รอยเตอร์ - บริษัทเทรย์ตัน กรุ๊ป (Trayton Group) ได้ลงนามข้อตกลงย้ายฐานการผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ของบริษัทจากจีนมายังเวียดนาม เพียงหนึ่งวันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้ง และนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ จะไม่เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์นี้ ผู้บริหารของเทรย์ตัน กรุ๊ป กล่าวกับรอยเตอร์
ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ขนาดกลางรายนี้ ที่ปฏิเสธจะเปิดเผยรายได้ของบริษัท ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ 70% ไปยังสหรัฐฯ ที่โซฟาและเก้าอี้เท้าแขนถูกจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อผู้ค้าปลีกชั้นนำและภายใต้แบรนด์ Simon Li ในเครือร้านค้ารายใหญ่ต่างๆ รวมถึง Cosco
เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ได้ลงนามในเอกสารเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. ที่อาจเพิ่มขึ้นเป็น 50% สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้ครัว และ 30% สำหรับหนังหุ้มเก้าอี้และเครื่องเบาะ จากที่เขากล่าวก่อนหน้านี้ว่าภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.
ไซมอน ลิกเทนเบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท กล่าวว่าเทรย์ตันได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องเบาะ และว่าอัตราภาษีนี้อาจทำให้กำไรลดลง แต่มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันจะเป็นผู้รับภาระนี้เป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะต้องจ่ายมากขึ้น
การย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม ที่ปัจจุบันเทรย์ตันส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ 50 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อสัปดาห์ ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้อง ไซมอน ลิกเทนเบิร์ก กล่าวกับรอยเตอร์ และระบุว่าภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีอัตราสูงกว่ากับสินค้าส่งออกจากจีน ที่บริษัทยังคงมีแรงงานต่างชาติอยู่มากกว่า 1,000 คน
ในโพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ทรัมป์ระบุว่า “ผมจะเก็บภาษีนำเข้าจำนวนมากกับประเทศใดก็ตามที่ไม่ได้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในสหรัฐฯ”
“แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะผลิตในสหรัฐฯ เพราะต้นทุนสูงเกินไปและแรงงานมีฝีมือหายาก” ลิกเทนเบิร์กกล่าว
โจนาธาน โซเตอร์ ผู้บริหารบริษัทโจนาธาน ชาร์ลส์ ไฟน์ เฟอร์นิเจอร์ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้คุณภาพสูง ที่มีพนักงานฝีมือ 2,500 คนในเวียดนามและส่งออกสินค้าประมาณ 60 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือนไปยังสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาพยายามที่จะส่งออกสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ มากขึ้น ในส่วนของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจทำให้กำไรลดลง และราคาที่ปรับสูงขึ้นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
“อย่างไรก็ตาม เราไม่มีความตั้งใจที่จะผลิตในสหรัฐฯ” โซเตอร์ กล่าวเสริม โดยระบุว่าแรงงานของบริษัทไม่สามารถหาทดแทนได้ในอเมริกา
การย้ายฐานการผลิตเพื่อส่งออกส่วนใหญ่มายังเวียดนามของบริษัทเทรย์ตัน สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของคู่แข่งรายใหญ่จากจีน เช่นบริษัท Man Wah Furniture 1999 และบริษัท KUKA Home ที่ต่างย้ายการผลิตจากจีนไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อเลี่ยงภาษีสหรัฐฯ
จากข้อมูลของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าเวียดนามอาจอยู่ในเส้นทางที่จะแซงจีนในฐานะซัปพลายเออร์เฟอร์นิเจอร์หลักให้กับสหรัฐฯ ในปีนี้
ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไปยังสหรัฐฯ มูลค่าเกือบ 8,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ขณะที่การส่งออกจากจีนชะลอตัวลงเหลือ 8,400 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน
สหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับเฟอร์นิเจอร์และสินค้าจากไม้ที่ผลิตในเวียดนาม ที่ถือเป็นภาคการส่งออกใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเวียดนาม ไปยังประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
ผู้ส่งออกที่มีฐานในเวียดนามต่างตกตะลึงเมื่อมีการประกาศภาษีตอบโต้ครั้งแรก แต่ลิกเทนเบิร์กมองว่าผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของบริษัทจะยังคงดึงดูดผู้ซื้อที่ไม่ค่อยคำนึงถึงต้นทุนมากนัก
“ผู้บริโภคไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาเฟอร์นิเจอร์มากนัก เพราะพวกเขาไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์กันทุกปี” ลิกเทนเบิร์ก กล่าว.