รอยเตอร์ - พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผยวันนี้ (16) ว่าผู้นำอันดับ 5 ของประเทศลาออกจากตำแหน่ง ที่นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนที่ 3 ที่ลาออกภายในระยะเวลา 2 เดือน ในขณะที่พรรครัฐบาลดำเนินการปรับเปลี่ยนตำแหน่งครั้งใหญ่
การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งระดับสูงของรัฐพรรคเดียวแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากหลายสัปดาห์ของความวุ่นวายทางการเมือง ระหว่างที่ประธานสมัชชาแห่งชาติ และประธานาธิบดีของประเทศต่างลาออกเนื่องจากข้อกล่าวหาที่ไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำผิด
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่ทวีความรุนแรงขึ้น ที่ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศที่พึ่งพาการลงทุนแห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่ามีเสถียรภาพ
เจือง ถิ มาย อายุ 66 ปี ถูกพรรคกล่าวหาว่ามีการละเมิดและข้อบกพร่อง ที่เกิดขึ้นเมื่อเธอดำรงตำแหน่งผู้นำอีกตำแหน่งหนึ่งระหว่างปี 2559-2564 ตามคำแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์พรรค
มายเป็นผู้หญิงคนเดียวในโปลิตบูโร องค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจด้านนโยบายของประเทศ และเธอยังเป็นสมาชิกถาวรของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรค และถูกชักชวนให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย
จากการลาออกของเธอ ทำให้เหลือผู้นำเพียง 2 คนจาก 5 คน เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งของพวกเขา นั่นก็คือ เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรค และฝ่าม มีง จีง นายกรัฐมนตรี
อดีตประธานาธิบดีหวอ วัน เถือง ลาออกในเดือน มี.ค. เพียงหนึ่งปีกว่าๆ หลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาแทนที่ประธานาธิบดีอีกคนหนึ่งที่ลาออกเช่นกัน
นักลงทุนต่างชาติได้แสดงความกังวลอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับการชะงักงันของฝ่ายบริหารที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำบ่อยครั้ง และการสืบสวนที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากการปราบปรามการรับสินบน
ในระหว่างการประชุมของคณะกรรมการกลางพรรคในวันพฤหัสฯ (16) พรรคได้เลือกสมาชิกใหม่ของกรมการเมือง (โปลิตบูโร) 4 คน โดยการลาออกของมายทำให้เหลือสมาชิกในคณะเพียง 12 คน จากทั้งหมด 18 คน นอกจากนี้ ยังระบุว่าจะเสนอชื่อผู้สมัครประธานสภาและประธานาธิบดีคนใหม่ต่อสมัชชาแห่งชาติ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ
คาดว่าสภาจะลงมติให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในการประชุมสมัยสามัญที่จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์
สำหรับสมาชิกใหม่ของโปลิตบูโร ประกอบด้วย เหวียน จ่อง เหงียะ อายุ 62 ปี ที่เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และเป็นหัวหน้าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของพรรค และ เล มีง ฮึง อายุ 53 ปี อดีตผู้ว่าการธนาคารกลาง
นอกจากนี้ พรรคยังเลือก บุ่ย ถิ มีง ฮวาย อายุ 59 ปี เป็นสมาชิกใหม่ของโปลิตบูโร ซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม โดยเธอทำหน้าที่ต่อจากมายในตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการการระดมมวลชน องค์กรที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสาธารณะ ศาสนา และชนกลุ่มน้อย และสมาชิกใหม่คนที่ 4 ของโปลิตบูโร คือ โด๋ วัน เชียน อายุ 62 ปี ที่เป็นประธานแนวร่วมปิตุภูมิ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายทางสังคม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคจะเลือกสมาชิกอีก 2 คน ของโปลิตบูโรที่ยังขาดอยู่เมื่อใด.