องค์การอนามัยสัตว์โลกแนะทดสอบวัคซีนโรคอหิวาต์สุกรเพิ่มเติม หลังเวียดนามประกาศพร้อมส่งออก

รอยเตอร์ - องค์การอนามัยสัตว์โลก (WOAH) เตือนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) เพิ่มเติม หลังจากเวียดนามมีแผนที่จะส่งออกวัคซีนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับโรคที่มักส่งผลกระทบกับฟาร์มหมูทั่วโลก

WOAH กล่าวว่า บริษัท AVAC Vietnam JSC ผู้ผลิตวัคซีน 1 ใน 2 ชนิด ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอกับนักวิจัยและองค์กรระดับนานาชาติ

เกรกอริโอ ตอร์เรส หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ WOAH เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่สนใจใช้วัคซีนของ AVAC ดำเนินการทดสอบด้วยตนเองก่อนอนุมัติ

นับเป็นครั้งแรกของโลก ที่เวียดนามอนุมัติรับรองวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์สำหรับป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 2 ชนิดในเดือน ก.ค. แม้โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อมนุษย์ แต่แพร่เชื้อรุนแรงในหมูและทำให้เกิดการหยุดชะงักซ้ำๆ ในตลาดเนื้อหมูทั่วโลก ที่ผู้ให้บริการข้อมูลการวิจัยและการตลาดระบุว่ามีมูลค่าราว 250,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565

ในเดือน ต.ค. บริษัท AVAC เตรียมที่จะประกาศข้อตกลงกับผู้นำเข้าวัคซีนในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย และพม่า แต่ WOAH ได้เตือนถึงความเสี่ยงจากการใช้วัคซีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยตอร์เรสกล่าวว่า การประกาศของเวีดนามนำมาซึ่งคำเตือนดังกล่าว แต่ไม่ได้เชื่อมโยงความกังวลต่อวัคซีนใดโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ AVAC กล่าวว่าวัคซีนของบริษัทไม่เป็นอันตรายและว่าการใช้งานอย่างแพร่หลายจะแสดงผลให้เห็น

“เราได้พิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และเราต้องการเวลาเพื่อพิสูจน์ต่อทุกคน รวมถึงผู้ที่แสดงความกังวลด้วย” เหวียน วัน เสียบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ AVAC กล่าวกับรอยเตอร์ แต่ไม่ได้ตอบคำถามว่าบริษัทได้แบ่งปันข้อมูลกับนักวิจัยต่างประเทศหรือไม่

เสียบกล่าวว่า วัคซีนถูกนำไปใช้อย่างปลอดภัยตามฟาร์มต่างๆ ใน 17 จังหวัดของเวียดนาม นับตั้งแต่ได้รับการรับรอง และยอดขายก็เพิ่มขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ได้ร่วมพัฒนาวัคซีน AVAC ขึ้นในเวียดนาม เนื่องจากไม่มีไวรัสนี้อยู่ในสหรัฐฯ แต่หน่วยงานไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทดลองใช้ของเวียดนามได้ โฆษกของ USDA กล่าวกับรอยเตอร์

“หากบางคนนำวัคซีนที่ไม่ดีนักเข้าสู่ตลาด มันจะส่งผลกระทบต่อทุกคน” ตอร์เรส กล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องยากที่จะประเมินวัคซีนในประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเวียดนาม เนื่องจากหมูอาจติดเชื้อจากไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนกำลังในวัคซีน ควบคู่ไปกับไวรัสตามธรรมชาติ

หลายประเทศกระตือรือร้นที่จะได้วัคซีนป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โรคที่รักษาไม่หายและมีอัตราการตายสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในฟาร์มที่มีการติดเชื้อ

ขณะเดียวกัน จีนได้พัฒนาวัคซีนขึ้นหลายตัว แต่ยังไม่มีตัวใดได้รับการรับรองเชิงพาณิชย์

AVAC มีกำลังผลิตที่ 2.5-5 ล้านโดสต่อเดือน และกำลังวางแผนที่จะส่งออก 5 ล้านโดส โดยกำลังรอการรับรองจากประเทศที่บริษัทได้ลงนามข้อตกลงการค้า เสียบกล่าว และเสริมว่าฟิลิปปินส์อาจอนุมัติในช่วงต้นปีหน้า

ตอร์เรสกล่าวว่า หน่วยงานกำลังหารือเกี่ยวกับมาตรฐานสากลใหม่สำหรับการประเมินวัคซีน ASF โดยมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการรับรองในเดือน พ.ค. ที่การประชุมสมัชชาใหญ่ของ WOAH

แม้มาตรฐานดังกล่าวจะไม่เป็นข้อบังคับ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติเป็นผู้ตัดสินใจอนุมัติ แต่สิ่งนี้อาจนำไปสู่ข้อจำกัดทางการค้ากับประเทศผู้ส่งออกเนื้อหมูที่ฉีดวัคซีนต่ำกว่ามาตรฐานให้สุกร

เดโอกราเซียส วิคเตอร์ ซาเวลลาโน ปลัดกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ประเทศของเขายังไม่อนุมัติหรือจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว โดยระบุว่าการอนุมัติรับรองของผู้ควบคุมดูแลนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากประเทศเผชิญกับภาวะฉุกเฉินระดับชาติจากการระบาดของโรค ASF

ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของฟิลิปปินส์ที่รับผิดชอบการอนุมัติวัคซีน ไม่ได้ตอบรับคำร้องขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลของอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า และมาเลเซีย ก็ไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์เช่นกัน

วัคซีน ASF ที่ได้รับการรับรองตัวที่ 2 ของเวียดนาม ผลิตโดยบริษัท Navetco Central Veterinary Medicine จากแพลตฟอร์มของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้แบ่งปันข้อมูลการทดลองที่เป็นบวก และกำลังทดสอบวัคซีนอยู่ในสาธารณรัฐโดมินิกัน USDA กล่าว.