xs
xsm
sm
md
lg

พม่าตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลก่อนการเลือกตั้ง ‘มินอ่องหล่าย’ นั่งรักษาการประธานาธิบดีตามเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - กองทัพพม่าได้โอนอำนาจอย่างเป็นทางการให้กับรัฐบาลเฉพาะกาลในวันนี้ (31) ก่อนการเลือกตั้งที่วางแผนจัดในเดือนธ.ค. โดยพล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยังคงทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี

ประกาศที่เผยแพร่ในสื่อของรัฐระบุว่ากฤษฎีกาที่ให้อำนาจแก่กองทัพหลังจากการรัฐประหารในปี 2564 ถูกยกเลิกแล้ว และมีการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้นใหม่ พร้อมกับคณะกรรมการพิเศษเพื่อกำกับดูแลการเลือกตั้ง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ของพม่า โดยพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำการรัฐประหาร ยังคงรักษาอำนาจสำคัญทั้งหมดในฐานะรักษาการประธานาธิบดี ขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาล กล่าวว่าสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้ตั้งแต่การรัฐประหาร ที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันพฤหัสฯ นี้ หลังจากขยายเวลาออกไปถึง 7 ครั้ง ได้ยกเลิกแล้ว

“รักษาการประธานาธิบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวว่า 6 เดือนข้างหน้านี้เป็นช่วงเวลาในการเตรียมการและจัดการเลือกตั้ง” ซอ มิน ตุน กล่าวกับสื่อของรัฐ

พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่การรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่ได้รับเลือกตั้งของอองซานซูจี ที่ทำให้ประเทศตกอยู่ในสงครามกลางเมือง โดยกองทัพต่อสู้เพื่อปราบปรามการต่อต้านและถูกกล่าวหาว่ากระทำความโหดร้ายทารุณอย่างกว้างขวาง ซึ่งกองทัพปฏิเสธ

รัฐบาลตะวันตกมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องหลอกลวงเพื่อเสริมอำนาจให้เหล่านายพล และคาดว่าจะถูกครอบงำโดยตัวแทนของกองทัพ ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านถูกห้ามไม่ให้ลงสมัครหรือปฏิเสธการเข้าร่วม

เดวิด แมทธีสัน นักวิเคราะห์อิสระที่มุ่งเน้นประเด็นพม่า กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจเป็นเพียงการเสริมแต่ง และผู้มีอำนาจจะยังคงใช้อำนาจในทางมิชอบและกดขี่ข่มเหงต่อไป

“พวกเขากำลังปรับแต่งของเดิมและเรียกด้วยชื่อใหม่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในระยะใกล้ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่เรายังไม่ทราบอะไรมากนัก” เดวิด แมทธีสัน กล่าว

ขอบเขตของผลกระทบของสงครามกลางเมืองต่อการเลือกตั้งที่วางแผนไว้ยังคงไม่ชัดเจน และในความพยายามที่จะสร้างรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รัฐบาลทหารได้จัดทำสำมะโนประชากรทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะดำเนินการสำรวจไปได้เพียง 145 ตำบลจากทั้งหมด 330 ตำบลของประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงการขาดการควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

ในการประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมในวันพฤหัสฯ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่าการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งจะจัดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ในเดือนธ.ค. และเดือนม.ค. เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง รายงานข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์ MRTV ของรัฐบาลระบุ

รายงานระบุว่าจะมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกและสถานการณ์ฉุกเฉินในกว่า 60 ตำบล ใน 9 ภาคและรัฐ เนื่องจากภัยคุกคามจากความรุนแรงและการก่อความไม่สงบ หลายแห่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่กองทัพกำลังเผชิญกับการต่อต้านอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนจากกลุ่มติดอาวุธ

กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนสนับสนุนความพยายามของพม่าที่จะบรรลุสันติภาพและความปรองดอง

กองทัพได้สังหารผู้คนไปมากกว่า 6,000 คน และควบคุมตัวโดยพลการอีกกว่า 20,000 คน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร ตามการรายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากล รายงานของหน่วยงานในเดือนม.ค. ยังระบุว่า พม่ากลับมาใช้การลงโทษด้วยการประหารชีวิตอีกครั้ง และประชาชนมากกว่า 3.5 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ

กองทัพพม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดเหล่านั้น โดยระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลของชาติตะวันตก

กองทัพให้เหตุผลของการรัฐประหารในปี 2564 ว่าเป็นการแทรกแซงที่จำเป็นหลังจากที่กองทัพระบุว่ามีการทุจริตอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งก่อนหน้านั้นที่พรรคของซูจีเป็นฝ่ายชนะ ขณะที่องค์กรสังเกตการณ์การเลือกตั้งระบุว่าไม่พบหลักฐานการฉ้อโกงที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น