xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - พรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองเวียดนามกำลังตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีให้ขยายตัวเร็วขึ้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงก็ตาม

ร่างเอกสารที่เตรียมสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคที่กำลังจะมีขึ้นระบุว่าพรรคคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อปี ในช่วงปี 2569-2573

เวียดนามตั้งเป้าการเติบโทางเศรษฐกิจไว้ที่ 6.5%-7.0% ต่อปีในช่วงปี 2564-2568 แต่เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยที่ประมาณ 5.7% ต่อปีในช่วงปี 2564-2567 แม้ว่าในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงกว่า 8% ก็ตาม

ร่างเอกสารดังกล่าวเป็นการเตรียมการสำหรับการหารือในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายหลักของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า การประชุมสมัชชาที่จัดขึ้นทุก 5 ปี คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากรัฐสภาปิดสมัยประชุมในกลางเดือนธ.ค. แต่ยังไม่ได้ประกาศวันที่แน่นอน

เจ้าหน้าที่ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวเป็น 8,500 ดอลลาร์ภายในปี 2573 ตามเอกสารที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์ของพรรค เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 4,700-5,000 ดอลลาร์ สำหรับช่วงปี 2564-2568 โดยปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4,700 ดอลลาร์

“ในอีก 5 ปีข้างหน้า ประเทศของเราจะเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายหลายอย่าง โดยคาดว่าบางแง่มุมอาจเลวร้ายและรุนแรงกว่าช่วง 5 ปีก่อนหน้า” เอกสารระบุ

ประเทศที่พึ่งพาการส่งออกแห่งนี้กำลังเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้า 20% สำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดหลัก และในบรรดาความท้าทายทางเศรษฐกิจต่างๆ พรรคระบุว่าเวียดนามเสี่ยงที่จะล้าหลังด้านเทคโนโลยี และกำลังเผชิญกับภาวะประชากรสูงอายุเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจำเป็นต้องรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการทุจริตคอร์รัปชั่น

พรรคมีเป้าหมายที่จะพัฒนารูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบใหม่โดยให้เศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นพลังขับเคลื่อน และรัฐมีบทบาทนำ เอกสารระบุ

เพื่อกระตุ้นการเติบโตและชดเชยรายได้จากการค้าที่อาจลดลง พรรคยังวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐกับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอื่นๆ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเป็นประมาณ 5% ของจีดีพีในช่วง 5 ปีข้างหน้า จาก 3.1%-3.2% ในช่วงปี 2564-2568

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเวียดนามยังมีช่องว่างอีกมากที่จะทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากหนี้สาธารณะอยู่ในระดับต่ำกว่า 35% ของจีดีพีปีที่แล้ว

เอกสารยังระบุว่าสถานการณ์โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในทิศทางที่ซับซ้อนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมกับการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเตือนว่าความเสี่ยงของสงครามก็ยังมีอยู่สำหรับเวียดนาม.
กำลังโหลดความคิดเห็น