เอเอฟพี - ประชาชนในเมืองศูนย์กลางทางการค้าของพม่าหลบหนีข้ามพรมแดนมายังฝั่งไทยในวันอังคาร (9) ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิด หลังจากกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ประกาศว่าพวกเขาสามารถยึดค่ายทหารสำคัญในบริเวณใกล้เคียงได้ ตามการเปิดเผยของคนในพื้นที่
นักรบของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า พวกเขาสามารถยึดค่ายทหารที่อยู่ห่างจากเมืองเมียวดีไปทางตะวันตกราว 10 กิโลเมตร โดยทหาร ตำรวจ และครอบครัวของพวกเขารวมกว่า 600 คน ยอมมอบตัวแล้ว
ชาวบ้านที่เอเอฟพีติดต่อในวันนี้กล่าวว่าพวกเขาได้ยินเสียงปืนและระเบิดดังต่อเนื่อง
“ชาวเมืองบางคนหนีออกไปแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยู่รอบสถานีตำรวจ” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี โดยขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
“เราได้ยินเสียงปืนและระเบิด เราได้ยินเสียงเครื่องบินบินผ่านไปด้วย” ชาวบ้านระบุ
พวกเขากล่าวว่าไม่มีสมาชิกของ KNU ในเมืองและสะพานที่เชื่อมระหว่างเมืองเมียวดีและ อ.แม่สอดของไทยยังคงเปิดอยู่
“ผมได้ยินเสียงระเบิดดัง 2 ครั้ง ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดบริการ คนในเมืองพากันข้ามไปฝั่งไทย” ชาวเมืองเมียวดีอีกรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังระบุว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือของพม่าใช้การไม่ได้ ผู้อยู่อาศัยในเมืองต้องใช้ซิมการ์ดของไทย
ทั้งนี้ รัฐบาลทหารไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องของเอเอฟพีที่ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ KNU เรื่องการมอบตัวที่ค่ายทหารในเมือง Thingannyinaung
ชาวเมือง Thingannyinaung รายหนึ่งกล่าวว่าเธอหนีออกจากบ้านตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนหลังจากมีการปะทะเกิดขึ้น และตอนนี้กำลังหลบภัยอยู่ที่ชายแดนไทย
“ผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำติดพรมแดนไทย เราเห็นคนหลายพันคนจากหมู่บ้านต่างๆ เดินทางมาที่ชายแดนทุกวัน” ชาวพม่าระบุ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกล่าวในวันนี้ (9) ว่าทางการไทยได้เตรียมแผนรับผู้อพยพจากพม่า 100,000 คน หลังมีรายงานการปะทะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ไทยมีพรมแดนติดกับพม่าราว 2,400 กิโลเมตร และพม่ากำลังติดพันอยู่กับสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2564
เมืองเมียวดีตั้งอยู่บนทางหลวงสายเอเชียที่ตัดผ่านจากชายแดนไทยไปยังนครย่างกุ้ง เมืองที่ใหญ่ที่สุดของพม่า เส้นทางนี้ตัดผ่านพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยง ที่เผชิญปัญหาการสู้รบมายาวนานหลายทศวรรษระหว่างกองทัพและ KNU ที่ระบุว่าพวกเขากำลังแสวงหาการปกครองตนเองสำหรับประชากรชาวกะเหรี่ยง
นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 KNU ได้ให้ที่พักพิงแก่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของรัฐบาลทหาร และฝึกกองกำลังพิทักษ์ประชาชนที่กำลังต่อสู้เพื่อโค่นล้มการปกครองของทหาร
กระทรวงพาณิชย์ของรัฐบาลทหารระบุว่าการค้าผ่านเมืองเมียวดีตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2566 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2567 มีมูลค่ากว่า 1,100 ล้านดอลลาร์
กองกำลังพิทักษ์ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (BGF) ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธที่เคยร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพและควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเมียวดี ประกาศในปีนี้ว่าจะไม่รับคำสั่งจากรัฐบาลทหารอีกต่อไป ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะยิ่งทำให้สถานภาพของกองทัพในรัฐกะเหรี่ยงอ่อนแอลงอีก.