเนื่องในการหาทางออก เพราะการใช้ความรุนแรงใดๆ จะไม่เพียงแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่อาจขยายขอบเขตของความขัดแย้ง สร้างความเสียหายต่อประชาชนมากขึ้น และทำให้การหาทางออกยากยิ่งขึ้น” ฮุน มาเนต ระบุ
ฮุน มาเนต ยังยอมรับถึงความคับข้องใจของประชาชนที่อาจมองว่าการตอบสนองอย่างใจเย็นและระมัดระวังของรัฐบาลนั้นไร้ประสิทธิภาพท่ามกลางความตึงเครียดสูงในพื้นที่
เขายังระบุอีกว่าการกระทำบางอย่างของฝ่ายไทย ที่ประกอบด้วยการกวาดล้างทุ่นระเบิด การจัดสรรที่ดิน และการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ประชาชนวิตกกังวลมากขึ้น และนำไปสู่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชา
ฮุน มาเนต ยังกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากัมพูชาได้ยอมยกดินแดนหรือทำข้อตกลงลับกับไทย
“ผมขอยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่มีข้อตกลงลับหรือการยกดินแดนภายใต้อำนาจอธิปไตยโดยชอบด้วยกฎหมายของกัมพูชาให้แก่ประเทศใด เพื่อแลกกับการหยุดยิงหรือการเจรจาสันติภาพ” ฮุน มาเนต ย้ำ
ผู้นำกัมพูชาย้ำว่าการปักปันเขตแดนยังคงเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่ยังคงดำเนินการตามสนธิสัญญา อนุสัญญา และข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างสองประเทศ และเสริมว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะดำเนินงานทางเทคนิคต่อไป ที่รวมทั้งการสำรวจร่วมและการวางเครื่องหมายชั่วคราวโดยอ้างอิงจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจว่ามติในอนาคตจะสะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของผู้อยู่อาศัยทั้งสองฝ่าย
เขากล่าวว่าวิธีการนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ที่รับประกันสันติภาพและเสถียรภาพสำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน
“ด้วยวิธีการนี้เท่านั้นที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุทางออกที่ยุติธรรมและยั่งยืน ที่จะช่วยยุติสถานการณ์ในหมู่บ้านโจกเจยและหมู่บ้านเปรยจัน และทำให้คนท้องถิ่นกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและกลับสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้ปัญหายืดเยื้อไม่มีที่สิ้นสุดไปจนถึงอนาคต” ฮุน มาเนต ระบุ.


