เวียดนามกวาดล้างทุจริตไม่พัก จับอดีตรัฐมนตรีช่วยอีกรายฐานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ

เอเอฟพี - ตำรวจเวียดนามจับกุมอดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการค้าที่รับผิดชอบการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของประเทศ ในขณะที่ทางการคอมมิวนิสต์ทวีความเข้มข้นในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน

ฮว่าง ก๊วก เวือง ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระหว่างปี 2553-2555 และระหว่างปี 2558-2563 ถูกควบคุมตัวเมื่อวันพฤหัสฯ (4) ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตำรวจระบุในคำแถลงโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

สื่อของรัฐรายงานว่า ในปี 2555 หลังจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเป็นครั้งแรก เวืองก็ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าแห่งเวียดนาม (EVN) เป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมที่กระทรวง

ในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเป็นครั้งที่ 2 เขารับผิดชอบในด้านไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากนั้นขึ้นเป็นประธานบริษัทกลุ่มน้ำมันและก๊าซเวียดนาม โดยเกษียณจากตำแหน่งดังกล่าวในวันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ ตามข้อมูลบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐบาล

เวืองเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการค้าที่อยู่ในรายชื่อการทบทวนทางวินัยที่จัดทำโดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดที่ถูกกล่าวหาในระหว่างการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และเชื้อเพลิงอื่นๆ

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการค้าอีกรายหนึ่ง ที่อยู่ในรายชื่อทบทวนทางวินัยเช่นกัน ฐานพัวพันกับการกระทำผิดกฎหมายในบริษัทค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง

เวียดนามมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และกลุ่มประเทศร่ำรวยได้ให้คำมั่นว่าจะระดมทุนอย่างน้อย 15,500 ล้านดอลลาร์ ช่วยเวียดนามเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

แต่ทางการเวียดนามไม่อดทนยินยอมให้มีการต่อต้านการปกครองแบบพรรคเดียว ซึ่งนักวิจารณ์มักเผชิญกับการข่มขู่ การคุกคาม และถูกจำกัดการเคลื่อนไหว และรัฐบาลแทบไม่ต้องการให้มีเสียงเห็นต่างในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้เพิ่มการปราบปรามต่อการรับสินบนของเจ้าหน้าที่ทุจริตและสมาชิกของกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของประเทศ

การกวาดล้างดังกล่าวขับเคลื่อนโดยเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ที่เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องให้เดินหน้าการปราบปรามให้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ มีผู้ถูกฟ้องร้องมากกว่า 3,500 คน ในคดีรับสินบนมากกว่า 1,300 คดี นับตั้งแต่ปี 2564.