รอยเตอร์ - พม่าวางแผนที่จะจัดการเลือกตั้งหากประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ แต่อาจไม่สามารถจัดได้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวกับสื่อต่างชาติขณะที่รัฐบาลทหารกำลังต่อสู้เพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านในหลายแนวรบ
กองทัพที่อยู่ในอำนาจนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อ 3 ปีก่อน ยังคงวางแผนที่จะนำพาประเทศกลับสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวกับสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียที่สื่อทางการพม่านำออกเผยแพร่
บรรดานายพลพม่ากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจ จากการลุกฮือของกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยนำโดยเยาวชน และแปรเปลี่ยนไปสู่ขบวนการต่อต้านด้วยอาวุธหลังการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารต่อการชุมนุมประท้วง
กองทัพกำลังต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ในภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ และผู้ฝ่ายต่อต้านกล่าวหาว่ากระทำสิ่งโหดร้ายป่าเถื่อนอย่างเป็นระบบ ที่กองทัพปฏิเสธ
“หากประเทศสงบสุขและมั่นคง เรามีแผนที่จะจัดการเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ แม้ว่าการเลือกตั้งจะไม่จัดขึ้นทั่วประเทศตามกฎหมายก็ตาม” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าว
รัฐบาลทหารได้ขยายการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินหลายครั้งในทุก 6 เดือน โดยอ้างถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของประเทศ และปราบปรามฝ่ายตรงข้าม ที่พวกเขาระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
สหประชาชาติระบุว่ากองทัพใช้อาวุธหนักและเครื่องบินรบเพื่อพยายามปราบปรามกองกำลังอาสาที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลเงาและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ที่ทำให้ประชาชนต้องพลัดถิ่นกว่า 2.3 ล้านคนนับตั้งแต่เกิดความไม่สงบจากรัฐประหาร
นักวิจารณ์และประเทศตะวันตกกล่าวว่าการเลือกตั้งของพม่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง หลังจากมีพรรคการเมืองมากกว่า 40 พรรคถูกยุบพรรคตั้งแต่รัฐประหารและกฎข้อห้ามต่างๆ ที่ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับการตั้งพรรคใหม่หรือท้าทายพรรคที่เป็นตัวแทนของทหาร.