MGR Online - เวียงจันทน์ตรวจพบการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในเมืองไซทานี ออก 8 มาตรการคุมเข้ม สั่งห้ามบริโภคและเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วย-ตายอย่างเด็ดขาด
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา กรมเลี้ยงสัตว์และการประมง กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ได้มีหนังสือแจ้งการเลขที่ 0420 มีใจความว่า ศูนย์วิจัยโรคสัตว์ตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 จากการสุ่มตรวจโดยการสวอป (SWAB Test) ปากไก่และปากเป็ด ในตลาดด่านช้าง บ้านด่านช้าง เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567
โดยจากตัวอย่างที่สุ่มตรวจ 65 ตัวอย่าง แบ่งเป็นไก่ 30 ตัวอย่าง เป็ด 30 ตัวอย่าง และเก็บตัวอย่างจากพื้นที่แวดล้อมอีก 5 ตัวอย่าง นำไปแยกหาเชื้อด้วยวิธี Real Time PCR ได้พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 จำนวนถึง 30 ตัวอย่าง และเพื่อความแน่นอน ศูนย์วิจัยโรคสัตว์ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม พบสัตว์ปีกที่กำลังป่วยอีกจำนวนหนึ่งจึงได้เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบอีก 11 ตัวอย่าง ได้พบเชื้อ H5N1 จำนวน 5 ตัวอย่าง และเชื้อ H9N2 อีก 5 ตัวอย่าง
เพื่อเป็นการกำจัดเชื้อโรคไม่ให้แพร่ลามออกไปในวงกว้าง หรือมีความเสี่ยงในการระบาดสู่คนได้นั้น กรมเลี้ยงสัตว์และการประมง จึงต้องปฏิบัติมาตรการสกัดกั้นและควบคุมการระบาด โดย
1.ให้แผนกกสิกรรมและป่าไม้ นครหลวงเวียงจันทน์ ประสานกับหน่วยงานปกครองท้องถิ่นของแต่ละเมือง ลงพื้นที่สอบสวนหาต้นตอของโรค กำหนดและประกาศขอบเขตการระบาดและเฝ้าระวังตามกฎหมาย พร้อมแจ้งให้ท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงได้รับทราบ
2.ประสานกับแผนกสาธารณสุขแขวงและเมือง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจอันตรายและความร้ายแรงของโรคไข้หวัดนก H5N1 อย่างทั่วถึง
3.ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก
4.ห้ามไม่ให้นำสัตว์ปีกที่เจ็บหรือตาย มาบริโภคอย่างเด็ดขาด
5.กำจัดสัตว์ปีกที่ตายด้วยการเผาหรือฝัง
6.ผลักดันให้เจ้าของสัตว์ฆ่า ทำลายสัตว์ปีกในฟาร์มที่ติดเชื้อ หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด
7.แนะนำให้เจ้าของสัตว์และประชาชนดูแล ทำความสะอาดบริเวณคอกเลี้ยงสัตว์ และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือโรยปูนขาวรอบบริเวณที่เลี้ยงสัตว์
8.ให้ปฏิบัติมาตรการอื่นที่เหมาะสมตามกฎหมายในการควบคุมโรคไข้หวัดนกที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดครั้งนี้ให้สงบลงได้โดยเร็วที่สุด.